Living with Imperfection
ในยุค social media กำลังเฟื่องฟู มีทั้งคุณอนันต์และคุณโทษมหันต์มากมาย (เรียก "คุณ" ทั้งสองท่านเพื่อความยุติธรรม เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง) ประโยชน์ที่ชัดเจนก็คือ การดึงเอาเพื่อนฝูงที่ไม่ได้พบหน้ากันมาเป็นสิบๆปี (ไม่อยากบอกว่าหลายสิบหรือกี่สิบปี เรื่องไร) สามารถกลับมาพูดคุย ติดต่อสื่อสารเล่าสู่กันใหม่ แบบทีไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ทั้งทางไลน์ (line) บ้าง ทาง Facebook บ้าง
เมื่อวานนี้ก็พึ่งได้นัดคุยกับเพื่อนสมัยเรียนเตรียมอุดม จากกันมา 25 ปี แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนไปสมวัยมากขึ้นมี package ติดตัวมาตามสมควร(บุตรภรรยา) แต่ที่น่าสนใจก็คือ การสนทนาที่แบบว่า"ต่อติด" เหมือนเราพึ่งจากกันเมื่อวานซืน ความรู้สึกที่แม้แต่กับเพื่อนร่วมงานปัจจุบันก็ไม่สามารถจะเกิดขึ้นกับทุกคนแม้ว่าเราจะทำงานมาก็นานหลายปีแล้วก็ตาม
เราทำได้อย่างไร?
มันอยู่ที่เพื่อนของเราในอดีต รึว่าขึ้นกับเพื่อนของเราในปัจจุบันกันแน่?
เหลียวมองรอบตัวดูเพื่อนในปัจจุบันว่าจะมีใครที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์แบบเดียวกันกับเพื่อนกลุ่มเดิมก็บอกกับตัวเองว่า"สงสัยจะไม่มี"
แทบทุกคืนเราจะมีกิจวัตรเช็คไลน์ อ่านสิ่งที่เพื่อนๆสมัยนักเรียนคุยกัน จินตนาการว่าถ้าลูกๆของพวกเรา หรือนักเรียนของพวกเรามาอ่านคงจะไม่เชื่อว่านี่คือคนๆที่เขารู้จักในที่ทำงานมานั่งคุยกันในเรื่องแบบนี้
ในขณะที่เหตุผลส่วนหนึ่งคงจะเป็นเพราะเราเคยสนิทกันมาก่อน และ/หรือ เพื่อนกลุ่มนี้มันเป็นกลุ่มคนที่สุดยอดมาก เราช่างโชคดีที่ได้มาเป็นเพื่อนและเราคงจะทำอะไรถูกต้องพอสมควรในชีวิตที่ยังคงทำให้เพื่อนเรานับเราเป็นเพื่อนอยู่
หรือว่ามีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้อีก?
เพื่อนวัยเด็กเป็นช่วงชีวิตที่เราเรียบง่ายต้องการอะไรที่ไม่ได้ลึกซึ้งมากมาย เน้นความสุขในปัจจุบัน เรายังไม่มี forms ไม่มีหมวกไม่มีหน้ามีตาอะไรมากมาย (เอ่อ ก็พอมีอยู่บ้างแต่ไม่เหมือนตอนที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว) พูดง่ายๆคือ "ไม่มีอะไรที่เรากลัวว่าจะต้องเสีย" ทุกคนในที่นั้นรู้ว่าเราติงต๊องแค่ไหน เฟอะฟะอะไรบ้าง พูดอีกอย่างก็คือ ณ ที่นี้หมดความจำเป็นใดๆที่เราต้องพยายามเป็นพยายามทำในสิ่งที่เราไม่ใช่ ห่วยได้เต็มที
เป็นชีวิตของ "เด็ก" นั่นเอง
ประเด็นก็คือ มิตรภาพแบบนี้มันดีไหม ถ้าดี หรือว่าดีมากๆ อะไรที่เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่สามารถจะทำแบบเดียวกันกับคนรอบข้างในปัจจุบัน และหากเราจะทำให้เกิดขึ้นตอนนี้อะไรเป็นสิ่งแรกที่เราควรจะเริ่มทำ
อาจจะเป็นทักษะในการอยู่กับความไม่สมบูรณ์แบบให้ได้หรือไม่? (Living with imperfection) ที่ที่เราสามารถปล่อยวาง ให้อภัยต่อตนเองและคนรอบข้างได้ง่ายๆ เราจึงเรียนรู้สิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นทุกวันด้วยสายตาของเด็กน้อยและหัวใจอันเยาว์วัยได้อีกครั้งหนึ่ง
เตรียมอุดม 845 รุ่น 43
ขอแลกเปลี่ยน สองประเด็นครับ
ประเด็นแรก การได้มาเจอเพื่อนในสมัยเรียน ในกลุ่มผม ก็มีเพื่อนสมัย ม.ปลาย และ เพื่อนสมัยเรียนครู ปีนึง ก็นัดกันมาเจอครั้งหนึ่ง มาเจอกันก็สุดๆ ละครับ พูดจากันด้วยภาษาพ่อขุ่น สิงสาราสัตว์สารพัด เราก็นำมาใช้เรียกเพื่อนๆ ไม่ต้องมีการวางมาดวางฟอร์มกันละครับ มีการแซวกัน หยอกเอินกันให้สนุกสนาน คืนความเป็นเด็กมาครับ ตอนเรียนคยกันอย่างไร ปฏิบัติต่อกันอย่างไร มาตอนนี้ก็ทำเหมือนเดิม โง่ได้ งี่เง่าได้ ซื่อบือได้ เป็นตัวตลกให้เพื่อนๆได้ บรรยากาศแบบนี้ ประมาณว่า "ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่หายไป" มันได้คืนกลับมาครับ เรียกพลังวัยเด็กกลับคืนมา
ประเด็นที่สอง มิตรภาพแบบนี้ดี แต่ทำไมไม่ทำแบบเดียวกับคนรอบข้างในปัจจุบัน พูดกัยตรงๆ ก็มาจาก "อำนาจและผลประโยชน์" ละครับ คบกับเพื่อนๆ สมัยเรียน เราไม่มีอำนาจและผลประโยชน์ แต่คนรอบข้าง แฝงไปด้วยการแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ เผลอไปทำแบบเด็กๆ จริงใจ จะตกเป็นเหยื่อให้เขาซุ่มโจมตีให้เราเสียหาย ให้เราเสียอำนาจและผลประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ไม่ได้เสียเลยนะครับ สำหรับคนที่ไม่มุ่งอำนาจและผลประโยชน์มาก ก็พอที่จะ ง่ายๆ สบายๆ แบบเด็กๆ ได้ครับ
แล้วเราสามารถจะคบหากับใครแบบที่เราเคยทำได้ตอนเด็กอยู่หรือไม่? ถ่ายทำ ทำอย่างไร?
ขอบคุณมุมสะท้อนอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจนะคะ
รูปเตรียมอุดม class 845 รุ่น 8 1/2