เย็นวันหนึ่งแม่บ้านเตรียมอาหารอร่อยถูกคอถูกลิ้นยิ่งนัก...
กินไปคุยไป ด้วยเรื่องราวต่างๆ...
ระหว่างนั้นผู้เขียนก็กัดลิ้นตัวเองจนชะงักไป ให้รู้สึกโมโหตัวเอง โกรธตัวเอง
และโมโหเรื่องราวที่พูดคุย (พาลโทษคนใกล้ตัวที่ชวนคุยเรื่องนั้น แต่ไม่กล้าพูดออกมา 55)ทำให้ลิ้นกับฟันไม่สัมพันธ์กัน และกัดกันในที่สุด
ความเอร็ดอร่อยของกับข้าวก็พลันหายไป คนใกล้ตัวก็ได้แต่ส่ายหน้า เมื่อทราบสาเหตุที่อยู่ๆก็หยุดพูดหยุดกิน
หลังกินข้าวส่องกระจกดูลิ้นเป็นแผลเลือดซิบทีเดียว
......
วันต่อมาระหว่างกินข้าว(กับคนใกล้ตัวอีกนั่นแล่ะ) ก็เกิดกัดลิ้นตัวเองขึ้นมาอีกและกัดตรงแผลเดิม และสาเหตุก็มาจากเรื่องเดิมคือ พูดคุยโดยไม่ระวังในระหว่างกินข้าว
แต่วันนี้โมโหตัวเองน้อยลง และไม่โมโหหรือโทษเรื่องราวที่พูดคุยถึง(และไม่รู้จะไปโทษทำไม) และทำให้ผู้เขียนหยุดพูดอีกเช่นกันจนกินข้าวอิ่มหมดจาน
......
หลายวันต่อมา แผลที่โดนกัดลิ้นท่าจะหายแล้ว แต่รู้สึกเป็นปุ่มๆปมๆนั้น ก็โดนกัดอีกจนได้ระหว่างกินขนมเล่น และที่สำคัญคือโดนกัดเพราะพยายามจะพูด
และความโมโห ความโกรธ ของผู้เขียนที่เคยมีเมื่อวันก่อนๆ รู้สึกจะจางหายไป เหลือเพียงความสงสัยทำไมถึงกัดลิ้นตัวเองบ่อยๆ เพราะอะไร สาเหตุอย่างที่โกรธในวันก่อนๆจริงไหม และจะทำอย่างไรดี
และทำให้นึกถึงคำพูดของผู้เฒ่าผู้แก่ก่อนเก่าเคยเล่าเคยสอนว่า
"กินข้าวโตอย่าโสคำเพิ่น"
ความหมาย กินข้าวโต คือการกินข้าวตัวเอง อย่าโสความเพิ่น คืออย่าตำหนิติเตียนคนอื่น เป็นภาษิตที่สอนให้มองที่ตัวเอง ให้เตือนตัวเองมากกว่าที่จะเตือนผู้อื่น หรือนินทาคนอื่น
การอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่ว่าจะกิจกรรมใดๆย่อมนำผลไม่ให้เกิดความผิดพลาด เกิดความขัดแย้ง ขัดข้องหมองใจได้ เช่นเดียวกับการกินข้าว หากเรามีสติอยู่กับการกินข้าว อยู่กับลิ้นกับฟันว่ากำลังเคี้ยวข้าวอยู่ ก็ไม่ควรจะพูดคุย
หลายวันหลังจากนั้น
ที่ทำงาน..เวลาอาหารกลางวันผู้เขียนนั่งกินข้าวเงียบๆคนเดียว จนน้องๆแซวว่า "ดังแล้วแยกวงบ้อ"
.............
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
24 มกราคม 2557
พ.แจ่มจำรัส
ระวังด้วยค่ะ...แม่พี่บอกว่า...ไม่ระวังชอบนั่งใจลอย...เพราะตอนเด็ก ๆ โดนตัวเองประจำค่ะ...น้ำตาแทบไหล...
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ นะคะ เคยกัดลิ้นตัวเองเวลากินข้าว จนเลิกกินเลยค่ะ เพราะกินข้าวไม่อร่อยเลยมื้อนั้น
ฝากติดตามเพจด้วยนะคะ