เมื่อผมเป็นทนายให้ อ.ก.ค.ศ.


        มีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ  เนื่องจากหยุดหลายวันจึงพอมีเวลาว่างจากงานราชการมาเล่าสู่กันฟังเรื่อง อ.ก.ค.ศ.(อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา)เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ที่ผมดูแลอยู่ถูกข้าราชการครูฟ้องศาลปกครองนครศรีธรรมราช เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ก.ค.ศ.(คณะกรรมการครูและบุคลากรทางการศึกษา)เป็นผู้ถูกฟ้องที่ ๒ เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

        ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าว่า ผู้ฟ้องคดีสอบเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและสอบได้เป็นลำดับที่ ๔  จากนั้นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ฟ้องคดีไปรายงานตัวและเลือกโรงเรียน ผู้ฟ้องคดีเลือกโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย แต่อ.ก.ค.ศ.กลับไปอนุมัติแต่งตั้งครูจากโรงเรียนอื่นไปดำรงตำแหน่ง ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่มีตำแหน่งที่จะบรรจุและตัดสิทธิผู้ฟ้องคดี  ดังนั้นผู้ฟ้องคดีจึงร้องทุกข์ไปที่ผู้ถูกฟ้องที่ ๒ แต่ผู้ถูกฟ้องที่ ๒ มีมติว่ามติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงยกคำร้องของผู้ฟ้องคดี  ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ที่ ๒ และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะการจะให้ผู้ฟ้องคดีหมดสิทธินั้นจะต้องเป็นกรณี

        ๑.ผู้นั้นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ได้รับการคัดเลือก

        ๒.ผู้นั้นไม่ไปรายงานตัวปฏิบัติหน้ารที่ตามกำหนด

        ๓.ผู้นั้นขอสละสิทธิ์

        ๔.ผู้นั้นยื่นหนังสือลาออกจากราชการ

        ๕.มีการประกาศขึ้นบัญชีครั้งใหม่ในตำแหน่งนั้นๆ

        ๖.เมื่อ ก.ค.ศ.มีเงื่อนไขให้ยกเลิกบัญชี

        จึงนำคดีมาฟ้องเพื่อให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ดังนี้

        ๑.เพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา ตามผลการประชุมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จากลำดับที่ ๓ ถึงลำดับที่ ๕

        ๒.ให้ขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ตครั้งที่ ๒ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาจากลำดับที่ ๔ ถึงที่ ๗

        ๓.ให้มีการเลือกตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกาจากลำดับที่ ๔ ถึงที่ ๗ ใหม่โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓

        ๔.ขอสงวนสิทธิของผู้ฟ้องคดีในการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งภาค ก.ภาค ข.และภาค ค.ไว้เพื่อรอรับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือผู้ฟ้องคดีถูกดำเนินการทั้ง ๖ ข้อ ของผู้ประกาศผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

        ๕.เพิกถอนมติ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญในการประชุมครั้งที่ ๑๕/๒๕๕๓ มื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

        เริ่มยกแรก ผู้ฟ้องคดีแพ้น็อก ศาลไม่รับฟ้องไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งได้ผลบางส่วน เพราะศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าผู้ฟ้องคดีไม่มีอำนาจฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑(อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ต) แต่ให้รับฟ้องเฉพาะส่วนที่ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ตั้งแต่ลำดับที่ ๓ ถึงลำดับที่ ๕ ไว้พิจารณาและให้เรียกผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ตมาเป็นคู่กรณี  ศาลปกครองชั้นต้นจึงมีคำสั่งเรียกผู้อำนวยการเขตพื้นที่ ฯมาเป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ โดยการร้องสอดและมีหมายมาถึงประธาน อ.ก.ค.ศ. ด้วย

        เพราะผู้ฟ้องคดีฟ้องแบบปกปิดข้อเท็จจริง ผมจึงเขียนคำให้การสู้คดีเอง  ความมันกำลังจะเริ่มขึ้น   แต่..โปรดติดตามตอนต่อไป.

หมายเลขบันทึก: 557637เขียนเมื่อ 29 ธันวาคม 2013 14:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 ธันวาคม 2013 14:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สบายดีนะครับท่านอัยการฯ ;)...

สวัสดีปีใหม่ครับท่านอาจารย์Wasawat Deemarn สบายดีครับ อาจารย์คงสบายดีนะครับ อิจฉาคนที่มีอากาศหนาวเป็นของตนเอง บ้านผมมีแต่ร้อนครับ อิอิ

สวัสดีปีใหม่ครับท่านสิทธิรักษ์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท