แอบฟังคนทำงานเคาะประตู ชวนเรียนรู้เรื่องความตาย ใน APHC


ในงานประชุมวิชาการเอเชียแปซิฟิกฮอสปิซและพาเลียทีฟแคร์ (APHC) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีหัวข้อการประชุมหนึ่งที่น่าสนใจและคุยได้สนุกมากทีเดียวคือ “การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะในงานดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง”

ครับ นโยบายสาธารณะใดๆ ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอยๆ ต้องมีผู้เคลื่อนไหวผลักดัน วิทยากรต่างประเทศทั้งสามคนต่างมาแลกเปลี่ยนกันว่า คนตัวเล็กๆ องค์กรเล็กๆ จะเคลื่อนไหวอย่างไรให้ความเชื่อใหม่ๆ ดังเช่นการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองกลายเป็นที่รู้จัก เป็นที่ต้องการ และกลายเป็นนโยบายสาธารณะในที่สุด

 

งานเสนอชิ้นแรกเป็นของคุณลินนา ชานดรา เธอนำเสนอวิธีการระดมทรัพยากร การสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดนโยบายการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายให้เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย  เธอสะท้อนว่าการระดมทรัพยากร และการสนับสนุนปัจจัยในการทำงานจากภาคส่วนต่างๆ มักเป็นแบบ “เด็กเอาแต่ใจ” คือ ร้องขอ เมื่อไม่ได้ก็อาการน้อยใจ ท้อแท้  เธอบอกว่านั่นไม่ใช่วิธีการที่ฉลาดเลย

“ลองมองกลุ่มเป้าหมายที่อาจเป็นผู้สนับสนุนองค์กรของเราว่าเพื่อนร่วมทางเดิน”  เขาเหล่านั้นต้องยินดีสนับสนุนเราเป็นแน่ ถ้าเราชัดว่าสิ่งที่เราคือใคร มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะสร้างสรรค์สิ่งใดให้เกิดขึ้นในสังคม  ผู้ถือทรัพยากรเหล่านั้นหยั่งรู้ได้ว่าเราเอาจริงเอาจังและซื่อตรงกับสิ่งที่เราจะขับเคลื่อนมากน้อยเพียงใด  หน้าที่ขององค์กรขับเคลื่อนคือต้องเปิดพื้นที่ และ “เชิญชวน” ให้เขาเหล่านั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของเรา ร่วมเดินทางและต่อสู้ไปกับเรา เพราะเขาก็ต้องการสิ่งนั้นเหมือนกัน 

“ใครจะไม่อยากได้ตั๋วแถวหน้าชมสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคมล่ะ” คุณลินนาให้กำลังใจทิ้งท้าย

 

บทความที่สอง คุณเคท แจ็คสัน แอดมินเว็บไซต์ ehospice มาบรรยายวิธีการขับเคลื่อนสังคมผ่านเว็บไซต์แลกเปลี่ยนประสบการณ์และการเคลื่อนไหวงานฮอซปิสและพาเลียทีฟแคร์ในทั่วทุกมุมโลก http://ehospice.com

เธอให้แนวคิดว่า การใช้เครื่องมือไอทีในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว เพียงโนตบุค กล้องถ่ายภาพ และเครื่องอัดเสียงไม่กี่ตัว หากไปอยู่ถูกที่ถูกเวลา ก็อาจทำให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ได้เห็นและแบ่งปันเรื่องเล่าที่ดีและทรงพลัง  เรื่องเล่าบางเรื่องสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับเคทเธอเลือกที่จะสร้างการขับเคลื่อนในพื้นที่การประชาสัมพันธ์และใช้ข้อมูลความรู้ที่ทันท่วงที  เชื่อหรือไม่ว่าในเว็บไซต์ ehospice.com มีเรื่องเล่าใหม่ๆ ทุกสัปดาห์โดยใช้ทีมงานเพียง 4 – 5 คน

“คุณอายุก็ยังน้อย ทำไมถึงมาสนใจเรื่องเจ็บป่วยระยะท้ายล่ะคะ อะไรคือแรงบันดาลใจของคุณ?” ผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายคนหนึ่งถาม

“แม่ของดิฉันเป็นพยาบาลดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองในแอฟฟริกาใต้ค่ะ” เคทตอบ คนในห้องหายสงสัยในฉับพลัน  เข้าใจแล้วกับคำโปรยของเธอที่อยู่หน้าแรกของสไลด์ที่กล่าวว่า “ประสบการณ์ส่วนตัวนั่นแหละ คือแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง”

 

บทความสุดท้าย คุณจาฟฟา ชาง หนึ่งในทีมงานมูลนิธิฮอซปิซแห่งไต้หวัน เล่าถึงประสบการณ์ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ “ปฏิบัติการตายอย่างธรรมชาติ” (National death act) ที่ใช้เครื่องมือทั้งทางกฎหมาย ระบบสุขภาพ และระบบสังคมให้เอื้อต่อการตายอย่างสงบสำหรับชาวไต้หวัน

มูลนิธิมีฝ่ายงานสนับสนุนและขับเคลื่อนนโยบายพาเลีพทีฟแคร์อย่างเป็นเรื่องเป็นราว อีกทั้งยังเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นให้คนในสังคมตระหนักที่จะเรียนรู้เรื่องการตายดีอย่างกว้างขวาง เช่น การทำสื่อรณรงค์ในช่องทางต่างๆ จัดแคมเปญปั่นจักรยานเยี่ยมฮอซปิซทั่วเกาะไต้หวัน มีอีเวนท์ประจำปี สร้างสรรค์ชั้นเรียนเรื่องความตายสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ ทำพินัยกรรมชีวิตฉบับสมาร์ทการ์ด รวมถึงการใช้สังคมออนไลน์ในการสื่อสารแนวคิด เครื่องมือเหล่านี้ถูกสร้างสรรค์ สื่อสาร อย่างร้อยเรียงเป็นระบบ แต่ละปี มูลนิธิจะมีธีมการรณรงค์ในประเด็นย่อยๆต่างๆ และพูดถึงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เป็นเวลาติดต่อกันตลอดทศวรรษ

คุณจาฟฟา เน้นย้ำว่า “การรู้จักกลุ่มเป้าหมาย” เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ องค์กรขับเคลื่อนควรที่จะจัดการเรียนรู้ในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากรู้และต้องการ มิใช่สิ่งที่องค์กรอยากบอก เธอเสนอว่าสำหรับการสร้างความตระหนักเรื่องการเตรียมตัวตายแล้ว น่าจะเริ่มจากกลุ่มที่สื่อสารได้ง่ายไปหายาก เช่น ผู้สูงอายุในสถาบันการศึกษา สถาบันดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้ป่วย สมาชิกวัด ฯลฯ แล้วค่อยเริ่มสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ยาก เช่น คนที่ยังมีสุขภาพดี คนหนุ่มสาว กิจกรรมที่องค์กรสร้างสรรค์ต้องทำให้น่าสนใจ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จาฟฟาบอกเคล็ดลับว่า “เพียงเขามาร่วมงานกับเราครั้งเดียวก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”

 

ผมเดินจากห้องบรรยายอย่างเปี่ยมความหวัง  แน่นอนว่าประสบการณ์ดังกล่าวไม่ใช่ทั้งหมดของวิธีการทำงานขับเคลื่อนสังคมเรื่องการเผชิญความตายอย่างสงบ แต่ก็ให้แรงบันดาลใจ  แม้จะยาก แต่เป็นไปได้ 

คำสำคัญ (Tags): #aphc#public advocacy#public awareness
หมายเลขบันทึก: 554842เขียนเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2013 23:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2013 23:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท