"สมอง" กับ "อวัยวะต่างๆ" อย่างไหนมีข้อมูลของร่างกายมากกว่ากัน


มีเพื่อนมาถามประจำว่า "ทานอาหารวันละครั้ง ทำงานทั้งวัน กลางคืนยังมาอ่านหนังสือ ตอบคำถามในเนต ไม่เหนือย ไม่เพลียหรืออย่างไร"

ผมก็ตอบซ้ำๆ มาตลอดระยะสองสามปีที่ผ่านมาว่า

เท่าที่ทราบมา "การหิวและการง่วงเป็นเพียง "กิเลส" จึงอย่าไปตามใจมันมาก"

สมองมีความรู้ และเข้าใจสิ่งต่างๆได้ดีกว่า จึงควรใช้ประโยชน์จากสมองให้มากๆๆ

และใช้สมองตรวจสอบการทำงานของร่างกาย อย่าให้มันหลอกเราให้เสียการ เสียเวลากับเรื่องที่ไร้ประโยชนิในชีวิต

เวลากระเพาะบอกเราว่าหิว แสดงอาการพยศต่างๆนาๆนั้น ร่างกายโดยรวมของเราหิวจริงไหม ??????
เวลาร่างกายบอกว่า "ง่วง" นั้นง่วงจริงไหม?????

หรือ....ก็แค่ "มายา" หลอกลวงเราเล่นๆไปงั้นๆ

เช่น.....พอกระเพาะฟ้องว่า "หิวแล้ว" ลองคลำพุง ตลำรอบเอวดูซิ อาหารสะสม และไขมันทั้งหลาย ได้ใช้ไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว หมดหรือยัง ถ้ายังมีแสดงว่ามันกำลังหลอกเรา เท่านั้นเอง อิอิอิอิอิอิอิอิ

พอเราไม่ค่อยตามใจมัน มันก็จะค่อยๆเลิกงอแง

แต่.............คนส่วนใหญ่ปล่อยให้การทำงานของร่างกาย และอวัยวะที่ขาดข้อมูลและความสามารถในการคิด และมักผิดพลาด มาคุมสมอง ทั้งๆที่สมองคิดและรู้อะไรมากกว่าเยอะ 

คือ.......สรุปง่ายๆ ว่า..........

เรากำลังเลิกใช้สมอง แต่เอาระบบร่างกายและอวัยวะที่มีข้อมูลไม่ถูกต้อง มาสั่งการทุกอย่างแทน 

เช่น มันบอกว่า "หิวแล้วนะ" (ทั้งๆที่อาหารและไขมันยังเต็มท้องอยู่เลย ก็ยังกินเข้าไปอีก)

ที่เป็นปัญหาตื้นๆ ที่ทำให้เกิด "โรคอ้วน" ของคนในสมัยนี้

พอเราตามใจมันบ่อยๆ มันก็ยิ่งได้ใจ ขัดใจนิดหน่อยก็แสดงอาการรุนแรง แบบเด็กโดนตามใจ จนเสียคน

และ ตัวเราเอง ก็ไม่คิด ยิ่งตามใจ จนเราก็ยังเชื่อว่าเราเป็นเช่นนั้นจริงๆซะด้วย 

ก็เลยมีแต่เรื่องไร้สาระ ทั้งวัน

พอเราไม่ตามใจมัน มันก็จะรู้ และจะไม่งอแงกับเราอีก ยกเว้นจำเป็นจริงๆ ที่เราก็ใช้ "สมอง" ตรวจสอบ และ "อนุมัติ" ได้

 

ก็เท่านี้เอง

อิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิอิ

หมายเลขบันทึก: 552278เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2013 00:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2013 00:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท