ข้าราชการ กับ ทางออกของปัญหาการต่อต้านรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์


ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีต้นเหตุมาจากการโกงกินคอร์รัปชั่น และจากรัฐบาลที่ต้องการรวบอำนาจทุกอย่าง เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ความขัดแย้งที่มีอยู่ในขณะนี้ สามารถถูกแก้ไขและจบลงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อใดๆ หากได้รับความร่วมมือจากข้าราชการทุกคน ตัวอย่างเช่น ถ้าข้าราชการทุกคนจากทุกกระทรวง ประกาศไม่ยอมทำงานให้กับรัฐบาลรักษาการชุดนี้อย่างเด็ดขาด รัฐบาลรักษาการนี้ก็จะอยู่ไม่ได้ และต้องลาออกไปโดยปริยาย

ข้าราชการ กับ ทางออกของปัญหาการต่อต้านรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์

ศาสตราจารย์ ดร. เมธี เวชารัตนา

กระผมเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อมที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งนิวเจอร์ซี (New Jersey Institute of Technology)รัฐนิวเจอร์ซี สหรัฐอเมริกา มามากกว่า30 ปี ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนๆนักวิชาชีพคนไทยอีกหลายๆคน ได้มีโอกาสกลับไปช่วยพัฒนาประเทศไทย โดยได้ทำงานร่วมกับหลายๆหน่วยงาน ของกระทรวงต่างๆ และกับหลายๆบริษัทในภาคเอกชนของไทย

ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา กระผมได้ติดตามข่าวการต่อต้านรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ด้วยความเป็นห่วง ตั้งแต่รัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ พยายามผลักดันผ่านกฎหมายปล่อยผีนักการเมืองที่โกงกินบ้านเมือง (Amnesty Bill) จนทำให้มวลมหาประชาชนหลายล้านคนต้องออกมาต่อต้าน  จากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ บวกกับการโกงกินของรัฐมนตรีของหลายๆกระทรวง และของนักการเมืองหลายท่านในพรรครัฐบาล หลายๆโครงการและนโยบายของรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ได้สร้างปัญหาให้กับระบบการคลังของประเทศ หนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และที่ซ้ำร้าย นโยบายรัฐบาล ได้ก่อความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวนาและชาวเกษตรกรไทยเป็นจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น ผลกระทบจากโครงการจำนำข้าว ซึ่งทำให้ประเทศชาติเสียหายนับเป็นเงินหลายแสนล้านบาท มีการโกงกินในกลุ่มนักการเมืองที่เกี่ยวข้องโดยร่วมมือกับพ่อค้าคนกลาง ชาวนาหลายท่านถึงกับหมดเนื้อหมดตัว และบางท่านถึงกับต้องฆ่าตัวตายเพราะเป็นหนี้เป็นสิน

ถึงแม้ว่าในขณะนี้ รัฐบาลได้ยุบสภาแล้ว แต่ก็ยังคงอำนาจบริหารไว้ในรูปแบบของรัฐบาลรักษาการอยู่ โดยพยายามที่จะยึดไว้ซึ่งอำนาจให้นานที่สุด คงเพื่อรักษาผลประโยนช์ของพวกพ้องจากโครงการต่างๆที่สร้างไว้ การรั้งไว้ซึ่งอำนาจและปฏิเสธที่จะลาออก นำไปสู่การประท้วงที่ยืดเยื้อ ประกอบกับการใช้กำลังและความรุนแรงในการข่มขู่ก่อกวนกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลในรูปแบบของมือที่สามหรือบุคคลในชุดดำ ถึงกับมีประชาชนและตำรวจเสียชีวิตหลายคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก สิ่งต่างๆที่กล่าวมานี้ ล้วนเป็นตัวชี้บอกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้

ปัญหาการคอร์รัปชั่น

การโกงกินและคอร์รัปชั่นที่เกิดขึ้นในโครงการต่างๆของรัฐบาลนั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากนักการเมืองหรือรัฐมนตรี ไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการระดับผู้ใหญ่ ของแต่ละกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายท่านจำยอมต้องให้ความร่วมมือเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ข้าราชการทุกกระทรวงถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกความเห็น หรือให้การสนับสนุนใดๆ ต่อกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาล รวมถึงการห้ามไม่ให้เยียวยารักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาล คำสั่งซึ่งไม่มีจริยธรรมเหล่านี้ ทำให้ข้าราชการจำนวนมากในวงการแพทย์และพยาบาล ต้องออกมาแสดงจุดยืนต่อต้าน เพื่อรักษาไว้ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมของสาขาอาชีพของเขาเหล่านั้น

จากเหตุการณ์ที่ไม่ชอบธรรมเหล่านี้ จึงมีข้าราชการระดับผู้ใหญ่บางท่านได้ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายที่ไม่ถูกต้องของรัฐบาลชุดนี้ ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีข้าราชการระดับสูงอีกหลายท่าน ที่ไม่กล้าแสดงความคิดเห็นของตนเอง โดยอ้างเหตุผลว่าจะต้องวางตัวเป็นกลาง ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านคือ ฝ่าย กปปส ทั้งที่จริงแล้ว ข้าราชการทุกคนและทุกระดับ ควรเน้นในจุดยืนของความถูกต้อง (Righteousness) และผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก แทนการเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่อ้างไว้ 

จากข่าวที่ตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์หลายๆฉบับในช่วงสองปีที่ผ่านมา เช่น ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ประเทศไทย เมื่อสองปีที่แล้ว จากเหตุขโมยขึ้นบ้าน ทำให้พบเงินสดในบ้านอดีดปลัดกระทรวงท่านหนึ่ง เป็นจำนวนถึงพันล้านบาท หรือเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้ มีข่าวว่ารัฐมนตรีท่านหนึ่งของรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นภายในปีที่ผ่านมาปีเดียว ถึง 950 ล้านบาท ข่าวทางการเงินที่ผิดปรกติเหล่านี้ ล้วนเป็นสัญญลักษณ์ที่ชัดเจน ที่ส่อถึงการร่วมโกงกินระหว่างวงการนักการเมืองกับข้าราชการไทยที่ผ่านมา

ข้าราชการ กับ ทางออกของปัญหาการต่อต้านรัฐบาลในขณะนี้

สิ่งที่ผมกล่าวมานี้ ไม่ได้หมายความว่าข้าราชการทุกท่านเป็นคนไม่ดี ไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ หรือร่วมโกงกินกับนักการเมือง กระผมขอถือโอกาสนี้ แสดงความชื่นชมและความเคารพต่อข้าราชการที่กล้าแสดงออกถึงจุดยืนและความถูกต้อง ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของประเทศไทยในขณะนี้  บุคคลเหล่านี้คือ 1) ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ 2) นายแพทย์พิษณุ ขันติพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดน่าน  3) พลเรือตรี วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ  และ 4) แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านนี้ รู้ดีอยู่แก่ใจว่า การออกมาแสดงจุดยืนของท่านนั้น อาจจะถูกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ปลดออกจากตำแหน่งการงานที่มีเกียรติและมีอำนาจ แต่ท่านก็ถือความถูกต้องเป็นสำคัญ มากกว่าการเก็บรักษาตำแหน่งไว้ หรือยอมเป็นข้าทาสของนักการเมือง โดยไม่กล้าแสดงออกถึงจุดยืนและความถูกต้องของตนเอง ท่านเป็นข้าราชการและบุคคลตัวอย่างของสังคมไทย ที่แสดงให้นักการเมืองเห็นว่า ข้าราชการในกระทรวงและกรมกองต่างๆ ภายใต้การดูแลของรัฐมนตรีแต่ละท่าน มีจิตสำนึก รู้ถูกรู้ผิด ไม่ได้เป็นทาส ที่จะถูกสั่งให้ทำการฉ้อฉลโกงกินประเทศ โกหกหรือฆ่าประชาชนเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองหรือของพรรคใดๆ

คำว่า ทาส โดยคำจำกัดความแล้ว หมายถึงบุคคลที่ถูกกดขี่ อยู่ภายใต้อำนาจของผู้อื่น ไม่กล้าที่จะแสดงออกถึงความคิดเห็นของตนเอง ต้องทำทุกอย่างตามที่ถูกสั่ง ถึงแม้จะไม่เห็นด้วย ไม่เช่นนั้นอาจถูกลงโทษด้วยการเฆี้ยนตีหรือทำร้าย ต้องทำงานอยู่ด้วยความกลัว ยิ่งกว่านั้น ที่น่ากลัวคือ ระบบ นายกับทาส นั้น ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายศตวรรษ เป็นระบบถ่ายทอดต่อช่วงกันหลายชั่วคน การล้มเลิกระบบทาสในหลายๆประเทศ จึงมักมีการนองเลือด เพราะกลุ่มที่เป็นนาย ไม่ยอม ดังจะเห็นได้จากประเทศสหรัฐ ที่ถึงกับมีสงครามกลางเมือง ก่อนจะเลิกระบบทาสได้ และ ประเทศอัฟริกาใต้ ก็เช่นเดียวกัน เป็นต้น

จากตัวอย่างที่ยกมานี้ หากข้าราชการไทยยังปฎิบัติหน้าที่แบบเป็นทาสของนักการเมือง สังคมไทยและประเทศไทย ก็คงหนีไม่พ้นจากการล้มละลายในอนาคตอันใกล้ และในที่สุดก็จะนำไปสู่สงครามกลางเมือง เหมือนอย่างประเทศอื่นๆ

ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีต้นเหตุมาจากการโกงกินคอร์รัปชั่น และจากรัฐบาลที่ต้องการรวบอำนาจทุกอย่าง เพื่อผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ความขัดแย้งที่มีอยู่ในขณะนี้ สามารถถูกแก้ไขและจบลงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อใดๆ หากได้รับความร่วมมือจากข้าราชการทุกคน  ตัวอย่างเช่น ถ้าข้าราชการทุกคนจากทุกกระทรวง ประกาศไม่ยอมทำงานให้กับรัฐบาลรักษาการชุดนี้อย่างเด็ดขาด รัฐบาลรักษาการนี้ก็จะอยู่ไม่ได้ และต้องลาออกไปโดยปริยาย โดยไม่ต้องมีการเสียเลือดเนื้ออย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่เนื่องจากข้าราชการจำนวนมาก กลัวที่จะถูกนักการเมืองกลั่นแกล้ง ไล่ออกจากราชการด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ข้าราชการจำนวนมาก จึงไม่กล้าที่จะแสดงออก ถึงจุดยืนที่แท้จริงของตนเอง ด้วยความกลัวที่จะถูกรัฐมนตรีหรือนักการเมืองลงโทษ หรือถูกออกจากราชการ อย่างที่เกิดขึ้นกับแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพราะไปแสดงความคิดเห็น ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ดังนั้นข้าราชการส่วนใหญ่จึงยอมตอบสนองนโยบายของรัฐบาลรักษาการนี้ โดยอ้างถึงความเป็นกลางและหน้าที่ ทำให้ปัญหาของประเทศไทยในวันนี้ ยืดเยื้อออกไป หาจุดจบไม่ได้ ผลกระทบที่จะตามมาในระยะยาวก็คือ ประเทศจะล่มจม ดังที่ได้เห็นในหลายๆประเทศทั่วโลกอย่างเช่นที่เกิดกับ ประเทศอียิปต์ ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศเลบานอน ประเทศกรีซ และ ประเทศฟิลิปปินส์   เป็นต้น หลายท่านคงคิดว่าสภาวะแบบนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับประเทศไทยของเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ณ เวลานี้ หนี้สินภาครัฐของประเทศไทยได้พุ่งเกิน 50 เปอร์เซนต์ของ GDP แล้ว และในขณะเดียวกัน หนี้สินภาคครัวเรือนก็ได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 85 เปอร์เซนต์ของ GDP แล้วเช่นเดียวกัน  ตัวเลขทั้งสองนี้ เป็นสัญญาณชี้บอกถึงสภาวะของประเทศไทยว่ากำลังเข้าใกล้จุดวิกฤษของการล้มละลาย การเร่งแก้ปัญหาทั้งทางด้านการเมืองและทางด้านเศษรฐกิจ จึงมีความจำเป็นและความสำคัญต่อเสถียรภาพและอนาคตของประเทศไทยและของลูกหลานของเรา

คำขอร้องถึงข้าราชการไทยทุกท่าน เพื่ออนาคตของประเทศไทย

วันนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า ปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่ถ่วงความเจริญกับการพัฒนาประเทศ ในปี 2555 คอร์รัปชั่นของประเทศไทยถูกจัดอยู่อันดับที่ 85 จาก 176 ประเทศทั่วโลก โดยที่อันดับที่หนึ่งคือ ประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีคอร์รัปชั่นน้อยกว่าประเทศ ฟิลิปปีนส์ เขมร อินโดนีเซีย ลาว และ พม่า แต่ในปี 2556 เพียงแค่หนึ่งปีต่อมา อันดับการคอร์รัปชั่นของประเทศไทยขยับสูงขึ้น ไปถึงอันดับที่ 102 จาก 176 ประเทศทั่วโลก แซงประเทศ ฟิลิปปีนส์ และเขมร ซึ่งมีการคอร์รัปชั่นน้อยกว่าประเทศไทย นอกจากนั้น หนี้สินทั้งของภาครัฐบาล และในส่วนของภาคครัวเรือนในขณะนี้ ก็กระโดดสูงขึ้นมากอย่างน่าเป็นห่วง จนเกือบใกล้จุดวิกฤตของการล้มละลายทั้งประเทศอย่างที่กล่าวแล้ว ดังนั้นการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหาร การปกครอง การเมือง การเลือกตั้ง และการปราบปรามคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังในขณะนี้ จึงเป็นการเรียกร้องเพื่อความอยู่รอดของลูกหลานคนไทยของเราในอีกเพียงแค่ 5-10 ปีข้างหน้านี้

สิ่งที่มวลมหาประชาชนออกมาเรียกร้องในขณะนี้คือ การปฏิรูปการเมือง การบริหาร และการเลือกตั้ง เพื่อจะนำไปสู่ระบบการบริหารประเทศ ที่ปราศจากการซื้อเสียง การคอร์รัปชั่นและการโกงกินจากนักการเมือง อย่างที่เคยเป็นมาในอดีต ในฐานะที่ข้าราชการไทยทุกท่าน มีบทบาทที่สามารถแก้ไขปัญหาการต่อต้านรัฐบาลรักษาการของนายกยิ่งลักษณ์ในขณะนี้ได้ โดยไม่ต้องนำไปสู่การเสียเลือดเนื้อของพี่น้องคนไทย อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ กระผมและพวกเรากลุ่มนักวิชาชีพกับชาวไทยในอเมริกาและคานาดาอีกหลายๆคน กราบขอวิงวอนให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทุกกรมกอง และตัวแทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้โปรดกรุณาเสียสละ แสดงจุดยืน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการของนายกยิ่งลักษณ์ลาออก โดยการประกาศไม่ยอมทำงานให้กับรัฐบาลรักษาการชุดนี้อีกต่อไป การบริหารประเทศหลังการลาออกของรัฐบาลรักษาการ จะสามารถจัดการได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ โดยการใช้ที่ประชุมปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ทำหน้าที่บริหารกระทรวงทบวงกรมต่างๆ แทนคณะรัฐมนตรี ในช่วงระหว่างการปฏิรูปและการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้าราชการทุกคน จะกล้าเสียสละ เพื่อประคองประเทศไทยให้พ้นจากวิกฤตการณ์อันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ อนาคตของประเทศไทย และของลูกหลานคนไทยทุกคน ฝากอยู่ในมือและความรับผิดชอบ กับการเสียสละของท่านทุกคน

 

ด้วยความเคารพ นับถือ และเป็นห่วง

ศาสตรจารย์ ดร. เมธี เวชารัตนา

สถาบันเทคโนโลยีนิวเจอร์ซี มลรัฐนิวเจอร์ซี

หมายเลขบันทึก: 561421เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2014 20:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2014 20:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท