เพื่อนรัก...รักนะจึงบอก


เพื่อน "เรามีอะไรจะบอก" เป็นการเล่นเกมส์ใน 10 นาทีสุดท้าย

ก่อนจะหมดคาบเรียน   โดยครูแจกกระดาษ A4

เป็นกระดาษหาร 2 ค่ะ (เพราะโรงเรียนของเราใช้กระดาษคุ้มค่ามาก

เราใช้กระดาษหนึ่งแผ่นถึง 3 หน้า ค่ะ หน้าที่ 3 ใช้โดยนำไปให้นักเรียน

พิการทางสายตา เรียนร่วม ใช้ในการเขียนอักษรเบลค่ะ โอกาสต่อไปจะนำเรื่อง

นักเรียนเรียนร่วมมาเล่าให้ฟังค่ะ)ให้นักเรียนเขียนชื่อตัวเองบนหัวกระดาษ

ด้านที่ยังไม่ได้ใช้ค่ะ ครูบอกวิธีการในการเล่นเกมส์ ดังนี้ค่ะ เมื่อครูบอกว่าเริ่มได้

ให้นักเรียนส่งกระดาษที่มีชื่อนักเรียนให้เพื่อนคนใดก็ได้ แล้วเพื่อนคนที่รับ

กระดาษไป เขียนข้อความที่อยากจะบอกเพื่อนคนที่มีชื่อในกระดาษ

(เป็นสิ่งที่อยากบอกมากที่สุด)เมื่อเขียนเสร็จแล้วให้วงรอบข้อความ

เพื่อไม่ให้นักเรียนเขียนทับข้อความกัน แล้วรีบส่งต่อกันไปเรื่อยๆ

ทุกคนจะได้เขียนข้อความทุกแผ่น โดยใช้เวลาเพียง 7 นาที

เพราะฉะนัันทุกคนจะต้องรีบเขียนและรีบส่งให้เร็วที่สุด เมื่อครูบอกหมดเวลา

ให้นักเรียนนำกระดาษมาวางไว้ที่โต๊ะครู

    

                   บรรยากาศ สนุกสนานที่ได้ประโยชน์ดีๆมากมาย

เมื่อสิ้นสุดการเล่นเกมส์ ครูถามนักเรียนว่า ได้อะไรบ้างจากการเล่นเกมส์

ได้รับคำตอบดังนี้ค่ะ

ได้รับความสนุกสนาน , ได้บอกและเตือนเพื่อนในสิ่งที่ไม่กล้าบอก,

ได้เปิดใจรับคำติ ชม จากเพื่อน , เข้าใจเพื่อนมากขึ้น, ปรับปรุงตัวเอง,

รู้จักยอมรับฟังคนอื่น

ข้อเสนอแนะจากนักเรียน

ขอให้คุณครูพาเล่นเกมส์นี้ เดือนละหนึ่งครั้ง

เพราะว่าบางทีเพื่อนอาจจะเห็นในสิ่งที่เราเองมองไม่เห็น

สำหรับกระดาษข้อความ ครูขอเก็บไปอ่านก่อน ตอนพักเที่ยง

ใครอยากได้คืนให้ไปรับกับครูด้วยตัวเอง...พอถึงเที่ยงวัน

ยืนคอยครูกันถ้วนหน้าครบไม่มีขาดสักคน...คงอยากรู้เต็มแก่ว่าเพื่อน

บอกอะไรตัวเองบ้าง  

หมายเลขบันทึก: 547339เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2013 21:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน 2013 21:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

กิจกรรมนี้น่าสนุกนะครับ

นักเรียนจะได้รู้ว่าเพื่อนๆคิดอย่างไร

ตัวเองคิดอย่างไร

ขอบคุณมากๆครับ

สวัสดีค่ะ คุณขจิต เด็กนักเรียนสนุกมากค่ะ ชั่วโมงถัดมาครูจะเปิดโอกาสให้นักเรียน

ได้ไขข้อข้องใจ(เข้าแถวต่อคิวยาวเลยค่ะ)ในบางกรณีที่เพื่อนเขียนบอก "อย่างเช่นกรณีที่เพื่อนบอกว่า

อย่านอนมากนักตั้งใจเรียนข้อนี้เรายอมรับและจะนำไปปรับปรุง แต่ที่ว่าเราไม่ช่วยงานห้อง นั้นพอจะบอกเราได้ไหมว่าเมื่อไหร่

เราจะได้ปรับปรุงตนเอง"...แต่เขาไม่โกรธกันนะคะ รู้สึกดีมากเลยค่ะที่เด็กยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น

เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาคงเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์นะคะ...อิอิ

คุณครูมาเขียนเรื่องกิจกรรมแบบนี้อีกนะครับ

น่าสนใจมากๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท