โลหิตจาง หลายคนคิดว่าไม่น่าอันตราย รวมทั้งผู้เขียนก็คิดเช่นนั้น เพราะก็ทราบมาตลอดว่าตรวจเลือดทีไรก็ถูกระบุว่าโลหิตจาง คิดว่าทานอาหารที่บำรุงเลือดก็น่าจะดีขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในหน่วยงานก็ตวจสุขภาพประจำปี ผลการตรวจพบว่าหลายคนถูกระบุว่าโลหิตจาง ทำให้สงสัยว่า ทำไมเป็นกันหลายคน เกิดจากอะไรกันแน่ ก็ใช้วิธีสอบถามผู้รู้บ้าง ค้นข้อมูลบ้าง ทำให้ทราบว่า โลหิตจางเกิดจากปัจจัยหลายแบบ
- เกิดจากพยาธิ
- เกิดจากการเสียเลือดมากในระหว่างมีประจำเดือน
- เกิดจากการขาดสารอาหาร
- เป็นโรคเกี่ยวกับเลือด มะเร็งเม็ดเลือด
โลหิตจางพบมากในวัยสูงอายุ ในวัยเด็กก็มี
อาหารที่รับประทานบางอย่างก็มีส่วนขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก อาหารจำพวกไขมันอิ่มตัว อาหารที่มีรสหวานมาก ใบชพลู ภาชนะที่ใส่อาหารก็มีส่วน(ข้อมูลจากการพูดคุยกับอาจารย์สาธาณสุข) โดยเฉพาะอาหารร้อน ๆ ที่ใส่พลาสติก
ซึ่งก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไป เพราะเห็นว่ามันเป็น อยู่ คือ ในชีวิตประจำวัน ไม่น่ามีอันตราย อาการเริ่มต้นก็จะมีอาการเวียนหัว อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ถ้าเป็นมากจะมีโรคเลือดแทรกซ้อนได้ เป็นมะเร็งได้
มีลูกศิษย์เป็นโรคโลหิตจาง เพราะไม่กินผัก หมอฉีดยาบำรุงรักษา ดังนั้นเพื่อนที่เป็นผู้รู้จึงแนะนำให้หันมาปรับปรุงการทานอาหารใหม่ ลดหวาน ลดเค็ม ลดมัน ทานผักสีเขียวมากขึ้น ทานตับ ทานผลไม้มากขึ้น และแนะนำให้ไปตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ ก่อนมันจะสะสมแล้วไปปรากฏอาการตอนอายุมากกว่านี้ เอาไม่อยู่จะกลายเป็นโรคร้ายกว่าที่คิด
สมัยเรียนปีแรกแรก โลหิตจางของชาวนา เกิดจากพยาธิปากขอ เดี๋ยวนี้ น่าจะจางจาก นายทุน กระมังครับ
คงจริงค่ะ โรคทรัพย์จาง โรคดอกเบี้ยบาน ตามมาติด ๆ ค่ะ