" แนวคิดเก็บภาษีคนโสด?" !!!!!???????
เล่นเอาสะดุ้ง นอนไม่หลับกันเลยทีเดียว จนต้องลุกขึ้นมาแกว่งปาก เอ้ยเขียน...ความสมเหตุสมผลมันอยู่ตรงไหน เอามาจากงานวิจัยใดคะ ..นั่งวิเคราะห์ในห้องพักอาจารย์ รึหอคอยงาช้าง?
นักวิชาการหนุนรัฐเก็บภาษีคนโสด หวังจะลดภาระงบประมาณการใช้สวัสดิการ และแก้ปัญหาการคาดแคลนแรงงานในประเทศได้อนาคต หลังพบว่าปัจจุบันอัตราการเจริญพันธุ์ของไทยนั้นต่ำมาก เพียง 1.6 ต่อครอบครัว หรือ 1 กว่าเท่านั้น
"สมัยทำงานที่เดิม เป็นคนวิเคราะห์ภาวะแรงงาน ในขอนแก่น และกลุ่มจังหวัด เองกับมือ ซึ่งตรงกันกับ ผลการวิเคราะห์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ไปบรรยายด้วยกัน ให้กับนักศึกษาจบใหม่ ซึ่งตรงนี้อย่ามาวิชาการจ๋านะ ต้องดูผลการรายงาน ภาวะแรงงาน ของกระทรวงแรงงาน ที่รายงานกันเข้าไปทุกจังหวัด มันมีระบบบันทึกชัดเจน ว่าออกจากงาน ตกงานเพราะอะไร ปัญหาคืออะไร แม้กระทั่งบริษัทรับเท่าไหร่ ความต้องการเท่าไหร่ และแรงงานตามสภาพจริงของเรามีเท่าไหร่ ...
ความจริงแรงงานเราล้น มากกว่าขาด โดยเฉพาะแรงงานพื้นฐาน แรงงานไร้ฝีมือ ไปจนถึงพนักงานโรงงานทั่วไป กลุ่มนี้ไม่ได้ขาด มีมากกว่าความต้องการด้วยซ้ำ และกลุ่มโรงงานเองต้องการอย่างมากเช่นกัน ทุกจังหวัด แต่ไม่มีคนไปสมัครทำงาน ..จึงหาคนไม่เคยได้ ไม่เคยพอกับอัตราที่รองรับ นายจ้าง โรงงานบ่น..:: เหตุผลนั่นเพราะ นิสัยคนไทยเอง ไม่อดทน ไม่ขยัน แต่อยากได้งานที่เงินดี อยากได้งานสบายแต่เงินดี หาได้คิดว่า นั่นคืองานอะไร ระดับใด โครงสร้างเขาจ่ายได้เท่าใด พูดภาษาบ้านๆเข้าใจนะ คือ ไม่มีการศึกษา ไม่มีฝีมือ แต่ไม่เอางานระดับนี้ หลายคนจึงลาออกมา ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะทำงานอะไร ออกมาอยู่เฉยๆ ตามบ้าน มีความคิดหวังเช่นเดิมๆ คือกลับบ้านที่ชนบท ยังไงก็มีข้าวกิน ไม่ต้องมีเงินก็หากินได้ จึงออกมา หากแต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้น เพราะชาวชนบทมีการขายที่ทางให้นายทุนมากขึ้น ไร้ที่ทำกิน จึงเป็นภาระพึ่งพิงของประเทศสูงขึ้น
ประการต่อมา มันอยู่ที่ระบบการศึกษาไทย และการเลี้ยงดูแบบไทยค่ะ คือ เรียนจบการศึกษาแล้ว ไม่สามารถทำงานได้จริง ไม่ได้มีความรู้ และฝีมือ ตามที่ได้ร่ำเรียนมา ในช่วง 1-3 ปีแรกจะค่อนข้างหางานยาก ไร้ประสบการณ์ ตรงข้ามนายจ้างต้องการคนมีประสบการณ์ แต่มีงานที่เหมาะสม ไม่ต้องใช้ฝีมือมาก เหมาะกับเด็กจบใหม่ แต่เหมือนเดิม เด็กไม่เอา หวังงานดี ตำแหน่งดี งานสบาย และเงินดี ซึ่งเป็นไปได้ยาก ไม่ยอมเริ่มต้น ไม่ยอมฝึกประสบการณ์เลย ...จึงอยู่เป็นภาระพึ่งพึงกับครอบครัวที่สูงมาก
แรงงานที่มีความสามารถ ทำงานได้จริง กลับอยู่ในกลุ่ม ที่มีอายุมากขึ้น คือ 30 ปีขึ้นไป ที่พร้อมจะทำงานจริง เป็นบทความ ในข้อสอบ กพ. ปีล่าสุดนี้ นั่นก็เพราะระบบการศึกษาไทยอีกเช่นกัน ที่มีค่านิยม ที่ใช้เวลาในการศึกษาที่นาน มีระบบแบบเป็นธุรกิจการศึกษา บีบคนต้องหาเงินมาเรียน หยุดงาน ลาออก เปลี่ยนงาน อัพตำแหน่งงาน จึงมีการเปลี่ยนงาน ลาออก พร้อมศึกษาต่อ ในคนกลุ่มนี้..จึงเป็นที่มา ของปัญหาแรงงานแฝง ทั้งหมดนี้..
หากเราวิเคราะห์สภาพจริงของสังคมไทย ระบบการศึกษา วัฒนธรรมการเลี้ยงดูบุตร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรมีแนวคิดเปลี่ยนแปลงมากกว่า จะมาคิดไร้สาระ เก็บภาษีคนโสด และ ส่งเสริมการมีลูก แล้วหากมองสภาพปัญหาทกด้าน " ประเทศไทยนี่น่ะหรือ เหมาะกับการมีประชากรมากขึ้น ในเมื่อ ประชากรส่วนใหญ่ยากจน ค่าครองชีพสูง ไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรได้ มีปัญหาเด็กถูกทอดทิ้งสูง สังคมแออัด รถยนต์ การจราจรแออัด.....ถามย้ำ ว่านี่หรือ เหมาะกับการเพิ่มจำนวนประชากร? "
ปรียาพัชร ตุลาเนตร :: เขียน
ความเห็น (3)
โสด ด้วยคะ ....
นี่แค่แนวคิดนะคะ ..ยังหลอนขนาดนี้เลย…คิดกันไปได้ยังไง..เหตุผลก็นะ
การที่จะเก็บภาษีคนโสด เพราะมองเห็นช่องทางรายได้เข้ารัฐมั้งครับ...ปัจจุบันคนโสดคงจะเยอะนะครับ