มีเรื่องตลกบ้างไหมเพ่...ผมเครียด


  

   ทุกเช้าวันศุกร์จะมีการประชุม นำเรื่องงานที่ผ่านมา 4 วัน มาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางแก้ไขร่วมกัน รวมทั้งอัพเดตข่าวใหม่ๆให้ทีมงานรับทราบ

   โดยเฉพาะเรื่องระเบียบวินัย ที่ผุ้เขียนนำมาพูดคุยบ่อย แทบจะทุกครั้งที่มีการประชุม จนรู้สึกเหมือนน้องๆเพื่อนๆหลายคน จะมีอาการเบื่อหน่าย และเครียด

   หลังแจ้งเรื่องมาตรการการลงโทษทางวินัยแล้ว จึงถามทีมงานว่า มีใครจะเสนอความคิดเห็นอะไรไหม เหมือนทุกๆครั้ง และทุกๆครั้งก็จะมีแต่ความเงียบ

   มีครั้งล่าสุด มีเสียงกระซิบๆกันเบา แต่ผู้เขียนได้ยินจึงถามออกไปว่า มให้พูดดังๆจะได้ยินกันทุกคน น้องผู้ชายคนหนึ่งพูดอายๆ ทีเล่นทีจริงว่า

   มีเรื่องตลกบ้างไหมเพ่...ผมเครียด

   อืม...เป็นคำถามที่ทำให้ผู้เขียนนิ่ง อึ้งไปสักพัก พร้อมกับยิ้ม ดีใจที่นานๆมีคนเสนอความคิดเห็น ผู้เขียนบอกไม่ได้เตรียมมา และบอกว่าคราวหน้าจะหาเรื่องเบาสมองมาเล่าให้พวกเราฟังบ้าง

..............

   ระหว่างนั้นหัวหน้าอีกท่านหนึ่งก็เดินมาร่วมประชุม และบอกว่า จะเล่าเรื่องตลกให้ฟัง

   เขาถามทุกคนว่า..."มีใครอยากเป็นหัวหน้าบ้างไหม...

   ถ้ามีใครอยากเป็นให้เก็บขยะ เหมือนผม  ที่ได้เป็นหัวหน้าเพราะเก็บขยะมาตลอดการทำงานที่ผ่านมา "

  เขาบอกว่า..จะรอแม่บ้านอย่างเดียวไม่พอหรอก เศษเล็กเศษน้อยที่หลุดล่วงระหว่างทำงาน หากรอแม่บ้านคงเกลื่อนเต็มที่ทำงาน...โดยเฉพาะขยะที่เกิดจากเราทิ้งกันเอง "

  เขาเล่าว่า ...วันก่อนด้วยความเคยชิน เจอขยะก็เดินเก็บไปเรื่อย เจอกระดาาทิชชู และเป็นทิชชูเปียกๆ พอหยิบขึ้นมาถึงรู้จะทิ้งก็ติดมือแล้ว จึงต้องเดินไปทิ้งที่ถังขยะ..

  เขาเล่ามาถึงตรงนี้ ก็มีคนหัวเราะคิกๆ

   ...นี่ไม่ใช่เรื่องตลก  แต่เป็นเรื่องจริงของคนไทยเรา เรื่องระเบียบวินัยนอกจากจะไม่รักษากันแล้ว ยังคอยจะทำลายกันเข้าไปอีก

   ...หรือว่ามันเป็นวัฒนธรรมของคนไทยเรา หรือว่าเรามีบรรพบุรุษเป็นศรีธนญชัย จึงต้องรู้หลบรู้หลีก ฉลาดแกมโกง หรือว่ากฏมีไว้แหก ใครแหวกได้แล้วภูมิใจ อย่างนั้นหรือ...

   ...นี่แค่เรื่องพักเบรค ยังต้องมีบัตรเบรค เพื่อให้รู้ว่าใครเบรคหนึ่ง เบรคสอง ยังกะเด็กนักเรียนอนุบาล ที่ติดบัตรกลัวจะพลัดหลง หายจากหน้างาน

  ...ถ้าคนเกาหลี ญี่ปุ่นมารุ้เรื่องบัตรเบรคนี่ เขาคงหัวเราะในสำนึกเรื่องวินัยของเราน่าดู...

............

   เพื่อนหัวหน้าผู้อาวุโสร่ายเรื่องวินัย ยาวเหยียด ทีมงานจากมีเสียงหัวเราะในตอนแรกๆ เริ่มมีเสียงถอนหายใจ หน้าตาเครียดเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก

   อืม...เรื่องวินัยกับคนไทย เป็นเรื่องใหญ่และเล่าไม่มีวันจบจริงหรือ...

ผู้เขียนถอนใจบ้าง...

...................

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านและขอให้มีความสุขสงบ

ในค่ำคืนที่ยังอยู่ในกรงงาน

1 สิงหาคม 2556

พ.แจ่มจำรัส

หมายเลขบันทึก: 544364เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2013 19:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม 2013 19:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ปล่อยวาง...มองทุกอย่างเป็นเรื่องตลกละกันนะคุณพิชัย ... เอ้า..!   ยิ้มมมมม...

ถ้าคุณพิชัยได้มาเห็นการทำงานที่บริษัทของครอบครัวแฟนพี่คงรับไม่ได้อย่างแน่นอน...5 ส. เห็นแล้วก็คงจะต้องร้องไห้กลับญี่ปุ่นแทบไม่ทัน...ประสบการณ์และตำราบริหารงานที่เรียนมาต้องโยนทิ้งหมด...แต่ก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย...หากมีโอกาสที่เหมาะสมจะนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะคะ...ขอบคุณค่ะ

ถ้าวันนี้ยังขำไม่ออก ก็จงยิ้มให้ออกมาจากใจ เพราะถ้าทุกวันเรายิ้มได้  เราก็จะไม่ห่างหายจากความสุข นะครับ ส่งกำลังใจครับ

ขอบคุณครับ
เหนื่อยครับเรือง 5 ส จะตรวจที ก็รณรงค์ที
ดร. พจนา แย้มนัยนา

-สวัสดีครับท่าน พ.

-มาช่วยผมเก็บ"บะมั่น"คลายเครียดดีกว่าครับ

-ยิ้มๆ  ๆ

เพชรน้ำหนึ่ง

ขอบคุณครับ..หมากสีดาน้อย สุกแล้วหอมมาก..

อ่านถึงตอนนี้    "... มีเรื่องตลกบ้างไหมเพ่...ผมเครียด..."  เผลอหัวเราะ  แฟนพี่ถาม ขำอะไร  พี่บอก ขำบันทึกคุณพิชัย

เล่าให้ฟังนิด  วันก่อนคุยกับน้องผู้แทนยาคนหนึ่งเล่าว่า  เพื่อนเขาขอไปฝึกงานบริษัทที่ญี่ปุ่น ๖ เดือน (ไปเที่ยวแล้วชอบไง) เจ้านายให้ไป  แต่แกไปแค่ ๒ เดือนขอกลับ  บอกไม่ไหว เครียด อะไรๆ ต้องเป๊ะๆๆ ไปหมด

ถ้าเราไม่เคยอยู่ในระเบียบวินัย เราก็จะอึดอัด เป็นธรรมดา  พอเราคุ้นชิน และเห็นคุณค่าเราจะอดทนทำจนเป็นนิสัย และไม่อึดอัดอีกต่อไป

เล่าเพื่อให้กำลังใจนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท