พี่ทราย เป็นพี่พนักงาน วางแผนครอบครัว ในงานเวชปฏิบัติครอบครัว ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้
รู้ครั้งแรก เมื่อมีอาการ ถ่ายเหลว มีอาการปวดท้องรุนแรง ซี่งไม่สัมพันธ์ กับอาการถ่ายเหลว
ต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลปัตตานี ได้รับการตรวจ CT ในช่องท้อง พบว่า น่าจะเป็น มะเร็งลำไส้
ประวัตืพบว่า พ่ทรายมีอาการท้องผูกบ่อยๆ แต่ ก็ ใช้วิธีทานยาถ่าย และรับประทานผัก ผลๆไม้ ให้มากขึ้น เป็นมา หลายปี
เวลา 1 เดือน กับการรักษาตัว โดยการผ่าตัดลำไส้ และให้ขับถ่ายทางหน้าท้อง
และที่สำคัญ ก็พบว่า มีการกระจาย ไปที่ตับแล้ว พี่ทราย ถุกส่งต่อไปรักษาที่รพ. จุฬาลงกรณ์
เราและเพื่อนได้มีโอกาส พาพี่ทรายไปส่งที่ กทม ด้วยรถตู้ ฯ พี่ทรายยังดูเพลี่ยมาก
เราและเพื่อนเตรียมอุปกรณ์บางส่วนที่จำเป็นสำหรับการเดินทางกับผู้ป่วย
พี่กลอย ได้รับการคีโมบำบัด , ฉายแสง และรับยาอื่นๆ ตาม แนวทางการรักษาของแพทย์ ทั้ง เรื่่องของลำไส้ เรื่องของตับ
และล่าสุด ก็เริ่มมีการกระจายบางส่วนมาที่ปอด ต่อมหมวกไต และ เริิ่มมีก้อนที่ บริเวณ หนังศรีษะ
พี่ทราย บอกว่า ก็ มีปวดหัวบ้าง แต่พี่ก็ สู้นะ ถ้า รักษาได้ ก็รักษาต่อ แต่ถ้าไม่ไหว พี่ก็เข้าใจนะ ว่า ต้องเป็นเช่นไร
เวลา 2 ปี จากวันที่รู้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ระยะที่ 4 กระจายไปที่ตับ ปอด ฯลฯ แต่ พี่ทราย ยังแข็งแรงมาก กำลังใจมากมาย
วันนี้ เรายังนั่งกินข้างเที่ยงด้วยกัน 3 คน อย่างมีความสุข
แล้วเอ๋ จะมี่พี่เป็นเป็นเพื่อนกินข้าว อีก 1ปี เต็มๆ นะคะ ก่อนที่พี่ทรายจะเกษียณ จาก ที่นี้ไป
บางที่ถ้าเรารู้ว่า ความสุขของชีวิตมันอยู่ที่มือของเรา อย่าไปทุรนทุราย ค้นหา ความสุข ที่ ใครหลายคนคิดว่า มัน อยู่ที่อื่นได
ความสุข มันอยู่รอบตัวของเรา หากแค่คิดว่าจะไม่ทุกข์ ก็จะเป็นสุขแล้ว
พระอาจารย์เคยบอกไว้ ให้ระลึกถึงความตายบ่อยๆ (เช้า-กลางวัน-เย็น)
ยังทำไม่ได้ค่ะ แต่ก็พยายามอยู่
บ้างก็บอกว่า เราต้องคิดถึง ความตายทุกลมหายใจเข้าออกเลยคะ
พระอาจารย์ไพศลามาที่มหาวิทยาลัยบ่อยมาก
มาจัดกิจกรรมเรื่องการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายครับ