แรงจูงใจในการเขียนของนักเรียน


โลกเปลี่ยนไป..วิวัฒนาการด้านการสอนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การแก้ปัญหาและพัฒนาการอ่านคล่องเขียนคล่อง อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ในโรงเรียนที่มีครูและนักเรียนเป็นศูนย์กลางของปัญหาและความสำเร็จ ให้คิดไว้เสมอว่า การสอนอ่านและเขียนนั้น แท้จริง มีวิธีการสอนที่ดี และเหมาะสมกับเด็กของเรา จะมีไม่กี่วิธีหรอกครับ ไม่มากความดั่งที่โฆษณาชวนเชื่อ..แต่ต้องเลือกให้ตรงกับเด็กและปัญหา อยู่ที่ครูจะคิดไขว่คว้า โดย ใส่ใจ ที่จะเลือกแนวทางและทำอย่างจริงจัง...เท่านั้น

ผมยังมีความเชื่อส่วนตัวอยู่เสมอว่า การอ่านคล่องเขียนคล่อง ไม่ใช่ปัญหาที่ต้องเดือดร้อนไปถึงกระทรวงทบวงกรมที่อยู่ส่วนกลางและเขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ แต่เป็นเรื่องที่ครูทุกคนต้องพากันตระหนักและต้องรู้สึกว่ามันต้องเดือดร้อนแล้วนะ ที่หาวิธีลดปัญหาเช่นนี้ไม่ได้ เพราะด้วยวิชาชีพอย่างหนึ่ง และโดยหน้าที่อันสำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่ง

 

ทำไมไม่ควรให้ข้างบนเขาเดือดร้อน เหตุผลสำคัญก็คือ เมื่อพวกเขาเดือดร้อนเมื่อไหร่ เขาจะสร้างงานใหม่ โครงการใหม่ นวตกรรมใหม่ คณะทำงานและงบประมาณใหม่ขึ้นมาทันที เริ่มวางแผนปีนี้ แล้วไปทำชาติหน้าอยู่ร่ำไป แล้วก็จะฉุดกระชากลากถูครูออกจากห้องเรียน ไปอยู่ในห้องแอร์อันฉ่ำเย็น ๒ - ๓ วัน ประจัญหน้ากับวิทยากร ที่เป็นใครไม่รู้และไม่เคยประสบความสำเร็จด้านการสอนเลย แถมไปรับวิทยาการมาแบบงูๆปลาๆ แบบไร้จินตนาการ บางทีก็รู้เท่ากันกับครูที่นั่งฟังอยู่นั่นแหละ..เคยเห็นใช่ไหม..

 

โลกเปลี่ยนไป..วิวัฒนาการด้านการสอนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว การแก้ปัญหาและพัฒนาการอ่านคล่องเขียนคล่อง อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ในโรงเรียนที่มีครูและนักเรียนเป็นศูนย์กลางของปัญหาและความสำเร็จ ให้คิดไว้เสมอว่า การสอนอ่านและเขียนนั้น แท้จริง มีวิธีการสอนที่ดี และเหมาะสมกับเด็กของเรา จะมีไม่กี่วิธีหรอกครับ ไม่มากความดั่งที่โฆษณาชวนเชื่อ..แต่ต้องเลือกให้ตรงกับเด็กและปัญหา อยู่ที่ครูจะคิดไขว่คว้า โดย ใส่ใจ ที่จะเลือกแนวทางและทำอย่างจริงจัง...เท่านั้น

 

ที่ผมเห็นและเป็นอยู่ในโรงเรียน..พอจะมองข้ามปัญหาการอ่านไม่คล่องไปแล้ว เหลือแต่การเขียน ที่จะเร่งส่งเสริมกัน นิเทศติดตามเรื่องนี้กับครู โดยทำให้ดูเป็นตัวอย่าง กับเด็กประถมปลาย แต่ครูต้องปรับลดระดับกิจกรรมให้เหมาะกับเด็กในห้อง มิใช่ทำเหมือนกันหมด สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การไต่ระดับความยากง่าย จงทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้เด็กรู้สึกอยากเขียน และมีความสุข พบความสำเร็จทุกครั้ง ที่ลงมือเขียน

 

ครูจะให้เด็กเขียนอะไรแต่ละครั้ง สื่อการสอนต้องพร้อมและชัดเจน คำสั่งที่ครูบอกเล่าต้อง เนียน แบบชี้ช่องบอกทาง บอกความต้องการของครูและจุดหมายที่เด็กต้องเดินไปให้ถึง อย่าพูดแบบลวกๆ โดยคิดว่าเรื่องเขียนเป็นเรื่องง่าย

 

อย่างประถมปลาย จะเขียนบันทึก..เรื่องจินตนาการ เล่าจากประสบการณ์ บรรยายและรายงาน ผมสนใจการเขียนบรรยาย เล่าเรื่องจากประสบการณ์ เนื่องจากนำเด็กไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ไปยังแหล่งเรียนรู้ต่างๆอยู่บ่อยๆ

 

ไปเรียนรู้ทักษะชีวิต(พายเรือ) บอกเด็กทันที ว่าครูต้องการให้เธอพายเรือเป็น(ปฎิบัติ)จากนั้นครูจะให้อธิบายและเล่าเรื่องการพายเรือในวันนี้(ความรู้) เด็กจะรู้สึกว่าน่าสนใจแล้ว จะทำเป็นเล่นไม่ได้ ต้องจดจ่อและเก็บรายละเอียด(สมาธิ) ถือเป็นการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานที่สำคัญ คือ เรียนรู้แบบบูรณาการ ทำได้และเข้าใจ แล้วนำไปเขียน..

 

ก่อนลงมือเขียน.."นักเรียนครับ..เขียนลงสมุดเลยนะ เขียนเยอะๆเลย เขียนผิดเขียนหวัดครูไม่ว่านะ เดี๋ยวครูช่วยปรับให้ จะมีกี่ย่อหน้าก็ได้ รู้อะไร ทำอะไร เห็นอะไร รู้สึกอย่างไร บอกไปให้หมดนะ ยังไม่ต้องวาดรูป เสร็จแล้วครูจะแจกกระดาษให้นะครับ.." นี่คือการเขียนโครงร่าง ที่ให้อิสระกับนักเรียน เสร็จแล้วก็จะตรวจ ซึ่งโดยมากจะปรับแค่ตัวสะกด วรรณยุกต์และวรรคตอนเท่านั้น..ส่วนเนื้อหาเป็นเรื่องเฉพาะตัวของเขา

 

                                                     พายเรือทั่วสระ

           ในเช้าของวันหนึ่ง อากาศค่อนข้างเย็น มีลมพัดมาเรื่อยๆ ผอ.ได้ให้พวกหนู นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ หัดพายเรือ เผื่อในภายภาคหน้าน้ำอาจจะท่วม เราจะได้ไม่ลำบาก เพราะเราเคยพายเรือมาบ้าง มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว ทักษะการพายนั้นก็ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับคนเราว่าจะทำได้หรือไม่ วิธีการพายเรือก็คือเราจะต้องใส่เสื้อร่มชูชีพกันไว้เวลาตกน้ำและตรวจดูไม้พายว่าชำรุดเสียหายหรือไม่ จากนั้นจึงลงไปในเรือ พายไปในสระ พายไปจนสุดขอบสระ จากนั้นจึงกลับมาที่เดิมที่จุดเริ่มต้น จากนั้นก็เปลี่ยนให้คนต่อไปได้ลงเรือบ้าง ทุกคน ป.๖ ก็พายเหมือนกัน การที่ได้พายเรือในครั้งนี้ พวกหนูชั้น ป.๖มีความสุขสนุกสนาน ได้ทักษะความรู้กันมาก อาจนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของพวกหนูได้อีกด้วย และอาจจะสอนน้องๆให้พายเรือเป็นด้วย สอนคนที่พายไม่เป็นให้สนใจที่จะพายเรือ

 

                                                                         นรินทร์ รักราษฎร

 

....การเรียนรู้ในสิ่งที่แปลกใหม่ ใกล้ตัว และนักเรียนสนใจ จะเป็นแรงผลักดัน ให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจ ที่จะเขียนบอกเล่าเรื่องราว..อันเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญ ซึ่งครูต้องเชื่อมั่นด้วยว่า.."ถ้าเด็กอ่านออกย่อมเขียนได้" ด้วยนะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 553033เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2013 07:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2013 08:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

 

ที่บ้านคุณมะเดื่อ มีน้ำให้พายเรือ แต่ไม่มีเรือจะพายจ้ะ

"พี่มะเดื่อ รอเดี๋ยวนะ ผมจะส่งเรือฝอยทอง ไปช่วยราชการครับ..."

เด็กๆลายมือสวย...ได้ขัดเกลางานเขียนตั้งแต่เด็ก...ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้องแน่นอน เป็นผู้นำที่ดีในภายภาคหน้าค่ะ

เรียนท่านอาจารย์

ดิฉันอ่านทุกบันทัดของบันทึก เข้าใจ และ เห็นภาพ ชัดมากค่ะ

ดิฉันเป็นคนนอกวงการการศึกษาแต่โชคดีได้เข้าเรียนคณะครุศาสตร์ เรียนร่วมห้องกับครู  ได้เรียนวิชา "หลักการสอน"  ทำให้เข้าใจว่าสิ่งที่อาจารย์พูดเป็นหลักพื้นฐานของการสอนล้วนๆ ครูทำได้ทันที

วิธีสอนที่ให้เด็กๆ "เขียนเล่าประสบการณ์" นั้นมีประโยชย์จริงๆ ค่ะ  เพราะ ประสบการณ์มีอยู่ในตัวคนทุกคน นักเขียนมีชื่อเสียงล้วนเขียนเรื่องจากประสบการณ์ตัวเอง เพราะทำให้ไม่ตัน  การเขียนพัฒนาทักษะทางภาษาได้มาก  เพราะต้องเรียบเรียงภาษาออกมาจากความคิด สามารถขัดเกลาจนพอใจ

วิธี "เล่าเรื่อง" แบบที่ครูนก  noktalay  สอน ดิฉันก็ชอบมาก  เพราะการเล่าฝึกทักษะที่ต่างจากการเขียน เพราะเขาแก้ไขไม่ได้เฉพาะหน้า ต้องมีการประมวลความคิดมาอย่างดีเพื่อให้ภาษาไหลรื่น ฝึกสมองด้วยค่ะ

เยี่ยมมากเลยครับ ผมให้ความคิดเห็น ครูนก เช่นกันว่าจะนำวิธี นี้ที่คล้ายกับของ ผอ. คือ ให้พนักงานเขียน อ่าน หน้าที่ประชุม ในวันศุกร์ เพื่อฝึกทักษะการทำงานที่ต้องปลูกสำนึกพนักงาน ที่ขาดวินัย ขาดความร่วมมือ ขาดการตระหนักเรื่องความผิดพลาดในการทำงาน

ซึ่งที่ผ่านๆมาหัวหน้าพูดปากเปียกปากแฉะ แต่ไม่ก้าวหน้าเลยครับ

สุดยอด ผอ. สุดยอดคุณครู และสุดยอดความตั้งใจและน่ารักของเด็กๆ ค่ะ

 

  อืม  เข้าท่า  แฮะ  ขอยืม ไปใช้ได้ปละ  สื่อการสอนต้องพร้อมและชัดเจน คำสั่งที่ครูบอกเล่าต้อง เนียน แบบชี้ช่องบอกทาง บอกความต้องการของครูและจุดหมายที่เด็กต้องเดิน (เออ ประเด๋วจะเข้าไปนิเทศ ติดตามการสอนของครูซักหน่อย)

 

 

ชัดเลยครับ ผมกำลังศึกษากระบวนการสอนเขียนที่ได้ผลอยู่พอดี ขอบคุณมากๆๆ สำหรับบันทึกดีๆ

ให้นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องใกล้ตัว ได้เรียนเต็มตามศักยภาพของตนครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท