ดินแน่นแข็งเป็นดาน หมั่นเติมอินทรียวัตถุและหินแร่ภูเขาไฟ


สภาพของพื้นที่ที่ผ่านการเพาะปลูกมาเป็นระยะเวลายาวนาน ส่วนใหญ่ก็จะมีการใช้เครื่องยนต์กลไกเพื่อเป็นเครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะรถไถที่มีน้ำหนักมาก เมื่อเหยียบย่ำลงไปบนพื้นที่ไถพรวนส่วนหนึ่งก็จะไปกดทับพื้นที่ด้านล่างให้มับแน่นลงไป ทำแบบนี้บ่อยเข้าๆทุกปีก็สามารถที่จะประสบพบเจอกับปัญหาดินแน่นแข็งเป็นดานอยู่ด้านใต้ น้ำฝนจะถูกพัดพาชะล้างไปกับหน้าดินอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากดินที่มีโครงสร้างดินที่โปร่ง ฟู ร่วนซุย ที่กระแสน้ำที่ผิวดินจะไหลพัดผ่านไปอย่างช้าๆ แร่ธาตุและสารอาหารที่มากับน้ำก็จะถูกซึมซับซาบผ่านลงไปด้านล่าง เนื่องจากเนื้อดินมีสภาพที่คลายตัวเกาะกันอย่างหลวมๆ ไม่แน่นแข็งเป็นดานเปียกอยู่แต่ด้านบน แต่เนื้อดินด้านล่างกลับแห้งแข็ง รากพืชไม่สามารถจะทิ่มแทงทะลุผ่านลงมาได้

สภาพของดินที่เป็นดินดาน มักจะเป็นดินที่ขาดแคลนการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง เป็นดินที่ขาดการเติมอินทรีย์วัตถุ เป็นดินที่ผ่านการใช้ปุ๋ยเคมีมาเป็นระยะเวลานาน และเป็นดินที่ถูกเผาตอซังฟางข้าว หรือเผาอินทรียวัตถุบนผิวหน้าอยู่บ่อยๆทุกฤดูกาล จึงทำให้วงจรของอินทรีย์วัตถุที่จะลงไปแทนที่มีไม่เพียงพอ และวงจรของสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในดินถูกตัดตอนล้มตาย ถูกทำลายด้วยการถูกเผาจากเชื้อเพลิงที่โหมกระหน่ำอยู่ที่ผิวดิน

การแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าจะต้องใช้สารละลายดินดาน ALS29 ในอัตรา 50 ซี.ซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดรดหรือฉีดพ่นลงไปบนหน้าดิน โดยก่อนที่จะราดหรือฉีดพ่นควรจะต้องทำให้ดินเปียก ชื้นแฉะเหมือนบรรยากาศหลังฝนตกใหม่ๆ ถ้าเป็นไปได้นำมาราดรดหรือฉีดพ่นหลังฝนตกจะดีที่สุด แต่ถ้าไม่สะดวกก็ควรจะใช้เรือรดน้ำจากท้องร่องขึ้นมา หรือใช้น้ำจากสปริงเกอร์ หรือจากแหล่งที่หาได้ง่ายที่สุดนำมาราดรดให้เปียกชุ่มโชกเสียก่อน จึงค่อยใช้สารละลายดินดาน ALS 29 ลงไป เพื่อให้น้ำในดินที่อิ่มตัวอยู่นั้นเป็นตัวนำพาสสารของ ALS 29 ลงไปด้านล่างให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำอย่างนี้อาทิตย์ละครั้ง สักสามสี่ครั้ง สภาพดินที่แน่นแข็งจะค่อยๆ คลายตัวลงทีละน้อย ทำให้รากที่ขัดสมาธิ ต้นเจริญเติบโตไม่ดี เตี้ย แคระแกร็น ก็จะเริ่มแผ่กิ่งก้านขยายสาขาได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และถ้าต้องการให้ดินโปร่ง ร่วน ซุย อย่างนี้ต่อไป ก็ควรจะเติมหินแร่ภูเขาไฟ พูมิชซัลเฟอร์ ในอัตรา 20 -40 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก เพื่อให้โครงสร้างดินมีอินทรียวัตถุและฮิวมัสเป็นองค์ประกอบอยู่ในดิน จะช่วยทำให้ดินไม่กลับมาแน่นแข็งอีก

 

มนตรี  บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ  www.thaigreenagro.com

 

หมายเลขบันทึก: 555687เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2013 19:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม 2013 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท