...ผมชอบอ่านหนังสือเล่มนี้เสมอๆ นะครับ ทั้งยามสุขและยามทุกข์
เพราะทั้งสองสิ่งมักโคจรรอบๆ ตัวผมเสมอครับ
...หนังสือเล่มนี้ เป็นเรื่องราวที่ผมกลับมาสำรวจตนเอง
ทำความเข้าใจทั้งกายและใจให้เกิดความสมดุลมากที่สุด
ด้วยสติที่ได้รับจากคำสอนของพระพุทธเจ้า
เมื่อนั้นความสุขที่แสวงหาย่อมยืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ
และพร้อมจะโอบกอดเราด้วยความเข้าใจเสมอ
...นอกจากนั้น ผมว่า “การแบ่งปัน...เป็นเมล็ดพันธุ์การสร้างสุข....”
การแบ่งปันเริ่มที่ตัวเรา...และแผ่กระจายกระเพื่อมเหมือนหยดน้ำเล็กๆ
ที่หยดลงแม่น้ำ...ขยายออกไปอย่างไม่สิ้นสุด
...เหมือนคำโปรยในหนังสือเล่มนี้
“...ชีวิตคนเราก็เหมือนดั่งตะเกียงคนละดวง
จะมีดวงดดวงหนึ่งเปล่งประกายอยู่เพียงลำพังก็ใช่ที่
ความสว่างที่มียังเป็นเพียงแสงริบหรี่
แต่พอจุดต่อแสงสว่างให้กัน
ตะเกียงหลายดวงที่รอวันฉายแสง
ก็พร้อมที่จะเปล่งประกาย
ให้แสงสว่างแก่โลกอย่างงดงาม....”
...อยากให้ทุกท่านได้อ่านจังครับ...ราตรีสวัสดิ์นอนหลับฝันดีนะครับ....
..................
ชื่อหนังสือ : หวังวันหนึ่ง ความสุขจะอยู่เคียงข้างเรา
ผู้เขียน : พระอาจารย์ชุติปัญโญ
สำนักพิมพ์ : ใยไหม
พิมพ์ครั้งที่ 8 ปีที่พิมพ์ : 2553 จำนวน 158 หน้า
มีหลักฐานว่าผู้สร้างมนุษย์มีคำสั่งให่แบ่งปันเป็นตัวเลข 10% ต่อมาภายหลัง เมื่อ1400กว่าปี ลดลงมาเหลือ 2.5%
ตัวเลขแน่นอน ไม่สับสน เพียงแต่มนุษย์ส่วนใหญ่แบ่งปันเกินจำนวนที่คำนวนได้ด้วยซ้ำ มีการกำหนดเสป็คผู้รับว่า เด็กกำพร้า แม่ม่าย แต่ไม่มีชื่อนักบวช นักจับต้องงบประมาณชุมชนท่านใดปรากฎ
หากมนุษย?แบ่งปันตามภาระหน้าที่ที่ผู้สร้างมนุษย์แนะนำเสมอ ในโลกนี้ จะไม่มีคนจน เพราะทุกคนจะเพียรหารายได้มาแบ่งปันกันเองแหละ
ปรัชญานี้มิใช่กุสโลบายดึงเงินออกจากกระเป๋าพี่น้องมนุษย์ ให้ทำบุญผ่านพิธีกรรม หรือ ช่องทางของตนเลย
ไร้ภาวะการเป็นทาสเป็นนายต่อกัน ศึกษา หาความจริง ได้จากปรัชญานี้ ทำได้ทันที และ ทุกๆคนด้วย
ผมเป็นแฟนประจำท่าน "ชุติปัญโญ" ครับ คุณหมอทิมดาบ ;)...