ความเชื่ออีกแบบของคนเป็นเบาหวาน


เชื่อว่ายาที่แพทย์จัดให้จะเป็นตัวลดระดับน้ำตาลได้เพียงพอ จึงทานอาหารตามแบบที่ตนเองต้องการและ ลูก ๆ แนะนำให้เดินมาก ๆ เลือดจะได้ไหลเวียนไปเลี้ยงแผลดีขึ้น

              สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สมาชิก วันนี้ยังคงมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้พวกเราทราบว่า ผู้เป็นเบาหวานคิดที่จะดูแลเบาหวานตามความเข้าใจของตนเองและคำบอกเล่าของญาติ  โดยไม่รู้ว่าวันหนึ่งสิ่งที่ไม่อยากได้ก็จะต้องได้มานั่นคือ การฉีดยา INSULIN

               รายนี้ชื่อ คุณ บุญชู เป็น DM  LOSS FU มาพบแพทย์ครั้งนี้ด้วยเรื่อง ระดับน้ำตาลสูงตลอด FBS = 188-200 mg%  HbA1c = 10.1 mg%  Cr = 2.4 mg%  มีProtien Urine 3+  คุณ บุญชู ปฏิเสธที่จะรับข้อมูลใด ๆ จากทีมวิทยากรและนักกำหนดอาหาร เพราะเชื่อว่ายาที่แพทย์จัดให้จะเป็นตัวลดระดับน้ำตาลได้เพียงพอ   จึงทานอาหารตามแบบที่ตนเองต้องการ ซึ่งคุณหมออยากจะให้ใช้ยาฉีดแทนยาเม็ด  แต่คุณ บุญชู ต่อรองว่าจะขอไปลองควบคุมอาหารอย่างจริงจังก่อน  แถมเมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดมีแผล BURN ที่เท้าขวามาอีก   มาFU วันนี้เท้าบวมมากสอบถามพบว่าเดินมาก  เนื่องจาก ลูก ๆ แนะนำให้เดินมาก ๆ เลือดจะได้ไหลเวียนไปเลี้ยงแผลดีขึ้น  คุณหมอพยายามที่จะช่วยเหลือโดยอยากให้ระดับน้ำตาลลดลงและแผลหายเร็วขึ้น เนื่องจากขณะนี้คุณ บุญชู มีระดับน้ำตาลสูงอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อทำให้แผลลุกลาม

                 คุณหมอจึงต้องประสานกับทีมวิทยากรเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการควบคุมเบาหวานด้วยยาฉีด และการทำแผล  ดิฉันแนะนำเรื่องวิธีทำแผลให้แก่ภรรยาและลูกชายที่มาด้วย  โดยเน้นว่าไม่ควรเดินลงน้ำหนักที่เท้าเพราะจะทำให้เนื้อเยื่อที่สร้างใหม่บริเวณหน้าแผลฉีกขาดตลอดเวลา   ทำให้แผลไม่มีโอกาสสมานปิดสักทีอีกทั้งการเดินมากยังเป็นการทำให้เลือดไหลเวียนไปที่แผลน้อยลงจากมีแรงกดเกิดขึ้น โดยดิฉันเอานิ้วชี้กดลงบนโต๊ะเปรียบเทียบนิ้วมือเหมือนเท้าแสดงให้คุณ บุญชู เห็นว่านิ้วที่ถูกกดจะซีดขาวขาดเลือดไปเลี้ยง คุณบุญชู พยักหน้ารับรู้ดิฉันจึงบอกต่อว่าการขยับเท้าหรือยกเท้าขึ้นลง โดยไม่ยืนจะเป็นการบริหารหลอดเลือดและกล้ามเนื้อที่ดีกว่า  แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้แผลดีขึ้นจากภายในออกมาต้องอาศัยการควบคุมระดับน้ำตาลให้ดี   

                 ดิฉันจึงใช้โอกาสที่ คุณ บุญชู  เริ่มคล้อยตาม  นำเสนอค่าระดับน้ำตาลก่อนและหลังอาหารที่ดีโดยใช้เครื่องเ จาะน้ำตาลปลายนิ้วเป็นตัวแสดงผล   เนื่องจากจะใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี   ดิฉันแสดงขั้นตอนต่างในการเจาะเลือดและทดลองเจาะจริงกับคุณ บุญชู BS =251 mg%   ภรรยาบอกว่าสูงจัง จึงอยากขอทดลองเจาะบ้าง ได้ BS =103 mg% ดิฉันถือโอกาสที่ดีที่มีค่าเปรียบเทียบจากภรรยาทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้น  สอบถามว่าถ้า BS คุณ บุญชู ก่อนทานอาหารสูงขนาดนี้แล้วหลังทานอาหารกลางวันนี้จะเป็นอย่างไร  ลูกชายบอกอย่างเข้าใจมากขึ้นว่าสูงขึ้นอีกแน่นอน  แล้วควรจะทำอย่างไรดี ส่วนภรรยาบอกให้คุณ บุญชู ซื้อเครื่องเจาะน้ำตาลไปด้วย ทำให้ดิฉันรู้สึกดีใจที่คุณ บุญชู มีคนช่วยดูแลมากขึ้นและยังทำให้ดิฉันรู้สึกประสบความสำเร็จขั้นหนึ่งที่จะทำให้คุณ บุญชู รับข้อมูลอาหารเบื้องต้นเพื่อนำไปปฏิบัติก่อน แต่อย่างไรการติดตามอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญนะคะ  ที่จะสามารถบอกได้ว่ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น

 ยุวดี     มหาชัยราชัน

หมายเลขบันทึก: 5493เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2005 17:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 17:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
การรักษาโรคเบาหวานแบบหายขาดโดยสมุนไพรไทย หายขาดจริงๆครับ โดยความบังเอิญที่คุณพ่อผมได้เดินทางมาหาที่บ้านที่จังหวัดขอนแก่นแล้วมาเจอกับ คุณ ยายผมที่ป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปี โดยการรักษาตลอด 12ปีที่ผ่านมาต้องไปรับยาทุกอาทิตย์ ตื่นตั้งแต่ตี 5เพื่อไปโรงบาล แกบอกว่าทรมานมากใครไม่เป็นไม่รู้หรอก เพื่อนๆแกได้ตัดนิ้ว-แขน-ขา บางคนตาบอด และตายไปก็หลายสิบคนแล้ว พ่อบอกกับแม่ว่าแกมีสูตรสมุนไพรโบราณสมัยคุณปู่ผมที่อยู่ที่มาเลย์เซียก่อนเดินทางมาไทยและนำมาผสมกับสมุนไพรของคุณตาผมที่นำมาจากไร่ที่ จังหวัดเลยผสมชงทานกัน ตอนแรกแกไม่ยอมทาน กลัวสารพัดผ่านไปหลายวันเข้าพ่อผมแกก็ชงทานทุกวันให้แกดูเป็นตัวอย่าง แกเลยยอมหลังจากทานไปสัก 3-4วันแกบอกว่าจะปัสสาวะบ่อยมากและจะมีอาการร้อนวูบวาบ และอาการชาปลายนิ้วตอนเช้าได้หายไปและหลังจากทานไปได้ 7วันแกอยากทานนั่นทานนี่(ปรกติไม่ยอมทานอะไร) ผิวพรรณจากแห้งๆเริ่มมีน้ำมีนวล และขาเริ่มมีกำลังสามารถลุกขึ้นเดินได้ จนแม่ได้พาไปตรวจที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ผลออกมาว่าน้ำตาลในเลือดจากเดิม 230 ลดลงเหลือเพียง 115เท่านั้น เอง จนหมอเองก็ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แกทานมาได้สักประมาณ 1เดือนแล้วกลับไปวัดน้ำตาลอีกก็ได้รับผลว่าปรกติดี จวบจนถึงปัจจุบันนี้คุณหมอ ได้ทำการแจ้งว่าไม่ต้องมาตรวจแล้วครับ หายจากการเป็นเบาหวานแล้ว ก็ทำให้ทุกคนในบ้านประหลาดใจมากครับผมคนนึงที่ไม่เชื่อครับ ก็เลยเอามให้น้องๆที่ทำงานที่ร้อยเอ็ดนำไปให้คนที่บ้านทาน ผลก็เป็นเช่นเดิมกับยายผมทานไปน่าจะประมาณ 83คน มีที่ไม่หาย 3คน ซึ่งจากการสอบถามแล้วได้ความว่าทานไปเพียง 1-3วันแล้วไม่กล้าทานต่อครับส่วนท่านอื่นๆปัจจุบันหายขาดแล้วเพราะไม่ได้นำไปทานอีกเลยผมจึงบอกคนที่หายว่าถ้าทานแล้วหายให้ระลึกถึงคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ได้คิดค้นสูตรโบราณนี้ไว้ให้แก่คนรุ่นนี้ครับ  อัศจรรย์จริงๆครับ รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 123/456 .เพรสซิเดนท์ ต.แดงใหญ่ .เมือง จ.ขอนแก่น 40000หรือโทร 083-3459197 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท