ทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในระดับมหาวิทยาลัย
ในสภาวะของการเรียนในระดับมหาวิทยาลัยของนักศึกษายุคปัจจุบัน นักศึกษาจำเป็นต้องมีคุณลักษณะของการใฝ่เรียนรู้ พึ่งพาตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเรียน มีความจำเป็นที่จะต้องมีทักษะสำหรับการเรียนเพื่อช่วยให้ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างน้อย 5 ทักษะด้วยกัน ได้แก่ การอ่านที่มีประสิทธิภาพ การบันทึกการอ่านงานวิจัย การจดบันทึกคำบรรยาย การศึกษาด้วยตนเอง และ การบริหารเวลา การศึกษารายละเอียดของทักษะสำหรับการเรียนรู้ จะช่วยให้นักศึกษาได้ข้อคิดสำหรับการเรียนที่ดีขึ้น สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนของนักศึกษาซึ่งมีรูปแบบของการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
การอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การอ่านบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ ทำให้การอ่านมีความหมายมากขึ้น การอ่านที่มีประสิทธิภาพนั้นแตกต่างจากการอ่านทั่วไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้อ่านว่าต้องการแบบใด เช่น การอ่านแบบเร็ว ๆ เลือกจับสาระสำคัญ ๆ การอ่านช้า ๆ เพื่อความเข้าใจหรือหาข้อเท็จจริง การอ่านเพื่อความซาบซึ้งหรือให้ได้อรรถรสของเนื้อหาที่อ่าน หรือการอ่านเพื่อจับใจความสำคัญว่าใคร ทำอะไร อะไรเกิดขึ้นและจบลงอย่างไร การอ่านเรื่องใหม่ การอ่านที่ได้รับมอบหมาย การอ่านในสิ่งที่รู้สึกว่ายาก หรือการอ่านเพื่อทบทวน สิ่งที่ควรทำ คือ ต้องกำหนดจุดมุ่งหมายของการอ่านให้ชัดเจน แล้วจึงทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ว่าใครเป็นผู้แต่ง ชื่อเรื่อง แหล่งพิมพ์ ปีที่พิมพ์ จับสาระสำคัญจากบทนำว่าเนื้อหาสาระสำคัญว่ามีอะไรบ้าง สิ่งสำคัญสำหรับการอ่านให้มีประสิทธิภาพ คือ การมีสมาธิในการอ่าน การจดบันทึกจากการอ่าน สรุปสาระสำคัญจากการอ่าน และการแสดงความคิดเห็น วิพากษ์ วิจารณ์ เรื่องที่อ่านได้อย่างเหมาะสม
การบันทึกการอ่านงานวิจัย เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เข้าถึงสาระสำคัญของงานวิจัย ก่อนลงมือบันทึกการอ่านจากงานวิจัย จะต้องตั้งเป้าหมายในการอ่านโดยตั้งคำถามให้ได้ว่า“ทำไมจึงต้องอ่าน” “สิ่งที่ต้องการค้นหาคืออะไร” “ทำอย่างไรจึงจะได้ข้อมูลที่ต้องการ” และ “เนื้อหาที่ได้จากการอ่านคืออะไร” เพราะการตั้งคำถามในการอ่านจะเป็นการนำทางให้เราอ่านและบันทึกข้อมูลอย่างมีเป้าหมาย สิ่งที่ควรปฏิบัติในการบันทึกการอ่าน คือ การวางแผนสำหรับการบันทึกการอ่านงานวิจัย ควรเตรียมกระดาษสำหรับการบันทึก ควรบันทึกบรรณานุกรมสำหรับการอ้างอิง ชื่อเรื่อง เลขหน้า อย่างละเอียดเพราะต้องนำมาใช้ในภายหลัง ทำเครื่องหมายต่าง ๆ ให้ถูกต้อง แม่นยำ จัดระเบียบพื้นที่สำหรับการบันทึก และแสดงความคิดเห็น จัดระบบการจัดเก็บตามลำดับตัวอักษร จัดแฟ้มข้อมูลตามชื่อและหัวเรื่อง สิ่งสำคัญที่สุดของการบันทึกการอ่านงานวิจัย คือ การได้ลงมือปฏิบัติจดบันทึกการอ่านด้วยตนเอง มีการตรวจสอบทบทวน และได้สรุปประเด็นสำคัญจากคำถามที่กำหนดไว
การจดบันทึกคำบรรยาย เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้การฟังบรรยายมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนฟังบรรยายด้วยการอ่านเรื่องที่จะฟัง การตั้งประเด็นคำถามและกำหนดวัตถุประสงค์ของการจดบันทึกจากการบรรยายจะมีความแตกต่างกัน หากการบรรยายนั้นจะต้องใช้สำหรับการสอบและเป็นเรื่องที่ยาก การบันทึกต้องมีความละเอียด หากเป็นเรื่องง่ายๆหรือมีตำราให้หาอ่านได้ ควรบันทึกเฉพาะประเด็นที่สำคัญ ๆ การฟังอย่างมีสมาธิและการใช้ทักษะการคิดจะช่วยให้การจดบันทึกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เทคนิคของการบันทึกคำบรรยาย คือ การเตรียมการวางแผนการจดบันทึก สิ่งที่ควรจดบันทึก ได้แก่ หัวข้อ วิชา ผู้บรรยาย วัน เดือน ปีที่บรรยาย ซึ่งควรเขียนไว้ทุกหน้า ควรใช้กระดาษหน้าเดียว เว้นพื้นที่ไว้สำหรับการบันทึกข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมจากการศึกษาด้วยตนเอง ดังนั้น การจดบันทึกการบรรยายจึงไม่ควรจดทุกคำพูด อาจจะใช้สัญลักษณ์ ตัวย่อ หรือลูกศรเชื่อมโยงความสัมพันธ์ และควรมีการสรุปสาระสำคัญที่เป็นแนวคิดสำคัญและหลักการทฤษฎี
การศึกษาด้วยตนเอง เป็นการบริหารจัดการโปรแกรมการศึกษาและการจัดการกับตารางเวลาที่ผู้เรียนสามารถกำหนดได้ด้วยตัวของตัวเอง ผู้เรียนแต่ละคนสามารถวางแผนกลยุทธ์ในการจัดการตารางเวลาของตนเองแตกต่างกันไป บางคนอาจจะใช้เวลาในการศึกษาวิจัยในห้องสมุด การพูดคุยกับคนอื่นในเรื่องที่เกี่ยวข้อง การทำกิจกรรมนันทนาการ การท่องเที่ยว การทำงาน รวมถึงการพักผ่อนและการเข้าสังคม ตารางเวลาช่วยให้คุณจัดการกับภารกิจที่มากมาย ระบบการจัดเก็บงานเอกสาร การทำงานรวมกลุ่มกับเพื่อน การทำงานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตซึ่งช่วยให้สามารถทำงานได้สะดวกในการทำงาเป็นทีมโดยไม่จำเป็นต้องอยู่รวมกันและสามารถทำงานได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือสามารถส่งงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และสามารถทำงานได้ไปพร้อม ๆ กันในขณะทำงานได้ด้วย สิ่งสำคัญของการศึกษาด้วยตนเอง คือ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา เป็นคุณธรรมสำคัญที่จะทำให้การศึกษาด้วยตนเองประสบความสำเร็จได้
การบริหารเวลา เป็นทักษะจำเป็นสำหรับการเรียนและช่วยให้นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยสำเร็จการศึกษาได้ตามกำหนด การบริหารเวลาของแต่ละคนจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพการดำเนินชีวิตของแต่ละคน สิ่งที่สำคัญของการบริหารเวลา คือ การกำหนดเป้าหมายของกิจกรรมให้ชัดเจน โดยการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องกระทำ การวางแผนตารางเวลา สำหรับกิจกรรมการเรียน นันทนาการ ทำงานบ้าน เป็นการจัดตารางเพื่อให้เราสามารถตรวจสอบการแบ่งเวลาเพื่อรักษาสมดุลระหว่างกิจกรรมเพื่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่มีภาระหน้าที่อื่นๆที่นอกเหนือจากการเรียน ซึ่งจะต้องมีความมุ่งมั่นให้เวลาสำหรับการเรียน การหาเวลาว่างสำหรับตนเอง การเข้าร่วมกลุ่มกับเพื่อน รวมถึงการการใช้เวลาในการทำงาน การส่งงานให้ทันตามกำหนด การบริหารเวลาจึงไม่มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐานที่แน่นอนว่ารูปแบบใดที่จะเหมาะสมกับใครขึ้นอยู่กับรูปแบบการเรียนรู้ของแต่ละคน
ทักษะการเรียนรู้ในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งทางด้านการอ่านงานวิจัย การอ่านอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกบรรยาย การศึกษาด้วยตนเองและการบริหารเวลา นอกจากจะมีความจำเป็นต้องฝึกฝนให้เกิดขึ้นเพื่อการให้บรรลุตามเป้าหมายของการจบการศึกษาแล้ว ยังเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ผู้เรียนต้องเป็น นักคิด ใฝ่เรียนรู้ มีทักษะการทำงาน ทักษะการแก้ปัญหา และทักษะการใช้เทคโนโลยี เพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของระบบการเรียนรู้ในโลกยุคใหม่ต่อไป.
................................................................................
ความเห็น (3)
- อ่านอย่างมีประสิทธิภาพ
- บันทึกการอ่านงานวิจัย
- จดบันทึกคำบรรยาย
-การศึกษาด้วยตนเอง
- การบริหารเวลา
ขอบคุณ "ความรู้ ดีดี" นำมาเผื่อแผ่ กันนะคะ
ละอองทิพย์
ขอบคุณค่ะ
ชอบครับ
มอบดอกไม้และกดติดตามแล้วครับ
