พริกมีประโยชน์มากมายน้ำก้านพริกแห้งดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน


อ.จันทวรรณนำมาฝากคุณพ่อดื่มแล้วหายจากโรคเบาหวาน และไตดี

ได้เข้าไปเยี่ยมชมบันทึกของน้องอ.จัน http://www.gotoknow.org/posts/112414  เห็นว่ามีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้จึงนำไปฝากกลุ่มสบายใจกับสุขภาพ วันนี้ทดลองทำดื่มดูเพราะมีพริกแห้ง ก้านพริกพอจะทำดื่มได้สักแก้ว เพื่อจะได้นำฝากเป็นบันทึกด้วย พอดียังไม่่ได้เขียนบันทึกเรื่องสรรพคุณของพริก ตามแพทย์แผนไทย และผลการทดลองวิจัยที่ได้ผลว่า ลดน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือดได้ ซึ่งจะนำฝากรวมกันไว้ ดังนี้นะคะ

 

น้ำก้านพริก

 

 

วิธีทำ

นำเฉพาะก้านพริก (ได้ทุกชนิดของพริก) แห้ง 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ต้มน้ำ 3 แก้วให้เดือดเบาๆจนเหลือประมาณ 1 แก้ว กรองด้วยตะแกรง หรือผ้าขาวบาง หรือจะให้เนื้อก้านพริกนอนก้นหม้อแล้วค่อยเทน้ำใส่แก้วดื่มก็ได้แล้วแต่สะดวก ดื่มอุ่นๆหรือเย็นก็ได้ ในการทำของผู้เขียน จะตำก้านพริกแห้งพอหยาบๆก่อน เพื่อสารอาหารออกมาได้ง่ายเร็วขึ้น น้ำที่ต้มดื่มจะมีรสเผ็ดเล็กน้อย ดื่มง่าย

 

   ถ้ามีพริกแห้งก็เด็ดออกจากผลใช้ได้เลย

 

จะตำพอแหลกหยาบหรือใส่ทั้งก้านก็ได้

 

 ขอบคุณน้องอ.จันมากนะคะ ทำให้ได้ทดลองทำดื่มเพื่อลดไขมัน

 ซึ่งร่างกายน่าจะมีผลพลอยได้อีกหลายอย่างจากก้านพริกด้วย

 

 

 

 

พริก สรรพคุณมีดังนี้

พริกขี้หนู     พริกบก ,พริกแต้ ,พริกน้ำเมี่ยง , พริกกันปิ้น ,พริกแจว (เหนือ), ดีปลีขี้นก,

                 พริกขี้นก ,ดีปลี(ใต้), พริกแกง, Capsicum ,Cayenne Pepper

พริกชี้ฟ้า   Chili Spur pepper พริกที่ใช้ทำอาหารทุกชนิดมีสรรพคุณเสมอกัน คือ

ผล   รสเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้แน่น ขับผายลม เจริญอาหาร

       ดองสุราหรือบดผสมวาสลิน ใช้ทาถูนวด หรือทาแก้เคล็ดขัดยอก ฟกช้ำดำเขียว

       แก้ปวดตามข้อ ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

ต้น  รสเผ็ด สุมเป็นถ่านแช่น้ำดื่ม รสเย็น ขับปัสสาวะ แก้กระษัย แก้เส้นเอ็นพิการ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย

 

(ขอบคุณสรรพคุณพริก จากหนังสือเภสัชกรรมไทยฯโดยวุฒิ วุฒิธรรมเวช)

 

  พริกชี้ฟ้า

 

พริกชี้ฟ้าลดน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยโรคเบาหวาน ลดไขมันในเลือด  ฯลฯ

สารสำคัญที่พบ  อยู่ในบริเวณไส้ของผลพริก คือ แคปไซซิน (Capsaicin) พบว่าสารสารนี้สามารถยับยั้งการขนส่งน้ำตาลกลูโคสผ่านลำไส้จึงมีผลให้น้ำตาลในร่างกายลดลงได้ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้พริกเผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุน ส่วนสำตัญที่ทำให้พริกมีสีส้มหรือแดง คือ แคโรทีนอยด์ ( Carotenoid) ซึ่งประกอบด้วยสารแคโรทีน(Carotene) แคปซันทิน(Capsanthin) แคปซารูบิน ( Capsarubin) ลูทีโอลิน (Luteolin) ส่วนในเมล็ดพริกมีสาร โซลานิน ( Solanine) และโซลานีดีน ( Solanidine)

  นอกจากนี้พริกยังมีสารอาหารมากมาย เช่น

ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไฟเบอร์ แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 1-2-3 วิตามินซึ เป็นต้น

สรรพคุณ

  พริกช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยเจริญอาหาร บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แกเบิด กลาก เกลื้อน พริกสามารถลดความดันโลหิตได้เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ด้วยดี

  การรับประทานพริกเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและป้องกันการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดลบอักเสบได้ พริกยังช่วยเป็นสวนผสมในชี้ผึ้งทาทูนวด เพื่ออก้อาการปวดเมื่อยบวมอละลดอาการอักเสบเพราะผิวหนังบริเวณที่ทายาจะมีเลือดมาเลี้ยงมากยิ่งขึ้น  สามารถแก้อาการเป็นตะคิวได้ เพราะพริกจะช่วยกระตุ้นบริเวณที่เป็นทำให้รู้สึกร้อนขึ้น

  นอกจากนี้พริกยังใช้เป็นส่วนผสมในยาธาตุ ยาแก้ปวดหลัง เพราะสารสกัด Capsaicin จากพริกจะช่วยกระตุ้นการหลั่งเอนไซม์บางชนิด ซึ่งทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้บีบตัวและคลายตัว

 

  พริกขึ้หนู

 

พริกขึ้หนูมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา  

ขับปัสสาวะ ลดน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลในทางเดินอาหาร เจริญอาหาร ต้านเชื้อรา ไวรัส

 

  พริกหยวก

 

พริกหยวก มีฤทธิ์ทางเภสัชวืทยา 

ต้านเชื้อรา แบคทีเรียรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดระดับน้ำตาลในเลือด

 

พริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู พริกหยวก

ส่วนที่ใช้ประกอบอาหาร    ผล

วิธีใช้ นำมาปรุงอาหาร รับประทานไม่จำกัดจำนวน

 

( ขอบคุณพริกชี้ฟ้าฯจากหนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน ,ไขมันในเลือด โดยเภสัชกรหญิงจุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก)

 

เช่นเครื่องปรุงพริกแกงเผ็ด

 

อาหารไทยเรามีมากมายที่ต้องใช้พริกแล้วทำให้อาหารอร่อย และพริกจัดเป็นสมุนไพรที่สำคัญมากที่ต้องใช้พริกเป็นเครื่องปรุงประกอบอาหาร คงต้องชวนกันทำอาหารด้วยพริกให้มากขึ้นบ่อยๆเพื่อสุขภาพ

 

พริกเป็นพืชที่ปลูกง่าย แม้ในกระถาง ขวดพลาสติก ฯ ก็ออกผลให้ได้เก็บ ขึ้นเองก็มากเวลาเทน้ำหรือพริกแก่หล่นลงพื้นดิน ตอนนี้ที่บ้านก็ขึ้นเอง 1 ต้นค่ะ ก็ลุ้นว่าเป็นพริกอะไร ปรากฏว่าเป็นพริกผลสีขาวนวล ขึ้นในกระถางของต้นแก้ว แล้วจะทำอาหารมาฝากนะคะ

 

ด้วยความปรารถนาดี  กานดา แสนมณี

วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม พ.ศ ๒๕๕๗

 

หมายเลขบันทึก: 563921เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2014 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มีนาคม 2014 11:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

พี่ดาน่ารักจริงๆ ลองแล้วเผื่อแผ่เสมอเลย

น่าทดลองทำกิน

แต่สงสัยเหมือนพี่อักขณิชว่า

มันเผ็ดไหมครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท