"หนังสือเปลี่ยนชีวิต : ธรรมะในชีวิตประจำวัน ( รสินทรา กิจก้าวเจริญกุล)"


        การอ่านหนังสือ เป็นการอ่านที่ทำให้เราได้รับความรู้ และการอ่าน หนังสือเป็นการสะสมความความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้แต่งขึ้น ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น หนังสือแต่ละเล่มก็มีโครงเรื่องที่แตกต่างกันไป บางเรื่องก็เป็นข้อเท็จจริงที่สามารถนำมาใช้ในการดำรงชีวิตได้ เช่น การเรียนหนังสือ การทำงาน เป็นต้น บางเล่มก็เป็นข้อคิดเห็นของผู้แต่งหนังสือเล่มนั้น ทำให้เราได้มีทรรศนะคติที่กว้างไกล มากขึ้น ได้มองภาพในหลายๆแง่ บางเล่มความคิดของผู้แต่งก็อาจจะไม่ตรงกับผู้อ่าน และนั้น คือสิ่ง ที่ผู้แต่งทุกคนต้องการ ความฉลาดของการเขียนหนังสือ ที่สามารถทำให้ผู้อ่านมองได้หลากหลาย  หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่สามารถพัฒนามนุษย์ให้ก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง

       จากการได้สัมผัสหนังสือที่ทีมากมาย ซึ่งดิฉันเป็นคนหนึ่งได้รักการอ่านหนังสือมาก ถึงขั้นที่บ้านต้องมีชั้นหนังสือเก็บไว้ด้วย และมีหนังสือเล่มหนึ่งที่ต้องอ่านแล้วต้อง หยิบออกมาอ่านบ่อย ๆ เพราะหนังสือเล่มนี้มีเน้ือหาสาระที่ดีมา คือ หนังสือ ธรรมะในชีวิตปรัจำวัน 

ชื่อหนังสือก็บอกว่า ธรรมะในชีวิตประจำวัน อาจจะไม่น่าสนใจ แต่เมื่อได้เปิดอ่านแล้วถึงรู้ว่า มีหลักธรรมที่เข้ากับชีวิตประจำวันเยอะมาก และยังมีเรื่องเล่าธรรมะประจำใจที่ตรงใจมาก ๆ เลยค่ะ 

ในชีวิตประจำวันมุนย์จะใช้เวลาในกทำกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งกิจกรรมทางกายที่แสดง  หรือตอบสนองกับสังคม สิ่งแวดล้อม จนออกมาเป็นพฤติกรรมหรือนิสัย การอ่านนหังสือก็เหมือนกัน ก็จะทำให้เราเกิดพฤติกรรมรักการอ่าน มากขึ้นและได้นำความรู้จากการอ่านมาปรับใช้

 

หนังสือ ธรรมะในชัวิตประจำวัน แต่งโดย รสินทรา กิจก้าวเจริญกุล โดยนหนังสือจะพูดถึง หลักธรรมพื้นฐานที่คนเราพึงมีและจะมี เรื่องเล่าธรรมะประจำใจ และจะมีวิธีสร้างสุขกำจัดทุกข์ในชีวิต 

โดยดิฉันของยกเรื่อง เวลา มาเล่าให้ฟังซึ่งฉันอ่านแล้วฉันก็ต้องอ่านอีกเพราะเป็นเรื่องที่บงบอกถึงหลักธรรมและการดำรงชีวิตเป็นอย่างดี 

ดิฉันขอยกเรื่องเวลา มาแบ่งปันให้ผู้อ่านได้อ่านกัน

เรื่อง เวลา

มีชายอเมริกันคนหนึ่งผ่านมาเห็นชื่อวัดในพระพุทธศาสนา อยากจะสนทะนาธรรมด้วยกับพระอาจารย์ ชายอเมริกันคนนั้นก็ถามขึ้นว่า พอจะมีเวลาไหม ตอบว่า พอมีเวลา 

อาจารย์ท่านนั้นจึงถามว่า เวลาสำคัญกับชีวิตเราอย่างไร 

     ชายอเมริกันจึงตอบว่า เวลาสำคัญกับชีวิตมาก ความสุขหรือความทุกข์ขึ้นอยู่กับเวลา เช่น เวลาสอบได้ จบการศึกษา เวลานำความสุขมาให้ เวลาสอบตก หรือ ตกงาน ถูกไล่ออกจาดกงาน ก็เวลาอีกนั้นแหละนำความทุกข์มาให้ เวลาพบคนรักก็มีความสุข เวลาพบศัตรู ก็มีความทุกข์ เวลาก็นำมาให้อีกเช่นกัน นอกจากนี้เวลายังกำหนดให้คนพอใจและไม่พอใจได้อีก เช่น เวลามีนัดกับใคร ๆ ถถ้าเขามาตามนัดก็พอใจ แต่้าเขาหรือเธอไม่มาตามนัด ก็ไม่พอใจ หากยึดติดกัยเวลามากไปบางทีก็ทุกข์ง่าย ๆ เมื่อพบกับสิ่งที่ได้นัดหมายไว้

     

    อาจารย์ท่านนัั้นจึงกล่าวต่อชายชาวอเมริกันว่า เวลาเป็น "ฆาตกร "  หารเราขี้เกียจปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไร เวลาก็กลายเป็น "ฆาตกร" นำเราเข้าไปใใกล้ความตายอีกวันหนึ่ง แต่ถ้าเราใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ด้วยการสร้างสรรคค์ประโยชน์ ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อมเวลาก็เป็นยานพาหนะที่จะนำเราไปสู่ความมสำเร็จ 

 

 "บทสรุปจึงอยู่ที่ว่าจะให้เวลากินเรา หรือเราจะกินเวลา"

 

   แม้เวาที่เราว่างจากการทำงานทั้งปวงก็ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สูงสุดได้ 

 

   ดิฉันคิดว่า พวกท่านทั้งหลายคิดอย่างไรบ้าง กับคำว่าเวลา ค่ะ

   จากที่ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วฉันก็ได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และก็รู้จักนำมาปรับใช้ในเรื่องเวลาได้เยอะมาก ๆ จากการได้อ่านได้ค้นคคว้าหาหนังสสือก็ทำให้เราได้รู้และดำเนินชีวิต

 

  วันเวลาล่วงไป ๆ บัดนี้ท่านทำอะไรอยู่่ 

 สุดท้ายนี้ ดิฉันก็ขอขอบคุุณหนังสือเล่มนี้ ธรรมะในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ธรรมะ และการปรับเปลี่ยชีวิตที่ทำห้มีความสุข และแนวทางใในการดำรงชีวิต 

 

การใช้ชีวิตเป็นสิ่งง่าย ๆ ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แล้วคุณจะเกิดแนวคิดใหม่ ๆ ที่ไม่ใช่แค่เพียงเป็นหนังสือ ธรรมะ แต่เป็นหนังสือที่มีมากกว่าคำว่าธรรมะ ที่อ่านแล้วไม่รู้สึกน่าเบื่อเลย 

   

 

 หนังสือมีหลากหลายประเภท แต่ละคนก็จะชอบกันไปคนละแบบ หนังสือทุกเล่มนั้นล้วนให้ความรู้ และประโยชน์นานัปการ ดิฉันจึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนอ่านหนังสือกันให้มากๆ เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญา และพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้ามากขึ้น ดังพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่กล่าวไว้ว่า

 

     หนังสือนี้มีมากมายหลายชนิด             นำดวงจิตเริงรื่นชื่นสดใส

ให้ความรู้สำเริงบันเทิงใจ                       ฉันจึงใฝ่ใจสมานอ่านทุกวัน

มีวิชาหลายอย่างต่างจำพวก                    ล้วนสะดวกค้นได้ให้สุขสันต์

วิชาการสรรมาสารพัน                          ชั่วชีวันฉันอ่านได้ไม่เบื่อเลย

 

ที่มา http://writer.dek-d.com/earthsersbw/story/view.php?id=134412

หมายเลขบันทึก: 556925เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2013 15:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม 2013 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณที่แบ่งปันและแนะนำหนังสือดีๆครับ

การอ่านหนังสือ ก็เหมือนการฝึกวิทยายุทธ ดีๆ นั่นเอง ครับ...
ช่วงหลัง ผมได้แต่สะสม ยังอ่านไม่จบเรื่อง ไม่จบเล่มซักที

สวัสดีค่ะ คุณ ชฎาพร ใจนันตา

เป็นหนังสือที่ดีมากค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดดี ๆ เยอะเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ คุณ ชฎาพร ใจนันตา
เป็นหนังสือที่ดีมากอ่านแล้วได้ข้อคิดดี ๆ เยอะเลย
ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท