ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่ดี

ช่วงนี้โรงพยาบาลของเรา เริ่มรื้อฟื้นโครงการส่งเสริมสุขภาพดี ๆ ขึ้นมาใหม่ คือให้บุคลากรของโรงพยาบาลสามารถที่จะออกกำลังกาย โดยการเต้นแอโรบิกได้ ตั้งแต่เวลา 15.30 – 16.30 น. ในวันอังคาร เพราะปกติเรามีโครงการเต้นแอโรบิก กันทุกวัน ที่หน้าตึกอยู่แล้ว ในเวลา 17.00 -18.00 น.  แต่สมาชิกน้อยมาก บางวันไม่ถึง 10 คน ประกอบกับผลการตรวจสุขภาพประจำปีนี้ของบุคลากรเรา มีคนที่ไขมันในเลือดสูงเยอะมาก จึงต้องมีการส่งเสริมเรื่องการออกกำลังกายนี้อย่างจริงจัง ก็ได้ฤกษ์เบิกฟ้าอนุญาตให้เราวางมือจากงานมาออกกำลังกายกันได้เต็มที่ในวันอังคารที่ผ่านมา เราก็เป็นหนึ่งในคนที่ไปเต้นด้วย ก็สนุกดีนะ ไม่เคยได้เต้นแอโรบิกอย่างจริงจังกับเขาเลย พยายามทำท่าตามคุณครูอย่างเคร่งครัด มีบางครั้งที่ล้าบ้าง แต่ก็ฮึด จนจบ ได้ผลเลยทันที เหงื่อออกมากมาย ตรงตามทฤษฎีการออกกำลังกายเด๊ะ             จริง ๆ แล้วเราเองก็พึ่งมาเริ่มสนใจการออกกำลังกายเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว จำได้ว่าเริ่มจากมีคุณหมอคนหนึ่งมาพูดเรื่องเกี่ยวกับการป้องกันการเป็นมะเร็งให้ฟัง โดยยกตัวอย่างของ ดร.หนึ่งที่เป็นมะเร็งตับให้ฟัง  ( ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว )  มะเร็งมันเป็นโรคที่น่ากลัวมาก สำหรับเรามันน่ากลัวกว่าการเป็นเอดส์อีกนะ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เป็นได้ และมันจะมาหาเราโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย บางคนที่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี ก็ยังเป็นเลย เหมือนกับว่า ตอนที่เราไปตรวจยังไม่มี แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นอยู่ อาจารย์ได้บอกเคล็ดลับในการป้องกันตัวเอง คือ 4 อ. และ 1 พ. คือ ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ อากาศ และการพักผ่อน และรายละเอียดของแต่ละอย่างคือ-          ออกกำลังกาย ตามข้อกำหนดที่ว่าอย่างน้อย อาทิตย์ละ 3 วัน ๆ ละ 30 นาที และต้องทำให้หัวใจเต้นแรงด้วย-          อาหาร ต้องพยายามรับประทานผัก และผลไม้ให้มาก ๆ โดยเฉพาะผักที่มีสีสด ๆ -          อารมณ์ ก็ต้องพยายามไม่ให้เครียดเกินไป-          อากาศ ต้องอยู่ในที่ที่ อากาศบริสุทธ์-          พักผ่อน อาจารย์บอกว่ามีงานวิจัยที่บอกมาแล้วว่าคนที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงติดต่อกันอาจทำให้เป็นมะเร็งได้      จำได้เลยว่าหลังจากวันนั้น เราก็เริ่มสนใจการกินผักมากขึ้น จริง ๆ แล้วเป็นคนที่ไม่ชอบกินผัก แม้จะอยู่ในภาคใต้ ซึ่งคนเขาชอบกินผักกันเหลือเกิน แต่ที่ตัวเองพยายามทำได้คือ ผักชนิดไหนที่ชอบกิน ก็กินให้มาก ๆ และเริ่มออกกำลังกาย โดยตอนแรกยากมากเลยนะที่จะหาเวลาออกกำลังกาย เพราะกิจวัตรประจำวันของเราตื่นเช้าก็ทำอาหารให้ลูก แล้วไปทำงานกลับมาก็ต้องสอนการบ้านลูก แล้วก็ดูแลเรื่องอาหารการกิน คิดแล้วแทบไม่มีเวลา สุดท้ายไปได้คำตอบว่า เราก็ต้องออกกำลังกายตอนเช้ามืดที่พ่อกับลูกกำลังหลับอยู่ เออมันก็ทำได้นะ ประมาณ ตีห้าครึ่งก็ลุกมาปั่นจักรยานอยู่กับที่ เปิดทีวีไปบ้าง อ่านหนังสือบ้าง มันก็สามารถ เหมือนกันนะ พอเวลาผ่านไปเราก็ค้นพบวิธีใหม่ ช่วงเวลาที่แฟนไปส่งลูกไปโรงเรียนเราก็ปั่นจักรยานได้ ตอนหลังก็เลยปรับเวลาเป็นประมาณ 7 โมง – 7 โมงครึ่ง เฮ้อ happy ขึ้นหน่อย เวลาที่เราทำแบบนี้ก็เกือบปีแล้วนะ แล้วไม่ใช่เราคนเดียวแฟนเราเขาก็ออกกำลังกายด้วย เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องไขมันในเลือดสูง เรารู้ว่ามันยากที่จะกลั้นใจ จัดเวลา หรือ ลงมือปฏิบัติเรื่องการออกกำลังกาย แต่เคยมีคนพูดว่า ถ้าวันนี้หมอสั่งว่า คุณต้องออกกำลังกายทุกวัน มิฉะนั้นคุณจะตาย รับรองเราทำได้แน่ ๆ แต่นั่นหมายความว่า สุขภาพของเราน่ะเกิดอาการแย่แล้ว เราอยากให้ทุกคนเริ่มออกกำลังกาย ตั้งแต่วันนี้ โดยให้คุณคิดว่า ออกกำลังกาย 1 วัน ทำให้คุณยืดอายุในการอยู่กับคนที่คุณรักได้อีก 1 วัน มันคุ้มกันไหมค๊ะ

[แสงศรี]

ยินดี ที่มีบุคลากรในหน่วยงานเดียวกัน

ที่ชอบ อ่านและเขียนบันทึกที่มีสาระ...อย่างGTK