ขอวิเคราะห์การเมืองสงขลาในวันนี้อย่างเป็นกลาง
หลังการปราศรัยใหญ่ของทั้งสองฝ่ายคือเบอร์ ๑ และเบอร์ ๒ผ่านไปเมื่อคืน
ต้นเดือนมิถุนายน เบอร์ ๑ คืออุทิศ ชูช่วยออกตัวได้แรงและเร็วกว่า
ทำป้ายหาเสียงออกมาได้เยี่ยมมาก คงมีการสำรวจความต้องการของประชาชนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ยังไม่นับการมี สจ.จำนวนมากอยู่ในทีม
ในขณะที่ป้ายเบอร์ ๒ คือนิพนธ์ บุญญามณียังคงออกมาแบบกว้างๆ จึงเป็นรอง
แต่ในเดือนต่อมาป้ายและโครงการก็สูสีกัน
ปลายเดือนกรกฎาคมเบอร์ ๒ ได้เปรียบตรงที่มีคนระดับอภิสิทธิ์ นายชวน และคุณอี้มาช่วยหาเสียง
แค่ป้ายที่เป็นลายมือของนายชวนก็จูงใจให้กลุ่มที่มีอายุมากเทใจให้เบอร์ ๒
แม้ตอนนี้ ก็ยากที่จะตัดสินว่าเบอร์ไหนจะชนะ
จุดอ่อนของเบอร์ ๑ มี ๒ คือ
๑.มีแนวคิดที่ผูกติดกับทุนนิยมประเภทใครมีเงินมากย่อมจะประสบชัยชนะ
๒.ต้องอธิบายให้ชัดว่า โครงการที่ขึ้นป้ายไว้นั้น น่าสนใจมาก แต่ ๔ ปีที่ท่านทำมาในสมัยก่อนหน้านี้ ทำไมไม่ทำโครงการอย่างรถละหมาดเคลื่อนที่เป็นต้น หรือทำแล้วมีอุปสรรคอย่างไร ให้ชี้แจงด่วน การเป็นนายกเก่า จึงเสียเปรียบคนใหม่ที่ประเด็นนี้
จุดแข็งคือ เบอร์ ๑ คือ เตรียมบุคคล เตรียมงบไว้ได้ค่อนข้างเยอะ
โดยมีคำขวัญว่า คนทำงาน และ ผมมีแต่พี่น้องประชาชน
ก็เท่ากับเสียดสีเบอร์ ๒ ว่าไม่ใช่คนทำงาน นอกจากมีประชาชนแล้วยังมีพรรคประชาธิปัตย์ด้วย
เบอร์ ๒ มีจุดแข็งคือ เน้นสงขลาเข้มแข็ง ประเทศไทยเข้มแข็ง และได้แรงเชียร์จากทุกฝ่ายในพรรคประชาธิปัตย์
วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ นี้
เรามาดูกันว่า
ระหว่างเด็กในคาถาประชาธิปัตย์
กับเด็กในคาถาของทุนนิยม ที่นิยมสร้างโปรเจ็คใหญ่เช่นกระเช้าไฟฟ้า
ใครจะชนะใจชาวสงขลา
ขอชมคนจัดทำป้ายของทั้งสองเบอร์ว่า วางแผนงานได้เยี่ยมครับ
ณัฏฐวัฒน์ สุดประเสริฐ รายงาน
ไม่มีความเห็น