บันทึกการอ่าน
ครอบครัวนักอ่าน
วันที่ 8 ตุลาคม 56
ครอบครัวของ เมเฟอร์ลิน อารีสตี้
เรื่อง คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ (อังกฤษ: computer) มาจากภาษาละตินว่า Computare หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์[2][3] ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่า " เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เหมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ที่ง่ายและซับซ้อนโดยวิธีทางคณิตศาสตร์" หรืออาจกล่าวได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์หมายถึง เครื่องมือที่ช่วยในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อพร้อม ส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหาได้มากมาย จากคุณสมบัตินี้ของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งไม่ใช่เครื่องคิดเลข คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำรูป แบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทาง ตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการโดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
อันตรายจากการใช้คอมเป็นเวลานาน สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ต้องบอกไว้ก่อนว่า อาการบางอย่างที่กล่าวนั้น บางท่านอาจจะยังไม่เคยเป็น |
โทษต่อสุขภาพกาย เช่น แสบตา, ปวดข้อมือ, ไม่รับประทานอาหาร จนแสบกระเพาะ, อดนอน ตื่นสาย ทำให้เพลีย ง่วงเวลาเรียนหรือเวลางาน เป็นต้น
โทษต่อสุขภาพจิต เช่น เกิดความทุกข์ ไม่สุขใจ ขัดแย้งภายในจิตใจหรือขัดแย้งกับผู้คนรอบข้างได้ เพราะหากเล่นเกมและอินเตอร์เน็ต นานๆเข้าเด็กจะเกิดความรู้สึกชอบเอาชนะ เคยชินกับการแข่งขัน ต้องมีแพ้มีชนะ, เคยชินกับการได้ดังใจ เพราะเกมสั่งบังคับได้ มีความสุขหรือรู้สึกสำเร็จเมื่อสั่งได้ดังใจ, ไม่มีวินับ ไม่มีการควบคุมตนเอง ไม่บังคับตนเอง ขาดความรับผิดชอบ เพราะเมื่อเกิดความเพลิดเพลินกับการเล่นเกมแล้ว มักจะไม่ในใจทำอย่างอื่นที่สำคัญ หรือฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ ความรับผิดชอบที่มีอยู่ว่าควรทำ หรือไม่ทำอะไร เช่น ไม่อ่านหนังสือ ไม่เข้านอนไม่ทานข้าว ไม่กวาดบ้าน ล้างชามตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่มีอยู่ หรือแม้กระทั่งเกิดพฤติกรรมหนีออกจากบ้านหลายวัน ไปกินนอนอยู่ในร้านเกม และการขโมยเงินพ่อแม่เพื่อไปเล่นเกม เป็นต้น
โทษต่อสุขภาพ สังคม หรือทักษะทางสังคมของเด็ก เช่น เด็กจะเห็นเพื่อนเป็นศัตรูของความสนุกสนาน เพื่อนมาแย่งเล่น(หมายเหตุ - การละเล่นในอดีต เช่น วิ่งไล่จับ รีรีข้าวสาร มอญซ่อนผ้า ต้องเล่นกับเพื่อน เล่นคนเดียวไม่ได้ เพื่อนคืออุปกรณ์การ จึงต้องรู้จักคบเพื่อน เอาใจเพื่อน ไม่เช่นนั้นเพื่อนไม่เล่นด้วย) จึงไม่อยากคบเพื่อน หรือแม้อยากจะคบแต่ก็คบเพื่อนฝูงไม่ค่อยเป็นเพราะไม่ค่อยได้ฝึก ทำให้ขาดทักษะทางสังคม เพราะเด็กอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บางคนอ้างว่าการเล่นเกมออนไลน์ หรือ Chat พูดคุยกันทางอินเตอร์เน็ตก็ได้เพื่อน ซึ่งมีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ว่าความสัมพันธ์ออนไลน์เป็นความสัมพันธ์ในโลกเสมือนไม่ใช่โลกแห่งความ เป็นจริง เพราะเป็ฯความสันพันธ์ที่พูดคุยกัน หรือแสดงความยินดี ความห่วงหาอาทรต่อกันได้มากโดยไม่ได้แสดงข้อเสีย เพราะไม่ได้อยู่ร่วมกันจริงๆ หรือเป็นความสัมพันธ์ที่บางคนไม่ได้แสดงตัวตนที่แท้จริง เป็นเด็กอาจแสดงเป็นผู้ใหญ่ เป็นชายอาจแสดงเป็นหญิง เป็นคนเห็นแก่ตัวอาจแสดงตัวเป็นคนมีน้ำใจก็ได้ เพราะในโลกอินเตอร์เน็ต สามารถแสดงเป็นอะไรก็ได้ไม่มีใครรู้ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่คบหากันทางอินเตอร์เน็ตจนสนิทสนมกันแล้วนัดพบ จบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างง่ายดายอย่างที่ได้เห็นเป็นข่าวอยู่เนืองๆ
โทษต่อการผลิตผลงานของชีวิต ได้แก่ การเรียนตก เสียการเสียงาน เสียความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่น ในกรณีที่เป็นเด็กอาจเสียความสัมพันธ์กับพ่อแม่ พี่น้อง ส่วนในกรณีที่เป็นผู้ใหญ่อาจเสียความสัมพันธ์กับคู่สามีภรรยาจนเกิดเหตุหย่า ร้างก็มีมาแล้ว หรือ อาจถึงขั้นเสียผู้เสียคร จากการมีพฤติกรรมอันธพาล ขโมยเงิน มั่วสุม เล่นการพนัน ใช้ยาเสพติด หรือมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ทางออกที่ดี คือ ความสมดุล ความสมดุลคือสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช้คอมพิวเตอร์หรือ อินเตอร์เน็ตเลยคงจะไม่ได้ เพราะชีวิตในอนาคตทั้งการเรียน หรือการทำงานต้องใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต แต่เล่นมากจนติดก็ไม่ดีแน่
จึงควรเล่นแต่พอดีในยามว่างในจำนวนเวลาที่ไม่มากและเราสามารถกำหนดเวลา เล่นเกมหรืออินเตอร์เน็ตได้ เช่น หนึ่งหรือสองชั่วโมง เราอยากจะเล่น หรือเลิกเล่นเมื่อไรก็ได้ ไม่ใช่เกมหรืออินเตอร์เน็ตกำหนดเรา เรียกให้เราเล่น ทั้งๆที่เป็นเวลาที่ไม่ควรเล่น หรือบังคับไม่ให้เราเลิกทั้งๆ ที่เป็นเวลาที่ควรเลิก
แพทย์เชื่อว่า อาการเลือดจับตัวเป็นก้อนลิ่มในเส้นเลือดของผู้ป่วยใกล้ตายรายหนึ่ง สาเหตุมาจากการที่ใช้เวลานั่งทำงานอย่างต่อเนื่องกับคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยที่ไม่ได้มีการขยับร่างกาย หรือลุกออกไปไหนเลย มันเป็นเรื่องจริงที่ว่า คอมพิวเตอร์สามารถทำให้คุณตายได้ ซึ่งเราไม่ได้กำลังพูดถึงนักเล่นเกมที่ตายหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หลังจากอดอาหาร และน้ำต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน แต่หมายถึงใครก็ตามที่จะได้รับผลกระทบจากการใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่กับโต๊ะ คอมพิวเตอร์
นักวิจัยที่ประเทศนิวซีแลนด์พบว่าการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมง อาจทำให้เลือดแข็งตัวเป็นก้อนลิ่ม เป็นอันตรายถึงตายได้ ลักษณะคล้ายๆ กับการเกิดอาการที่เรียกว่า DVT (Deep Vein Thrombosis) ซึ่งเกิดจากการนั่งเครื่องบินในระยะทางไกลๆ โดยเฉพาะชั้นที่นั่งราคาประหยัด บางทีจึงเรียกอาการนี้ว่า "economy-class sysdrome" ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ถูกค้นพบโดยนักวิจัยที่ได้ข้อมูลว่า ชายวัย 32 ปี ผู้หนึ่งที่ต้องนั่งทำงานอยู่หน้าเทอร์มินัลคอมพิมเตอร์ประมาณ 18 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งอาการโคม่า เนื่องจากเกิดอาการเลือดจับตัวเป็นก้อน โดยก้อนเลือดที่เกิดขึ้นนี้จะอยู่ในบริเวณขาของเขา ก่อนที่จะแตกกระจายและเดินทางไปยังปอดทั้งสองของเขาอีกทีหนึ่ง อาการที่เรียกว่า DVT นี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีเลือดขันอยู่ในเส้นเลือดดำ ซึ่งมันจะค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองไปเป็นก้อนลิ่น
โดยอาการที่สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ ขา จะเริ่มบวม ส่วนอาการที่อันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อลิ่มเลือดแตกออก และเดินทางไปยังหัวใจ หรืออวัยวะภายในที่สำคัญๆ ซึ่งผลลัพธ์ของอาการที่เกิดขึ้นจะไม่อาจคาดเดาได้
โรคหรืออาการผิดปกติอันเนื่องมาจากการนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานๆมีดังนี้ครับ
อาการปวดตา ตาแห้ง
การมองจอคอมพิวเตอร์ก็เหมือนการจ้องไปที่ดวงไฟ เมื่อจ้องนานๆจะมีอาการปวดตา ดวงตาล้า ตาแห้ง มองภาพไม่ค่อยชัด ถ้าเกิดอาการเหล่านี้ต้องหยุดครับ อย่าฝืนทำต่อ
โรคต้อกระจก
เป็นผลพวงมาจากข้อแรก เมื่อเราจ้องจอคอมพิวเตอร์มากๆ นานๆ โดยไม่มีระบบกรองแสงที่ดี สามารถส่งผลกระทบกับดวงตา ทำให้เป็นโรคต้อกระจกได้
อาการปวดหลัง เอวและต้นคอ
เป็นอาการที่เกิดจากการนั่งใรท่าที่ไม่ถูกต้อง หรือนั่งบนเก้าอี้ที่ไม่อำนวยต่อการนั่งนานๆ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทำงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ทำให้เกิดอาการปวดหลัง เอวและต้นคอได้ง่าย
อาการปวดนิ้วหรือนิ้วล็อค
เป็นอาการยอดฮิตของคนใช้คอมพิวเตอร์ เกิดจากการจับเมาส์หรือพิมพ์ในท่าเดิมๆเป็นเวลานานๆ (คนเล่นเกมส์มากๆต้องระวัง) ร่างกายจะสร้างพังผืดบริเวณนิ้วหรือโคนนิ้วขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถยืดนิ้วได้ตรงเช่นเดิม
โรคกระเพาะ
อาการนี้มักจะเกิดกับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์แบบบ้าระห่ำ (Computer Addiction) คือใช้แบบข้ามวันข้ามคืน ไม่สนใจอาหารการกิน แบบนี้ไม่ดีนะครับ โรคกระเพาะจะถามหา แถมเป็นโรคที่ทรมานมาก รักษาให้หายก็ใช้เวลานาน
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
โรคนี้มักจะมาคู่กับโรคกระเพาะ คือนอกจากจะอยู่หน้าคอมโดยไม่กินข้าวกินปลาแล้ว ยังไม่ค่อยเข้าห้องน้ำอีกด้วย ถ้าไม่จวนตัวขนาดข้าศึกมาจ่อหน้าประตูเมืองละก็ อย่าได้หวัง ไม่ลุกง่ายๆหรอก อันตรายนะครับโรคนี้ ทรมานมากๆ ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้ ปวดฉี่แต่ฉี่ไม่ออก ออกก็กระปิบกระปอย เจ็บแสบไปหมด
อาการหรือโรคด้านบนนั้นเป็นเฉพาะอาการที่เจอกันมากๆนะครับ ความจริงแล้วยังมีมากกว่านี้ เช่นเป็นโรคกรดไหลย้อนอันเนื่องมากจากโรคกระเพาะ ยังไม่นับคำพูดถากถางจากครอบครัวและคนรอบข้าง ซึ่งเป็นอาการทางสังคมอีก
ดังนั้นการใช้คอมพิวเตอร์เราต้องมีวินัยในตัวเองเสียหน่อยครับ ต้องดูแลตัวเองบ้าง อย่าปล่อยเลยตามเลย มาดูกันครับว่าเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องใช้คอมพิวเตอร์นานๆ
- อย่าอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เกินครั้งละ 1 ชั่วโมง เมื่อครบชั่วโมง ควรลุกขึ้นบิดร่างกายแขนขาบ้าง เดินออกไปนอกห้อง มองต้นไม้ ใบไม้ สีเขียวๆ ซัก 5-10 นาที ค่อยกลับมาทำงานใหม่
- อย่ากลั้นไม่เข้าห้องน้ำ เมื่อมีอาการอยากเข้าห้องน้ำให้เข้าทันที ไม่เช่นนั้น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบและท้องผูกจะมาเยือน
- อย่าอดอาหาร เมื่อถึงเวลาอาหารต้องหยุดใช้คอมพิวเตอร์ทันที เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ พักสัก 10-15 นาที ค่อยกลับมาทำงานใหม่
- ใช้แว่นตาแบบตัดแสงที่ใช้กับคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันดวงตา
- ใช้เก้าอี้ที่เหมาะสมกับการใช้หน้าคอมพิวเตอร์ สามารถเอนได้มากๆหน่อย เพื่อให้เราไม่ต้องนั่งอยู่ท่าเดิมตลอดเวลา
- ระหว่างใช้งานเมาส์และแป้นพิมพ์ ให้หยุดเป็นระยะเพื่อบริหารนิ้ว ยืดนิ้วบ้าง เพื่อป้องกันอาการนิ้วล็อค
ไม่มีความเห็น