๔๙๖. ชีวิตสายสนับสนุนวิชาการ


ชีวิตสายสนับสนุนวิชาการ

       นับจากเมื่อวันวาน (๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗) มีงานตลอดทั้งวัน

เพราะช่วงเช้าต้องเป็นวิทยากรบรรยายในเรื่องของเส้นทางความ

ก้าวหน้าของพนักงานมหาวิทยาลัยสายสนับสนุนให้กับ มรภ.นครราชสีมา

ได้ฟัง...เหตุเพราะ มรภ.พิบูลสงคราม ที่ฉันได้รับผิดชอบอยู่นั้น

        ฉันได้ทำเกี่ยวกับระเบียบ ประกาศ กฎหมาย ของบุคลากรกลุ่มนี้

ให้กับมหาวิทยาลัยที่ฉันอยู่...เกิดการชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ...

ฉันรู้ว่างานที่ฉันกำลังรับผิดชอบนั้นเดินอยู่เสมอ หากแต่ไม่โลดโผน

ได้ดั่งใจของใครต่อใครในมหาวิทยาลัย...แต่ฉันก็ถือว่า...

        "ฉันทำหน้าที่ของฉันได้ดีที่สุดแล้ว"...แม้ว่า คนในมหาวิทยาลัย

ของฉันเองจะเห็นว่าสำคัญหรือไม่ก็ตาม...แต่ฉันภูมิใจอยู่ข้อหนึ่งว่า

"คนภายนอกมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ตัดสินเองว่า...งานที่ฉันทำอยู่นั้น

เติบโตและมีความก้าวหน้ามากขึ้นมากกว่า มรภ.ของพวกเขาเอง"...

เสมือนกับคำพังเพยที่ว่า..."ใกล้เกลือกินด่าง"...

        ในการที่เป็น มรภ. ของประเทศ การที่ไม่ว่าผู้บริหารหรือทุก ๆ สิ่ง

ในการที่เป็น มรภ. จะสมบูรณ์แบบเทียบเท่า ม. เดิม ๆ นั้น คงยาก...

เพราะอะไรนะรึ? ก็เพราะอายุ + ประสบการณ์ในการบริหารจัดการนั่นไง...

ที่เป็นตัวเปรียบเทียบกันระหว่าง ม.ใหญ่กับ มรภ.

        ฉันค่อย ๆ สร้างระเบียบ ประกาศ ออกมาให้พนักงานมหาวิทยาลัย

สายสนับสนุนวิชาการให้ปฏิบัติได้เรื่อย ๆ...ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับอายุ + ประสบการณ์

ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการเช่นกันว่าคุณจะสามารถทำได้หรือไม่

นับจากที่ มรภ.กาญจนบุรี มาดูงานที่ มรภ.พิบูลสงคราม เมื่อวานก็

มรภ.นครราชสีมา...และมรภ.สกลนคร ก็โทรมาประสานแจ้งฉันไว้เบื้องต้น

ว่าจะขอมาดูงานเกี่ยวกับระเบียบที่ มรภ.พิบูลสงครามอีก ซึ่งฉันก็ตกลงรับปาก

ว่า..."ยินดีเป็นพี่เลี้ยงให้ไม่ว่าจะเป็น ม.ที่ฉันอยู่เองหรือ มรภ.แห่งอื่น ๆ"

        ฉันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ ๑๐ ปีที่แล้ว...แต่ก่อนฉันยังมีท่าน รศ.สุรชัย ขวัญเมือง

เป็นพี่เลี้ยงและให้คำปรึกษาให้...แต่มา ณ บัดนี้ ไม่มีท่านแล้ว...

ฉันจึงต้องทำเอง ทำด้วยตัวของฉันเอง...เพราะฉันคิดว่า..."ฉันพอรู้

พอเข้าใจในระบบการบริหารงานบุคคล เข้าใจในระเบียบ ข้อบังคับ

ประกาศต่าง ๆ ที่ ก.พ.อ. ประกาศออกมาให้ใช้ ตลอดจนถึงการบริหารงานบุคคล

ของภาครัฐ"...ฉันจึงทำได้ และคิดว่าสามารถเป็นตัวอย่างให้กับที่อื่นได้

        การร่างกฎหมาย ถ้าคนไม่เข้าใจก็จะไม่สามารถทำได้ เพราะจะไปสะดุด

และติดขัดในการปฏิบัติต่อไปข้างหน้า...และสุดท้ายก็มีพี่ที่เคยทำงานอยู่ที่

มรภ.นครสวรรค์ ได้กลับมาเป็นคณะกรรมการอนุระบบของ มรภ.นครสวรรค์

โทรศัพท์กลับมาถามฉันว่า...ต้องการระเบียบต่าง ๆ ฉันบอกพี่เขาไปว่า...

"ลองไปศึกษาดูที่หน้าเว็บไซต์ของ มรภ.พิบูลสงคราม (กองบริหารงานบุคคล)

ก่อน ก็ได้ ถ้าติดขัดอย่างไร ก็โทรมาติดต่อฉันได้...เพราะฉันบอกไปว่า...

นับจากที่พี่ออกจากราชการไปเกือบ ๕ ปี...มรภ.เปลี่ยนแปลงไปกันมากเลย

แต่ถ้าสงสัยก็ให้ติดต่อมาคุยใหม่ได้...นี่คือ...หน้าที่อีกหน้าที่หนึ่งที่ฉันมี

และคอยให้คำปรึกษาแก่ มรภ. อื่น เพื่อที่ มรภ. จะได้เกิดการพัฒนาอย่างจริงจัง

        ก่อนกลับบ้านเย็นนี้ ฉันก็ไม่รับแจ้งจากน้องงานบุคคล ของ มรภ.จันทรเกษม

ว่า ต้องการให้ฉันไปเป็นพี่เลี้ยงในการเข้าสู่ตำแหน่งของข้าราชการพลเรือน ฯ 

ที่ มรภ. ของเขาอยู่ เพราะเขาไม่เข้าใจ...ฉันก็รับปากว่าจะไปให้...ตามมาอีกก็

เป็นของ มรภ. กำแพงเพชร ที่น้อง ๆ ข้าราชการฯ สายสนับสนุนวิชาการที่คอยมาปรึกษา

นี่คือ "จิตอาสา" ที่ฉันรู้ ฉันเข้าใจ ฉันจึงบอก เพื่อความเติบโตในสายอาชีพของพวกเขา

ซึ่งพวกเขา คือ "มดงาน" ตัวเล็ก ๆ ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับแผ่นดินเช่นเดียวกันกับ

บุคลากรสายวิชาการ แตกต่างกันตรงหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติเท่านั้นเอง...

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 562746เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2014 19:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2014 12:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

"ใกล้เกลือกินด่าง" นะครับพี่บุษ แต่ก็ไปว่าเขาไม่ได้ เพราะสายตาเขาสั้น งานเราจึงไม้เข้าตา..นั่นมิใช่เป้าหมายกลุ่มเล็กๆ นะครับ หากแต่เป็นเป้าหมายระยะยาวหรือผู้คนที่สนใจเรา ที่อยู่ห่างไกล ที่มีสายตายาว เห็นแม้แต่เราที่อยู่ไกล...สู้ ขยัน จิตสาธารณ์ งานบริสุทธิ์ พุทธจิต มิตรจะตามมาครับ...

.... เอาดอกไม้มาฝากค่ะ ....

ขอบคุณค่ะ คุณ ส.รตนภักดิ์

ขอบคุณค่ะ ดร.เปิ้ล หอมชื่นใจจังค่ะ...

ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท