แม่คนพิเศษ

"แม่" ทุกคนที่เหนื่อย แต่ "แม่คนพิเศษ" เหนื่อยมากกว่าหลายเท่าทวี และยังไม่รู้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

ผู้หญิงทุกคนที่เกิดมาคงมีวันสำคัญที่สุดในชีวิตที่รอคอยไม่กี่วัน หนึ่งในวันนั้นก็คือวันที่ได้เป็น "แม่" เพราะการเป็นแม่นั้นสำคัญและยิ่งใหญ่เสมอในความรู้สึกของผู้หญิงทุกคน และเมื่อได้เป็นแม่แล้วย่อมอยากทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดสำหรับลูกทุกคน ไม่ว่าลุกของตนจะเก่ง หรือไม่เก่ง หรือลูก จะเป็นเด็กพิเศษ ก็ตาม

ความรู้สึกแรกของแม่เมื่อรู้ว่าลูกของตนเองเด็กพิเศษนั้นเรียกได้ว่าทุกอย่างบนโลกนี้แทบจะสิ้นสลายหายไป และเกิดคำถามต่างๆ   ขึ้นมากมายหลายคำถาม ซึ่งหลายคำถามนั้นอาจจะไม่มีคำตอบ แม่บางคนอยากรู้ว่า "แม่อย่างฉันจะทำอย่างไรกับลูกดี" "ลูกจะอยู่ต่อไปในโลกนี้ได้อย่างไร" และ "ฉันจะเป็นแม่ที่ดีของลูกคนพิเศษนี้ได้ย่างไร"  หากแต่เมื่อแม่ตั้้งสติและปรับตัวได้เร็ว แม่จะรู้ว่าตนเองต้องทำอย่างไร ทั้งการไปพบแพทย์ นักกิจกรรมบำบัด และ/หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ที่ให้การรักษา บำบัดฟื้นฟู เด็กพิเศษกลุ่มต่างๆ   และให้การช่วยเหลือฝึกลูกของตนเอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งแม่เป็นคนสำคัญเสมอในการช่วยให้เด็กพิเศษสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยสิ่งต่างๆ ที่แม่มอบให้ลูกย่อมมากว่าและพิเศษกว่าบุคคลอื่นเสมอ

ก. ความรัก ความห่วงใย การรักด้วยการกอด หอม และสร้างพลังใจพลังชีวิต ให้ลุกคนพิเศษนั้น สามารถทำให้เด็กเหล่านั้นสามารถพัฒนาความไว้วางใจต่อโลก ต่อบุคคลอื่น สามารถที่จะเตรียมพร้อมสู่กาเรียนรู้ที่เพิ่มมากขึ้น และกล้าออกไปสู่โลกกว้า

ข. การเลี้ยงดู การเลี้ยงดูให้อาหาร โภชนาการที่สำคัญ ทั้งที่เด็กชอบและทั้งที่แม่คิดว่าเด็กควรทาน เพราะการรับประทานอาหารได้ทุกอย่างนั้น ย่อมทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และทำให้เด็กปรับตัวได้ง่าย เด็กบางคนทานเพียงไข่เจียว เมื่อเด็กไปโรงเรียน คุณครูควไม่ได้ทำไข่เจียวให้เด็กทานทุกวัน....จริงไหมค่ะ เรื่องอาหารที่ว่าเล็กมักเป็นเรื่องใหญ่ระหว่างแม่ลูกเสมอ แต่แม่คนพิเศษจะต้องใช้พลังหรือบางครั้งเรียกว่า พลังภายใน ในการฝึกและส่งเสริมให้ลูกคนพิเศษสามารถปรับตัวจากอาหารที่ไม่ชอบ เริ่มชอบทีละนิด ทดลองกินได้ ทานได้ แต่อาจเลือกไม่ทานก็ได้ หากแต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นเด็กก็สามารถที่จะปรับตัวและทานอาหารได้เหมือนเพื่อน

ค. การสอนอย่างเข้าใจ โชคดีหรือโชคร้ายของเด็กสมัยนี้ก็ไม่แน่ใจ เพราะแแปลกแต่จริง!! พ่อแม่มักมีความสับสนว่าลูกเป็นแบบนั้น แบบนี้ จำเป็นต้องสอนเขาไหม การสอนจะไปปิดกั้นจินตนาการ/การเรียนรู้ของเขาหรือไม่ บอกได้เลยค่ะ ว่าอีกหนึ่งการเรียนของเด็กรู้คือ  การเรียนรู้จากการสอนและการเลียนแบบ ดังนั้น คุณแม่คนพิเศษจึงจำเป็นต้องสอนลูกน้อยคนพิเศษของตนเอง บางครั้งอาจจะต้องสอนมากกว่าแม่ทั่วๆ ไปอีกด้วย  นอกจากสอนแล้ว ก็ต้องเป็นตัวแบบที่ดีด้วย ไม่อยากให้ลุกเป็นแบบใด คุณแม่ต้องไม่ทำอย่างนั้น เช่น ไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โมโห คุณแม่ต้องเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่อยากให้ลูกก้าวร้าว คุณแม่จะต้องไม่พูดหยาบคาย หรือใช้การตีเป็นการลงโทษลูกของตน หากหนูน้อยเด็กพิเศษทำผิด กลับไปข้อ ก. และ กลับมาข้อ ค. อีกครั้ง คุณแม่ยึดหลักการให้ความรักและสอนอย่างเข้าใจเสมอ

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แม่คนพิเศษจะต้องทำ ยังอีกอีกหลายสิ่ง หลายอย่าง มากมาย มากกว่า เป็นหลายๆ เท่ากว่าแม่คนอื่นๆ "แม่" ทุกคนที่เหนื่อย บอกได้เลยว่า "แม่คนพิเศษ" เหนื่อยมากกว่าหลายเท่าทวี แถบยังไม่รู้เลยว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร บางคนคาดหวังถึงอนาคต บางคนกลัวว่าลูกจะอยู่ต่อไปไม่ได้ หากแต่ความคาดหวังที่มากเกินไป อาจจะไม่สอดคล้องกับความจริง จึงขอนำหลักคำสอนทางพุทธศาสนาที่กล่าวว่า "สุขแท้จริง คือการอยู่กับปัจจุบัน" มาฝากคุณแม่ทุกคน ว่าจะทำอย่างไรให้ตนเองอยู่กับลูกน้อยอย่างมีความสุข ที่สำคัญดูแลลูกแล้ว อย่าลืม!! ดูแลคุณพ่อของลูกด้วยนะค่ะ

 

ขอเป็นกำลังใจให้ คุณแม่คนพิเศษ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ เชิญชวนให้ท่านพาลูกน้อยคนพิเศษและคนสำคัญของครอบครัวไปเยี่ยมคุณยาย คุณย่า ไปรับประทานอาหารกับครอบครัว และถามตนเองว่า ในทุกๆ วัน "คุณแม่มีความสุข" แล้วหรือยัง

นำ เพลงความรัก http://www.youtube.com/watch?feature=player_detailpage&v=mMDA9s95In4&t=18

มาฝากคุณแม่ นอกจากความรักแบบชายหญิง ความรักจากแม่สู่ลูกก็เป็นรักเดียวที่บริสุทธ์ และปราศจากเงื่อนไข

ความเอ๋ยความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน

เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ หรือเริ่มในสมองตรองจงดี

แรกจะเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ถ้วนถี่

ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงระตี ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย ...