ปิดเทอม ช่างเป็นอะไรที่เด็ก ๆ ในวัยเรียนมีความสุขเสียจริง ๆ ชีวิตในวัยเรียน ช่างน่าสดใส งดงามควรค่าแก่การจดจำในวัยเด็ก ตอนนี้เด็ก ๆ มีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เปลี่ยนแปลงจากเมื่อสมัย พ่อแม่ แต่ละวันต้องเริ่มต้นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อจะได้เตรียมตัวเดินทางออกจากบ้าน เพื่อจะได้ไปเรียนให้ทันในตอนเช้า ตอนนี้เด็ก ๆ ต้องศึกษาเรียนรู้ คงจะต่างจากสมัยก่อน โรงเรียนเป็นที่ศึกษาหาความรู้ ส่วนสมัยนี้ดูช่างมีการแข่งขันตั้งแต่เด็ก บางแห่ง คุณแม่รู้ว่าตนเองท้อง ก็ต้องดิ้นรนหาที่เรียนให้ลูก ไปจองคิวตั้งแต่ในท้อง หาที่เรียนที่คนนิยม เริ่มแข่งขันการมากยิ่งขึ้น เพราะทุกคนต้องการให้เด็ก เรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เครียดตั้งแต่คุณแม่คุณพ่อ ยันถึงคุณลูก
น้องโบวี่ก็ไม่ต่างจากเด็กคนอื่น ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 ครึ่งเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในเมือง(โคราช) เพราะต้องขึ้นรถตู้ร่วมกับคนอื่น ๆ จาก อ.โนนไทย ไปในเมือง ระยะทาง 30 กิโลเมตร แต่ต้องเผื่อรถติด เผื่อไปรับคนอื่น ๆ ที่อยู่ตามรายทาง ต้องไปให้ทันเข้าแถวก่อน 08.00 น. เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องโดนทำโทษ แต่คุณแม่ก็คอยย้ำนัก ย้ำหนาว่า หากถูกทำโทษ ควรมีการชี้แจงกับคุณครูทุกครั้งว่า การมาสายของน้องโบวี่ เกิดจากสิ่งใดบ้าง เป็นเหตุที่สมควร เช่น รถเสียระหว่างทาง การขึ้นรถตู้รับ - ส่ง นักเรียนมีความล่าช้าต้องคอยรับเด็กตามรายทาง ใช่ลงโทษโดยขาดเหตุผล
การเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เป็นเหตุที่ผู้ปกครอง ต้องการ หรือตัวเด็กต้องการ >>>
ในกรณีน้องโบวี่ เป็นทั้งสองเหตุผลคือ ผู้ปกครองต้องการให้เด็กเข้ารับการศึกษา และตัวเด็กต้องการด้วยอีกเหตุหนึ่ง เพราะเพื่อนเขาชวนกันไปเรียน จะได้มีเพื่อนประถม ตามไปเรียนด้วยกัน ซึ่งตกลงกันว่าถ้าสอบไม่ได้จะต้องมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน ซึ่งเขาก็สอบได้ด้วยตัวเขาเอง โดยผลสอบนำมาจัดห้องเรียน น้องโบวี่เรียนในห้องเรียนปานกลาง
ตลอดระยะเวลาเรียน มีการส่งเสริมการเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน เด็กทุกคนมีความเครียดในการเรียน ซึ่งเป้าหมายแต่ละคน คือ สอบให้ผ่าน แต่บางคนต้องการเป็นเลิศ น่าแปลกใจ เด็กเก่งระดับเป็นเลิศ แต่ประสบการณ์ชีวิตช่างน้อยเหลือเกิน มนุษยสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ ก็ดูจะน้อยลงไป เพราะนอกจากในห้องเรียนแล้ว ออกมายังติว กวดวิชาอีก
น้องโบวี่จะโชคดีหรือโชคร้ายอันนะ เรียนแค่ปานกลาง ความหวังของแม่คือสอบให้ผ่านก็พอลูก "อย่าตกหรือติด 0 ติด ร ก็พอ
ถ้าไม่ตกจะพาไปเที่ยวปิดเทอมกันนะ " คุณแม่บอกเด็ก ๆ
ปิดเทอมคราวนี้ เราจะไปทะเลกัน เพราะน้องโบวี่ตั้งแต่เกิดไม่เคยไปทะเลเลย อายุปาเข้า 12 ปีแล้ว ชีวิตช่างน่าสงสาร เดี๋ยวเขาจะว่าเชยไม่รู้จักทะเล
"อยากให้ปิดเทอมทุกวันเลย " เด็ก ๆ พูด
การเดินทางเที่ยวปิดเทอม เรามีการเตรียมตัว คุณแม่คุณลูกช่วยกันจัดแจง เก็บของ มีการบริหารเวลา และสิ่งของ
"เราจะไปกัน 3 วัน 2 คืนนะ เราจะเตรียมอะไรกันไปบ้าง" คุณแม่ถาม
"เตรียมชุดไปนอนสัก 2 คืน เสื้อผ้าไปเที่ยวสัก 3 ชุด และเผื่อชุดเล่นน้ำด้วยครับ " เด็ก ๆตอบ
" อ๋อ ! ต้องเตรียมยาไปด้วยครับ เพราะเผื่อผมแพ้หลงกิน กุ้ง อาหารที่ผมแพ้ด้วย " น้องโบวี่เอ่ย
เป็นการวางแผนชีวิตอีกระดับหนึ่ง รู้จักการเตรียมการ
เราจะไปเที่ยวตามรอยประวัิติศาสตร์กัน นับตั้งแต่จังหวัดระยอง เราไปดู อนุสาวรีย์ท่านสุนทรภู่ ระหว่างการเิดินทางและถึงที่หมาย เราจะคุยกันว่า "ท่านสุนทรภู่ เป็นคนที่ไหนกันนะเด็ก ๆ ท่านเขียนหนังสืออะไรกันบ้าง ท่านเกิดสมัยไหนกันเอ่ย " เป็นการเดินทางที่สอดแทรก ความรู้ประวัติ ภาษาไทย ไว้ ซึ่งเด็ก ๆ จะไม่เบื่อกับการตอบคำถามหรือคิดตาม เพราะมันไม่ใช่การเรียนนี่นา แต่เป็นการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์ (ที่แท้คุณแม่ก็หลอกสอนเด็ก ๆ ไม่รู้ตัว)
" เราไปดูอ่าวกับแหลมกันดีกว่า " คุณแม่บอก "มีแหลมสิงห์ แหลมงอบ แล้วแหลมกับอ่าวต่างกันตรงไหนเอ่ย ??
อ้าวเด็ก ๆ ยังไม่ได้คำตอบ งั้นเราตามไปดู แหลมสิงห์กันนะ" แล้วเราก็ขับรถไปดูแหลม ต่าง ๆ ที่ใกล้ ๆ กัน
" คุณแม่ จะพาไปเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบนด้วย เพราะอยู่ใกล้ที่พัก ใกล้ ๆ กันมีพิพิธภัณฑ์ทางทะเลด้วยจ้า เราจะไปดูสัตว์ทะเลกันนะ
มีสัตว์มากมายในทะเล กุ้ง หอย ปูปลา ด้วยจ้า " แล้วเด็ก ๆ ก็ได้คำตอบคำว่า แหลม กับ อ่าว ว่าต่างกันอย่างไร รวมทั้งเห็นสัตว์ในตู้ และสัตว์ชายเลน ป่าโกงกาง ว่าเป็นอย่างไร
คืนนี้เราก็ได้ชิม ลิ้มลองอาหารทะเลอันเลื่องชื่อว่าอร่อยกันแค่ไหน เช้าวันรุ่งขึ้น เด็ก ๆ ก็ได้เล่นน้ำทะเล
" อ้าว เรามาลองชิมน้ำทะเลว่ารสชาด เป็นอย่างไร " คุณแม่ถาม " ไม่เห็นอร่อยตรงไหนเลย เค็มก็เค็ม " เด็ก ๆ ถาม
" แถมน้ำเข้าตา แสบตาด้วย " เด็กเริ่มบ่น แต่ก็ยังเล่นน้ำทะเลไม่ไปไหน "ทำไมน้ำทะเลถึงซัดเข้าหาฝั่งครับ " เด็กเริ่มงง
" อ๋อ ก็เวลากลางวัน เป็นลมทะเล คลื่นลมจะพัดเข้าหาฝั่งจ้า ส่วนกลางคืน ลมจะพัดจากฝั่งออกไปทะเล จึงเรียกว่า ลมบก " คุณแม่อธิบาย " แล้วเราจะเก็บน้ำเป็นที่ระลึกได้หรือเปล่าครับ " เด็ก ๆ ถาม
" ได้จ้า " คุณแม่ตอบ " ผมจะไปเอาขวด มาใส่น้ำกับหอยนะครับ " เด็ก ๆ ขยั้นขยอ
" เก็บแต่เศษเปลือกหอยเล็กนะจ๊ะ ที่เหลือ และมีตัวไม่ต้องเอากลับ ให้เขาอยู่ตามธรรมชาติ ให้คนอื่น ๆ เขามาเที่ยวดูต่อได้จ้า ขืนเราเอากลับไปหมด คนอื่น ๆ จะได้ไม่ได้ดูจ้า " เน้นอนุรักษ์ ไปด้วยเลย " ครับแม่ "
ทริบทัวร์ปิดเทอมปีนี้ เดินสายตลอดจากชลบุรียันจันทบุรี ไกลทีเดียว เจ้าตัวเล็ก ก็พลอยเมารถ อ้วก ไปตลอดทาง สุดท้ายต้องกินยาแก้เมา หลับตลอดทาง วันนี้เราจะไปดูปลาโลมา แสนรู้กันนะ
"โอ้โฮ้ ปลาทูใหญ่ " น้องแบงค์ตัวเล็กบอก " ไม่ใช่ ปลาโลมา " พี่โบวี่บอก
" ปลาโลมาทำไมฉลาดจัง สอนได้ด้วย " เด็ก ๆ สนใจ
" ก็เขาเป็นปลาที่ฉลาด เพราะเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีสมองน้ำหนักใกล้ ๆ กับเรา เลยสอนง่าย แสนรู้ " คุณแม่อธิบาย
ระหว่างการแสดง ก็มีการบรรยาย สรรพคุณเจ้าปลาโลมาให้เด็ก ๆ ทราบตลอดรายการ กันทีเดียว
แหม การเดินทางทริปนี้ ช่างยาวนาน และช่างน่าจดจำกันจริง ๆๆ " อยากไปเที่ยว ปิดเทอม กันอีกหรือเปล่าเด็ก ๆๆ ปีหน้าเราไปเที่ยวรอบโลก กันดีไหมจ๊ะ คุณแม่จะพาทัวร์ " คุณแม่ถาม " ไปครับ สงสัยจะแพง เพราะไปทั่วโลกเลย " เด็ก ๆ ชักสงสัย
" ไม่เป็นไรจ้า เพื่อลูกแม่ทำได้ " อิ อิ คุณแม่แอบยิ้ม แค่ไปเมืองจำลอง แค่นี้เอง
ชาวจังหวัดระยองยินดีต้อนรับน้องโบวี่ และครอบครัวค่ะ การได้มาเที่ยวธรรมชาติ ทำให้ได้รับทั้งความรู้และความสนุกแบบนี้จริงๆ
ดีมากๆเลยค่ะเที่ยวไปเรียนรู้ไป
ขอบคุณคะทุกท่านที่มาคอมเม้นต์