วันนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันนัดคนไข้มะเร็งในคลินิก Medical Oncology มาพูดคุยแบ่งปันกัน จนเลยเวลานัดมานานเพิ่งมีชายสูงอายุแต่งกายภูมิฐานเดินเข้ามากับชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม: พ่อคุยกับคุณเค้าก่อนนะครับ ผมไปตามผลแล็ปก่อน เดี๋ยวผมมา....
ฝากพ่อด้วยนะครับ เขาหันมาบอกฉัน แล้วเดินออกจากห้อง ทิ้งเราไว้สองคน
ฉัน : ลูกชายน่ารักจังค่ะ คุณลุงเลี้ยงลูกดีจัง น้อยนักที่จะเห็นลูกชายดูแลพ่อแม่
คุณลุง: ใช่เค้าเป็นลูกที่ดีมาก มาเป็นเพื่อนผมทุกครั้ง บอกว่าพ่อมาเองได้ก็ไม่ยอม
แม้น้ำเสียงจะภูมิใจแต่แววตายังมีบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนไว้
ฉัน: แสดงว่า เค้าต้องรักและเป็นห่วงคุณลุงมากเลยนะคะ
คุณลุง: ผมเริ่มไม่อยากรักษาแล้ว เป็นเพราะโรคและการรักษาของผมทำให้เค้าต้องออกจากงาน ชีวิต
ผมน่าจะจบได้แล้ว เค้าจะได้ไม่ต้องมาห่วงมาเสียเวลากับผม
แล้วน้ำตาคุณลุงก็เริ่มไหล ณ จังหวะนี้เอง ชายหนุ่มก็เดินเข้ามานั่งข้างคุณลุง และส่งสายตาถาม
ฉัน:` คุณลุงบอกว่าเป็นเพราะท่านทำให้คุณต้องออกจากงาน ท่านไม่อยากมาโรงพยาบาลแล้ว
ชายหนุ่ม: ใช่ครับ เป็นเพราะพ่อทำให้ผมตัดสินใจออกจากงาน เพื่อมาเริ่มธุรกิจนี้ ซึ่งผมได้วางแผนและเตรียมการไว้นานแล้ว พ่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผมต่างหาก ให้ผมกล้าที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ผมรัก ผมสามารถกำหนดตารางชีวิตได้เอง ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดพ่อ ได้ตอบแทนในสิ่งที่พ่อให้ผมบ้าง ผมเต็มใจที่จะทำและมีความสุขที่จะทำด้วยครับ
แล้ว.....เขาก็กอดพ่อ......
การพูดสะท้อนความรู้สึกของผู้ป่วย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยตรวจสอบความถูกต้องและเปิดเผยมากขึ้น
ขออนุญาตรวบรวมไว้ ที่นี่
นับเองด้วยนะ ว่าเขียนกี่บันทึกแล้ว จะได้เอาเสื้อไปให้ตามจำนวนบันทึก
ดูขนาดเสื้อที่ https://www.facebook.com/