[Digital Marketing Project] โครงการทำความดี Online


การทำความดี Online ในลักษณะของผมเนี่ย ใครพอมีความรู้ด้านการสื่อสารออนไลน์ ก็สามารถทำได้นะครับ ผมว่าเข้าท่าพอสมควรเลยทีเดียว

Digital Marketing หรือ การตลาดออนไลน์ ในจุดนี้ไม่ได้หมายถึง การตลาดสำหรับการค้าการลงทุนเพียงอย่างเดียว แต่หน่วยงานรัฐหรือองค์กรภาคประชาชนก็สามารถนำไปใช้ในการสื่อสารได้ และถ้าทำได้ดีก็จะได้ผลดี

ล่าสุดตัวผมทำโครงการนี้ให้กับ ๒ หน่วยงาน คือ
๑. มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน [LPN] - ยังทำอยู่
๒. มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย - เกือบยุติบทบาทแล้ว


ผมเริ่มมีไอเดียเกี่ยวกับ Digital Marketing ครั้งแรกตอนทำงานเป็น จนท.สื่อสารและการจัดการความรู้ ให้กับ The Network NGO & Business Partnership [Thailand] ช่วงนั้นผมเขียนโมเดลเล็กๆ ขึ้นมาโดยที่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Facebook เพราะจังหวะนั้น Facebook เพิ่งเริ่มแพร่หลาย คนส่วนใหญ่ใช้แค่แชร์สถานะ โพสรูป แชท เล่นเกมส์ Farmville ผมใช้โมเดลเล็กๆ นั้นทำงานสื่อสาร และพบว่าผลลัพธ์มันน่าตื่นเต้น


หลังผมลาออกจาก The Network ผมก็เริ่มกิจการเล็กๆ ของผม แล้วก็มีโอกาสใปเสนอโมเดลนี้ให้กับ ๒ องค์กร นั่นคือ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน [LPN] กับ หน่วยงานหน่วยหนึ่งใน สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ: IHPP (สธ.) ซึ่งทั้งสองหน่วยงานตกลงให้ผมดำเนินงานเป็นเวลา ๑ ปี โดย LPN นั้นผมทำงานในลักษณะอาสาสมัคร ส่วนหน่วยงานใน IHPP ผมคิดราคาถูกมาก คือ เดือนละ ๒,๐๐๐ บาท

ผมกล้ากล่าวว่า ทั้งสองหน่วยงานนี้ เป็นสองหน่วยงานแรกๆ ในเมืองไทยที่มี Facebook FAN Page เป็นของตนเอง ผลลัพธ์เมื่อผ่านไป ๑ ปีครับ

มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน [LPN]
- จำนวนอาสาสมัครเพิ่มขึ้น จากเดิมมีน้อยมาก เพิ่มขึ้นจนแต่ละกิจกรรมต้องปิดรับสมัครก่อนกำหนด ซึ่งประเด็นนี้ส่งผลต่อเนื่องถึงการระดมทุนช่วงน้ำท่วม กทม. ซึ่งผลลัพธ์ก็ดีมากๆ

- ประเด็นแรงงานข้ามชาติเป็นที่สนใจของสื่อกระแสหลักมากขึ้น พื้นที่ข่าวขององค์กรมีมากขึ้น จำนวนนักข่าวที่ลงพื้นที่มีมากขึ้น (กระแส AEC เริ่มมาด้วย)

- มีการพัฒนาเว็บไซน์ใหม่, ระบบ E-Newsletter(ปัจจุบันไม่ได้ใช้แล้ว Facebook & Twitter เร็วกว่า), Facebook, พัฒนาระบบการจัดการความรู้ในองค์กร สามารถทำ Tacit knowledge ออกมาเผยแพร่, พัฒนารูปแบบการสื่อสารในเว็บบอร์ดสาธารณะต่างๆ ที่คิดว่ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่เช่น Pantip OKnation และอื่นๆ, 

ปัจจุบัน ผมเป็นอาสาสมัครที่ LPN มาสามปี มีการพัฒนาการสื่อสารผ่าน Twitter เพิ่ม และหลังจากการสื่อสารภายนอกมีเสถียรภาพพอสมควร ผมกลับเข้ามาพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กร มีการสร้างกลุ่มใน Facebook สำหรับสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ในองค์กร และกลุ่มสำหรับอาสาสมัคร/นิสิตฝึกงาน แยกเป็นรายปี เพื่อการสื่อสารที่ทั่วถึง

ส่วนอีกองค์กรที่ IHPP ปรากฏว่า แผนงานถูกเปลี่ยนรายเดือนโดยที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้ แม้จะพยายามอธิบายแล้ว สุดท้ายเมื่อครบ ๑ ปี ประเมินผลแล้ว ผมให้ตัวเองไม่ผ่าน เลยตัดสินใจไม่ต่อสัญญาที่องค์กรนั้นเสนอ

หลังเหตุการเหล่านี้ผ่านไปครับ ผมมีโอกาสไปเป็นอาจารย์ผู้ช่วยที่มหาวิยาลัยบูรพา สอนในสายสื่อสารธุรกิจ ผมก็นำหลักการ Digital Marketing ไปสอนเพิ่มจากเนื้อหาหลัก และให่นิสิตลองทำโปรเจคทั้งการตลาด online และ offline ผมประเมินส่วนตัวว่า นิสิตสามารถทำได้ดี

หลังจากสอนหนังสือ ผมเข้ามาทำงานที่ โครงการสายใยรักฯ มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ในตำแหน่ง ผู้ประสานงานโครงการสื่อสารสาธารณะ ผมทำงานที่นี่ ๑ ปี ผมใช้ Digital Marketing เป็นกลยุทธที่สอง รองจากการใช้เครือข่ายสื่อของ สสส.ในการทำ Communication Air war ซึ่งปรากฏว่า การใช้ Digital Marketing ที่มีลักษณะ Two Way Communication สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้รับสารได้ดีกว่ามาก และกลยุทธต่อมาคือ ออกแบบสารให้ผุ้รับสารอยากกระจายต่อด้วยตนเองผ่าน Facebook และปากต่อปาก ซึ่งส่งผลให้

- โครงการสายใยรัก นมแม่ Cafe จากเดิมที่คนสมัครเข้าร่วมน้อยมาก กลายมาเป็นคนสมัครจนต้องปิดรับภายในสองวัน เนื่องจากเต็มความจุ เก้าอี้เสริม

- มีการพัฒนาเว็บไซน์, YouTube Channel, facebook Fan Page ที่มีคนเข้ามาปฏิสัมพันธ์มากกว่าสัปดาห์ละ 100,000 account, การเข้าไปสื่อสารใน Web Pantip จะเป็นกระทู้แนะนำติดต่อกันหลายสัปดาห์

- รวมถึงกิจกรรม offline ต่างๆ ที่มูลนิธิขับเคลื่อนเช่น กฏหมายให้สิทธฺข้าราชการชายลาไปช่วยภรรยาเลี้ยงดูบุตร 15 วัน โดยได้รับเงินเดือนเต็ม (พ่อลาคลอด), สัปดาห์นมแม่โลกปีที่ผ่านมา ใครทำให้เด็กไทยไม่ได้กินนมแม่ และอื่นๆ ก็ต่างได้รับการตอบรับจากทั้งสื่อ online และสื่อกระแสหลักเป็นอย่างดี

ซึ่งก่อนผมลาออก ผมกำลังพัฒนาโครงการการสื่อสารทางวิทยุ โดยตั้งใจจะเริ่มต้นที่ลำปางและสามารถโหลดไปฟังบนคอมพิวเตอร์และ Smart phone ได้ (แต่ลาออกก่อน) โดยหลังจากลาออก ผมยังทำงานเป็นอาสาสมัครของมูลนิธินี้ต่ออีกครึ่งปี จนปัจจุบันก็แทบยุติบทบาท 


ทั้งหมดนี้ก็เป็นความดี Online ที่ผมทำ หลายๆ องค์กรที่กำลังคิดออกแบบแนวทางการสื่อสาร ลองใช้แนวทางนี้ดู ผมคิดว่าบันทึกนี้น่าจะทำให้ใครได้ไอเดียบ้างนะครับ

หมายเลขบันทึก: 544270เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2013 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม 2013 23:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอชื่นชมคนเก่งบนโลกออนไลน์นะคะ...ขอบคุณมากค่ะ

ชื่นชมมากครับ...และติดตามอยู่เสมอนะครับ...มีความสุขมากๆ นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท