"เห็นเวทนาในเวทนา" คือ อย่างไร ?


ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจ "เวทนา" ในทางธรรมให้เข้าใจก่อนหนอ อาจศึกษาได้ที่ เวทนา - วิกิพีเดีย th.wikipedia.org/wiki/เวทนา‎ เมื่อเข้าใจนิยามแล้ว เราก็หมั่นเพียรสังเกตุเวทนาที่เกิดขึ้นกับเรา จนเริ่มเห็นเวทนาต่าง ๆ ชัดขึ้น จนเห็น ความเป็นเช่นนั้นเองของเวทนา ของกาย ของใจ เพียรฝึกสติให้เห็นเวทนาชัดขึ้นแล้ว จะเริ่มรู้ชัดว่า เวทนา เองก็อยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ หนอ

 เมื่อวานชิมก๋วยเตี๋ยวถ้วยหนึ่ง บ่นในใจว่า เค็ม

 

วันนี้อาหารเช้าร้านประจำ ก็ดูเหมือนว่า เค็ม ๆ

รู้สึกแปลก ๆ  จึงถามคนที่่นั่งทานด้วยกันว่า เค็มไหม ?

ทุกคนบอกไม่เค็ม รสชาดเดิม ๆ

 

แสดงว่า อุปกรณ์รับรสของผม มีปัญหาแล้ว แน่นอน 555

 

 

 

เริ่มเป็นไข้หวัด (ธรรมดา) มาตั้งแต่คืนก่อนวันวาเลนไทน์ ครับ

เมื่อมีอาการเหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมา จะรีบดื่มน้ำอุ่น ๆ แล้วก็รีบเข้านอน

พร้อมกับการทำสมาธิเพื่อเป็นการรักษาเบื้องต้น

ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมทำแบบนี้ได้ผลดีมาก

หรืออาจจะเพราะภูมิคุ้มกันดีก็ไม่รู้ ทำให้วันต่อมาส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติ

 

แต่สำหรับครั้งนี้ต่างออกไป เริ่มเป็นไข้หนักขึ้นเรื่อย ๆ หนอ

อาจเพราะช่วงนี้อาการเปลี่ยนแปลงรุนแรงบ่อย ๆ ปะเดี๋ยวร้อน ปะเดี๋ยวหนาว หนอ

 


วันก่อนผมตัดสินใจไปพบคุณหมอ เพื่อขอฉีดยารักษาไข้ให้หายอย่างรวดเร็ว

เพราะมีภารกิจต้องเดินทางไปต่างจังหวัด

แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอตรวจดูอาการว่าใกล้หายแล้ว จึงไม่ยอมฉีดยาให้

พร้อมกับให้ยามาห่อใหญ่ เพื่อให้รักษาตามอาการไปจนกว่าจะหาย

รับรองไม่เกิน 7 วันหายแน่ ๆ

 

ผมผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็รีบทำตามคำแนะนำคุณหมอ

โดยรีบมองหาอะไรร้อน ๆ ทานรองท้องก่อน เพื่อให้กินยาได้อย่างเร็วที่สุด

เพราะอาการเริ่มแย่ลงทุกที

 

 

มองไปเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้ ๆ รีบเดินเข้าไปสั่ง

สีสันหน้าตาก๋วยเตี๋ยวชามนี้น่ากินมาก แต่พอชิมเข้าไปรสชาดออกเค็ม ๆ

ขนาดยังไม่ได้ปรุง เริ่มผิดหวังนิด ๆ แต่ก็ลุยกินไปเพื่อให้สามารถกินยาได้

 

ระหว่างที่กิน ๆ ไปนั้น เกิดคำถามแว็บเข้ามาว่า

 

..เห็นเวทนาในเวทนา คือ อย่างไร ?

 


 

 

ผมเห็นว่า

กายนี้ ใจนี้ ไม่เที่ยงเลยหนอ ล้วยแปรเปลี่ยน เป็นไปตามเหตุปัจจัย

อาหารชามอร่อย แม้จะวางอยู่ตรงหน้าร้อน ๆ แต่ถ้าป่วยเป็นไข้หนักแล้ว

ทานอย่างไรก็ไม่อร่อย หนอ

 

แต่ก่อนนั้น เมื่อยามเจ็บป่วยเป็นไข้ จะทำให้กินอาหารไม่ค่อยอร่อย

เป็นเหตุทำให้เป็นทุกข์ใจทุกครั้งไปที่ป่วย 

 

 

แต่ในครั้งนี้้ ป่วยเป็นไข้เหมือนกัน กินอาหารก็ไม่อร่อยเหมือนกัน

แต่ใจกลับไม่เป็นทุกข์ กลับชอบใจ ตรงที่ทำให้เห็นธรรมว่า

.. คุณค่าที่แท้จริงของอาหารนั้น คือ ช่วยเลี้ยงร่างกาย
แต่การกินที่ผ่าน ๆ มานั้น เราให้ความสำคัญกับรสชาดมากจนเกินไป

จนทำให้หลงลืมคุณค่าแท้ของอาหาร



แต่การกินในครั้งนี้ เพราะไม่มีรสชาดให้หลง แต่ต้องกินเพื่อกินยาได้

กลับทำให้เห็นคุณค่าแท้ของอาหารได้ชัดขึ้น 

จนทำให้เห็นความหลงแห่งตน

เราหลงรส หลงชาด มาตลอดชีวิต

จนได้หลงลืม ความจริง ความดี ความงามที่แท้มานานแสนนาน หนอ

 

 ----------------

ก่อนอื่น เราควรทำความเข้าใจ "เวทนา" ในทางธรรมให้เข้าใจก่อนหนอ
อาจศึกษาได้ที่

เวทนา - วิกิพีเดีย

th.wikipedia.org/wiki/เวทนา

 

เมื่อเข้าใจนิยามแล้ว

เราก็หมั่นเพียรสังเกตุเวทนาที่เกิดขึ้นกับเรา

จนเริ่มเห็นเวทนาต่าง ๆ ชัดขึ้น จนเห็น ความเป็นเช่นนั้นเองของเวทนา ของกาย ของใจ

 

เพียรฝึกสติให้เห็นเวทนาชัดขึ้นแล้ว จะเริ่มรู้ชัดว่า 

เวทนา เองก็อยู่ภายใต้กฏพระไตรลักษณ์ หนอ

 

เพียรฝึกดูต่อไปอีก ..

เราจะเห็นว่า เมื่อรู้ชัดในเวทนา เราก็ยังไม่สามารถอยู่เหนือทุกข์ เหนือสุขได้

จนวันหนึ่ง ถ้าเราเห็นชัดในเวทนาแล้ว เรายังเห็นอีกว่า

เห็นเวทนานั้นแล้ว เกิดเวทนาอีกอย่างไร เราอาจทุกข์น้อยลง หรือไม่ทุกข์ในขณะนั้น หนอ สาธุ สาธุ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 562198เขียนเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2014 22:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2014 08:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

หายไวๆ นะครับท่านดร.จะได้เขียนบันทึกให้เราอ่าน

ขอบคุณครับ
ดีขึ้นมากแล้วครับ

เป็นกำลังใจให้หายโดยเร็ววันนะคะอาจารย์...

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท