หน้าแรก
สมาชิก
รศ. นพนิธิ สุริยะ
สมุด
อาจารย์นพในสายตาข...
“ผู้ไม่เคยให้ร้าย...
รศ. นพนิธิ สุริยะ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
“ผู้ไม่เคยให้ร้ายใคร” บทสัมภาษณ์จากอาจารย์วิจิตรา ถึง อาจารย์นพ...พี่ผู้เป็นที่รัก
การที่ท่านคบกับคนอื่นเท่าที่สังเกตเห็น มีความรู้สึกว่าท่านคบกับคนอื่นในลักษณะที่ “มีความเคารพต่อคนอื่น” คือ เคารพต่อความเป็น “คน” ของคนอื่น มีลักษณะของ “การให้เกียรติกัน” คือ ท่านทำให้รู้สึกว่าคนอื่นทุกคนนั้นมีเกียรติ
“
ผู้ไม่เคยให้ร้ายใคร
”
บทสัมภาษณ์จากอาจารย์วิจิตรา ถึง อาจารย์นพ...พี่ผู้เป็นที่รัก
เมื่อวันที่
๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙
โดยนางสาวรุ่งรัตน์
ธนบดีธาดา และ นางสาวชลฤทัย
แก้วรุ่งเรือง
---------------------------------------------------
ผู้สัมภาษณ์
:
อาจารย์รู้จักอ.นพนิธิ ครั้งแรกเมื่อไหร่คะ
?
นานแค่ไหนแล้ว
?
อ.วิจิตรา
:
รู้จักเมื่อตอนเข้ามาเป็นอาจารย์ใหม่ๆ ที่ธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นอาจารย์นพฯท่านก็เป็นอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์อยู่ก่อนแล้ว ก็น่าจะประมาณปี ๒๕๒๓
ผู้สัมภาษณ์
:
อาจารย์ เคยร่วมงานกับอ.นพนิธิฯบ้างหรือไม่
?
อ.วิจิตรา
:
พอได้รู้จักกับท่านระยะหนึ่งก็ได้ร่วมงานกัน รู้สึกว่าท่านเป็นผู้ร่วมงานรุ่นพี่ที่อบอุ่น
ก็เคยร่วมงานกันมาตลอด ทั้งในคณะ และนอกคณะ อย่างเวลาที่ท่านมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ครูสอนอยู่ท่านก็จะมาขอข้อมูลต่าง ๆ เช่น ในกรณีที่ท่านจะต้องนำไปใช้ในเรื่องของการประชุมที่ท่านทำอยู่ในคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะบางทีก็อาจจะมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่ครูสอนอยู่ หรือไม่บางทีครูเองก็สนใจในเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นต้น เราก็ไปขอแลกเปลี่ยนกัน ก็จะมีลักษณะการร่วมงานที่ประสานกันอยู่ในการแลกเปลี่ยนความรู้และ ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นก็อาจจะกล่าวได้ว่ามีความใกล้ชิดมากในฐานะเป็นผู้ร่วมงานที่รู้ใจกันพอสมควร
ผู้สัมภาษณ์
:
การทำงานร่วมกับ อาจารย์นพนิธิฯ เป็นอย่างไรบ้าง
?
อ.วิจิตรา
:
ในการร่วมงานกันจะมีความประทับใจที่ท่านให้เกียรติคนอื่น เท่าที่สังเกตจะเห็นว่า ท่านจะเป็นคนที่จับความรู้สึกของเราได้ดี ว่าเรารู้สึกอย่างไร เวลาท่านคบกับใคร ท่านก็จะสังเกตว่าคนนั้นเป็นอย่างไร แล้วท่านก็จะช่วยเหลือถ้าเห็นว่าเขาเกิดตกทุกข์ได้ยาก มีความทุกข์ร้อนเป็นอย่างไรท่านก็จะพยายามหาทางช่วยเท่าที่ท่านจะทำได้
ผู้สัมภาษณ์
:
อาจารย์นพนิธิฯ เป็นคนลักษณะอย่างไร
?
และอาจารย์มีความประทับใจในตัวอาจารย์นพนิธิอย่างไร
อ.วิจิตรา
:
ในตัวท่านมีความน่าประทับใจ คือ
“
บุคลิกของท่าน
”
ที่ท่าน
“
จริงใจ
”
กับคนที่ท่านคบด้วย จากที่คบหากัน ได้ใกล้ชิด ได้มีโอกาสคุยและแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ก็รู้สึกว่าท่านมี
“
ความโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนอื่น
”
มีความจริงใจ คือ การที่ท่านมีความเอื้อเฟื้อโดยท่านไม่ได้นึกว่าจะได้ผลประโยชน์อะไรตอบแทน ทำโดยลักษณะที่เป็นบุคลิกของท่านเอง ลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่หาได้ยากสำหรับคนในสังคมปัจจุบัน สำหรับในการที่ท่านคบกับคนอื่นเท่าที่สังเกตเห็น มีความรู้สึกว่าท่านคบกับคนอื่นในลักษณะที่
“
มีความเคารพต่อคนอื่น
”
คือ เคารพต่อความเป็น
“
คน
”
ของคนอื่น มีลักษณะของ
“
การให้เกียรติกัน
”
คือ ท่านทำให้รู้สึกว่าคนอื่นทุกคนนั้นมีเกียรติ เพราะฉะนั้นเวลาท่านคบกับใคร ท่านก็จะให้เกียรติทุก ๆ คนที่ท่านคบด้วย พร้อม ๆ กับที่ท่านรู้สึกถึงการ
“
เอาใจเขามาใส่ใจเรา
”
ด้วย โดยสังเกตเห็นว่า เวลาท่านคบกับใครแล้วท่านเห็นว่าเขามีความทุกข์ร้อนหรือ มีความเดือดร้อนใจอะไร แล้วหากท่านสามารถช่วยอะไรได้ ท่านจะพยายามช่วย ท่านพยายามที่จะแบ่งเบาความทุกข์ที่เขามี นอกจากนี้ ท่านก็ยังเป็นคนที่เห็นว่าคนอื่นเขาก็มีสิทธิ มีศักดิ์ศรีเหมือนกับคนทุกคน ไม่ได้แบ่งชั้นวรรณะว่าจะมีลักษณะที่เป็นคนทำงานในอาชีพใดหรือเป็นชนชั้นใด ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่ท่านรับประทานอาหารในห้องรับรองอาจารย์ด้านหลัง ท่านก็จะล้างจานของท่านเองโดยบอกว่า ท่านรับประทานเองท่านก็ต้องล้างเอง ลักษณะแบบนี้แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ต้องการให้เป็นภาระให้แก่แม่บ้านหรือนัการภารโรงโดยถือว่างานทุกอาชีพก็เป็นงานที่มีเกียรติท่านเป็นคนแบบนี้ เป็นคนที่เห็นว่า
“
คนเสมอภาคกัน
”
มีความเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน ทุกคนก็มีศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์เหมือนกัน อย่างนี้เหมาะสมมากที่ท่านมาเป็นอาจารย์สอนวิชาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนเพราะรู้สึกว่าท่านใช้ในทางปฏิบัติด้วยไม่ใช่เฉพาะแต่วิชาการด้านทฤษฎีเพียงอย่างเดียว ท่านทำในสิ่งนั้นด้วย จากการที่ได้คบหากับท่านและเห็นการปฏิบัติของท่านจึงรู้สึกว่ามีความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างยิ่ง และขอสนับสนุนให้ท่านเป็นผู้ที่สอนวิชานี้ต่อไป ตลอดเวลาเท่าที่รู้จักกับท่าน ท่านเป็นคนที่เป็นตัวอย่างของคนที่มีความเป็นเพื่อน หรือเป็นมิตรแท้ มีความเป็นพี่ มีความเป็นครู ที่จะให้กับคนอื่นอย่างเต็มที่ คือ
ตัวของท่านนั้นเป็นตัวอย่างที่ให้เห็น ในลักษณะที่คบกันอย่างเพื่อนท่านก็มีความเป็นเพื่อนที่ดี คบกันอย่างเป็นพี่ท่านก็ให้ตัวอย่างของความเป็นพี่ที่ดี ในความเป็นครู เท่าที่สังเกตเห็นเวลาท่านให้ความเห็นต่อนักศึกษาท่านก็ทำให้ลูกศิษย์เห็นตัวอย่างของความเป็นครูที่ดี นี่ก็ทำให้เกิดความประทับใจในตัวท่านมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ผู้สัมภาษณ์
:
ในโอกาสที่อาจารย์นพนิธิจะเกษียณอายุราชการ อาจารย์อยากจะฝากบอก อาจารย์นพฯ ว่าอย่างไรบ้าง
?
อ.วิจิตรา
:
อยากจะบอกว่าเท่าที่ท่านทำมา ท่านทำได้เป็นอย่างดีที่สุดแล้ว ก็ขอให้ท่านทำดีอย่างนี้ต่อไป เพราะสิ่งที่ท่านทำท่านก็ได้รับผลแห่งความดีมาตลอดโดยที่ท่านก็ไม่ได้หวัง ท่านไม่เคยหวังว่าท่านจะมีผลตอบแทนอะไรอย่างไร
ตัวอย่างเท่าที่ท่านเล่าให้ฟัง ก็รู้สึกว่าท่านได้รับความเอื้อเฟื้อจากเพื่อนของท่านมากพอสมควร ในการเข้ามาดูแลทำให้เกิดผลประโยชน์อะไรต่างๆ โดยที่ท่านไม่ได้เคยไปเสนอ ก็เห็นว่า ท่านได้รับผลตอบแทนโดยที่จริงๆ แล้วท่านไม่เคยหวังเลย เป็นความประทับใจที่สะสมมาทีละเล็กละน้อยจนเป็นจำนวนมาก อยากบอกให้ท่านทำความดีอย่างนี้ต่อไป แม้ว่าเวลาที่ท่านทำนั้น คนอื่นจะไม่เห็น แต่ในที่สุดแล้ว ความดีมันก็เป็นความดี
โดยไม่มีทางสูญหายไปไหน ท่านก็จะต้องได้รับความดี หรือ ผลดีตอบแทนท่านตลอดไป ในลักษณะของการให้ความช่วยเหลือต่อกัน ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน หากท่านต้องการความช่วยเหลืออะไร ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงาน เป็นเพื่อนรุ่นน้อง ก็จะเคารพท่านตลอดไป พร้อมกับยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับท่านอย่างเต็มที่เสมอ
ผู้สัมภาษณ์
:
จะนิยามความเป็นอาจารย์นพนิธิฯว่าอย่างไร
?
สั้น ๆ หรือจะให้ฉายาท่านว่าอะไร
อ.วิจิตรา
:
น่าจะเป็นว่าอะไรดี คิดว่าถ้าให้เป็นคำสั้นๆ นิยาม คำขวัญสำหรับตัวท่าน คิดว่าอาจจะเป็น
“
ผู้ไม่เคยให้ร้ายใคร
”
เพราะเท่าที่ผ่านมาท่านเป็นคนที่ให้เกียรติกับคนอื่นไม่ว่าต่อหน้า หรือ ลับหลัง ท่านไม่เคยว่าร้ายใคร ไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงคนอื่นในทางที่ไม่ดี มีแต่จะคอยช่วยเหลือคนอื่น นึกถึงคนอื่นตลอดเวลา
ผู้สัมภาษณ์
:
ถ้าเปรียบเทียบอาจารย์นพนิธิฯ เป็นกฎหมาย จะเปรียบได้กับกฎหมายใด
อ.วิจิตรา
:
ก็จริงๆ แล้ว ท่านสอนกฎหมายระหว่างประเทศ ถ้าเทียบว่าท่านเป็น
“
กฎหมายระหว่างประเทศ
”
ก็น่าจะดีและเหมาะสม เพราะท่านมีความเป็นอินเตอร์ เป็นสากล ท่านเป็นคนในลักษณะที่หลากหลาย ท่านมีมุมมองในลักษณะนั้น โดยเฉพาะในเรื่องที่ท่านเป็นผู้พิทักษ์ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น มีความเคารพในสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องที่รับรองได้ว่าท่านเป็นผู้มีความเป็นสากล
ผู้สัมภาษณ์
:
ถ้าเปรียบเทียบ อาจารย์นพนิธิฯ เป็น
Super Hero
อาจารย์คิดว่าเป็น
Super Hero
คนใด เพราะอะไร
?
อ.วิจิตรา
:
รู้สึกว่าท่านเคยชอบการแต่งตัวที่มันแปลกๆ คือ ท่านเป็นผู้ที่มีบุคลิกดี เป็น
Gentleman
เป็นสุภาพบุรุษ ที่ให้เกียรติคนอื่น อย่างที่บอกว่า ท่านคบกับใครท่านจะให้เกียรติคนนั้น และในลักษณะของการเป็นสุภาพบุรุษของท่าน ท่านก็จะแฝงความเป็นเอกลักษณ์ของท่านอยู่ด้วย คือ เป็นสุภาพบุรุษที่แฝงความรู้สึกภายในที่มีความสนุกสนาน มีมุขอะไรที่แปลก ๆ ตลกๆ ที่ไม่เหมือนคนอื่น บางทีเรานึกไม่ถึงว่าท่านคิดได้อย่างไง ดูท่านไม่น่าจะนึกถึงได้ขนาดนั้น
ซึ่งถ้าท่านจะเป็นฮีโร่ ท่านก็น่าจะเป็นฮีโร่ที่มีลักษณะอย่างที่บอก จะเป็น
“
ซานตาครอส
”
ก็ไม่ใช่แม้จะเป็นผู้ให้ สนุกๆ แต่ก็ไม่ใช่ท่าน
“
ป็อปอายก็ไม่ใช่
”
จะเป็นแบบ
“
เจ้าชายขี่ม้าขาว
”
ไปช่วยคนก็คิดว่าไม่เชิง คิดว่าน่าจะเป็น
“
โซโล
”
แบบนั้นใช่เลย
ใส่หน้ากาก แล้วก็ใส่หมวกและผ้าคลุมสีดำ และ
“
บุคลิกสง่างาม
” “
เจือรอยยิ้ม
” “
มีอารมณ์ขัน
”
เพราะว่าท่านเป็นคนที่ชอบช่วยคนด้วยความรู้สึกดี มีความปรารถนาดีอยู่ข้างใน และบางครั้งก็มีอารมณ์ตลก มีบุคลิกที่สนุกสนานในขณะที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ คิดว่าตรงมากนะ มีดวงตาที่เป็นมิตร และ อบอุ่น และบางทีท่านก็ไม่อยากแสดงตัว ท่านก็ทำโดยที่ท่านไม่ได้นึกถึงว่าจะต้องให้ใครรู้
“
โซโล
”
จึงน่าจะเหมาะที่สุด.
--------------------------------------------------------------------------------
เขียนใน
GotoKnow
โดย
รศ. นพนิธิ สุริยะ
ใน
อาจารย์นพในสายตาของเพื่อนร่วมงาน
คำสำคัญ (Tags):
#ครู
#ผู้ไม่เคยให้ร้ายใคร
หมายเลขบันทึก: 55240
เขียนเมื่อ 20 ตุลาคม 2006 12:11 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 23:01 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
รศ. นพนิธิ สุริยะ
สมุด
อาจารย์นพในสายตาข...
“ผู้ไม่เคยให้ร้าย...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท