จากใจ แม๊พ และ เต้ย 2 หนุ่ม สาธิต ม.รังสิต กับบทพิสูจน์โรงเรียน 2 ภาษา และการสอบติดแพทย์


จากใจ แม๊พ และ เต้ย 2 หนุ่ม สาธิต ม.รังสิต

กับบทพิสูจน์โรงเรียน 2 ภาษา และการสอบติดแพทย์

อาชีพ หมอ ยังคงเป็นอาชีพที่เด็กหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่ในชีวิตจริงการเรียนนั้นแสนยากเย็น ยิ่งถ้าใครอยากเรียนหมอต้องมีความเก่งที่รอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายวิชาหลักอย่าง ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และเนื้อหาวิชาอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องอาศัยความเป็นเลิศ อีกทั้งบางอย่างต้องอาศัยการคำนวณ รวมทั้งทักษะภาษาอังกฤษด้วย ซึ่งนอกจากความเป็นเลิศด้านวิชาการแล้ว ผู้เรียนหมอ ยังต้องมีร่างกายที่แข็งแรง มีความโอบอ้อมอารี มีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ และแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเหนืออารมณ์

ซึ่งโดยทั่วไปมักมีความเชื่อกันว่า เด็กที่อยากสอบติดในคณะแพทยศาสตร์ นั้นต้องเรียนในโรงเรียนรัฐบาลอันเลื่องชื่อ และต้องเป็นสาย คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ถึงจะสอบติดได้แต่ในวันนี้ น้องแม๊พ พีรวิชญ์ ศรียารันต์ และ น้องเต้ย ฐิติณัฐ จารุฐิติ สองเด็กเก่งจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักเรียนที่มาจากโรงเรียนสองภาษา คือ มีรูปแบบการเรียนการสอนแบบบูรณาการหลักสูตรระหว่างหลักสูตรไทย ของกระทรวงศึกษาธิการและหลักสูตรนานาชาติ ก็สามารถสอบติดและเข้ามาเป็นนักศึกษาแพทย์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ได้เช่นกัน

โดยที่ น้องแม๊พ พีรวิชญ์ เล่าว่า ผมมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอ จึงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจเรียนเพื่อสอบติดแพทย์ให้ได้ ช่วงแรกก็ไม่มั่นใจว่าตัวเราจะสอบเข้าแพทย์ได้หรือไม่ คิดว่าตัวเองจะสู้โรงเรียนอื่นได้ไหม เพราะเราเรียนระบบสองภาษา ทุกรายวิชาจะสอนเป็นภาษาอังกฤษควบคู่กับภาษาไทย แต่เมื่อผลการสอบออกมาว่าสอบติดแพทย์ ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าได้ ก็มั่นใจว่าเราก็ทำได้เช่นกัน และเมื่อผ่านไป 1 ปี ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นในวิชาแพทย์ไม่ได้ทำให้ผมท้อ เพราะมีพื้นฐานที่ดีจากการเรียนที่โรงเรียนในวิชาหลัก อาทิ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา เป็นต้น และที่สำคัญคือภาษาอังกฤษ ด้วยความคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษในโรงเรียนอยู่แล้ว ทำให้ง่ายในการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ และได้เปรียบกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน

ทางด้านน้องเต้ย ฐิติณัฐ ก็เล่าว่า ตลอดระยะเวลา 8 ปี ที่ได้เรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต ผมมีความคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอังกฤษและคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนแพทย์ เพราะต้องใช้หนังสือเรียนภาษาอังกฤษ และแน่นอนเมื่อผมเรียนจบจะสามารถสู้กับหมอประเทศอื่นเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นอกจากภาษาอังกฤษที่ได้รับจากโรงเรียนแล้ว โรงเรียนยังสอนให้เราเรียนรู้จากประสบการณ์ การมีห้องแลปที่จำลองเสมือนมหาวิทยาลัย ทำให้เรามีโอกาสได้ทดลองจริงประกอบกับมีทั้งครูต่างชาติ และครูคนไทย ที่คอยให้คำแนะนำ ซึ่งยิ่งทำให้มั่นใจว่าวิชาการของโรงเรียนไม่ด้อยกว่าที่อื่นแน่นอน และสุดท้ายโรงเรียนปลูกฝังวัฒนธรรมไทย ผสมผสานกับนานาชาติ ทำให้เรามีบุคลิกที่ดีมีความคิด มีความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพื้นฐานการเรียนการสอนที่ได้รับจากโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตการเรียนต่ออุดมศึกษา และชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

หมายเลขบันทึก: 549813เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2013 14:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2013 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท