บันทึกการกลับบ้านก้าวที่สองร้อยห้า
สายลมหนาวพัดมาอีกครั้ง หอบเอาความหนาวเย็นมาเยือนผู้คนที่เขาค้อ เมฆจับตัวเป็นก้อนก่อนเปลี่ยนรูปร่างตามจินตนการของผู้พบเห็น ท้องฟ้าสีสด ภาพสวยงามของท้องฟ้าชินตาข้าพเจ้ามาตั้งแต่เด็กๆ ท้องฟ้าที่เขาค้อยังคงสวยกว่าหลายจังหวัดที่เคยพานพบ
ขณะที่มอเตอร์ไซต์แล่นอยู่นั้น สายตาเหลือบมองสองข้างทาง รีสอร์ทผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด เกือบร้อยละ 90 เปอร์เซ็น มิใช่คนในพื้นที่ หากแต่เป็นบุคคลอื่นที่มาซื้อพื้นที่เพื่อทำธุรกิจรีสอร์ท ราคาผืนดินจึงเพิ่มมากขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเพียงแค่นี้ สงสารก็เพียงแต่คนที่ขายผืนดินอันอุดมของตนเองเท่านั้น อนาคตไม่รู้ว่าจะทำมาหากินกันอย่างไร ลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร
ในแต่ละปีรีสอร์ทเหล่านั้นมีรายได้จากนักท่องเทียวเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ชาวบ้านกลับเสียโอกาสในการหารายได้ไปอย่างน่าเสียดาย ไม่รู้ว่าหน่วยงานต่างๆในอำเภอสนใจในข้อนี้หรือเปล่า
มอเตอร์ไซต์ยังคงแล่นต่อไป สายตามองสองข้างทางเป็นระยะๆ ใจหนึ่งเบิกบาน ทว่าอีกใจกลับเศร้าโศก...
คนจรเขาไม่รู้สึกผูกพันหรอกครับ ไม่เหมือนคนที่นั่น โดยเฉพาะคนที่ผูกพันแนบแน่นกับธรรมชาติ ธุรกิจรีสอร์ทเป็นเพียงบางช่วงในรอบปี ผมไม่เข้าใจว่าธุรกิจดำเนินอยู่ได้อย่างไรหรืออาจแอบแฝงการระดมซื้อที่ของกลุ่มทุนเพื่อเก็งกำไรในอนาคต มันก็น่าห่วงอย่างที่ว่า
ยิ่งนานไป ก็ยิ่งน่ากลัวครับ ยิ่งชุมชนไม่เข็มแข็งก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่