ชีวิตที่พอเพียง: 1960a. หนังสือสิเนหามนตาแห่งลานนา
มีคนเอ่ยถึงหนังสือที่คุณบัณทูร ล่ำซำ เขียน อยู่บ่อยๆ คนหนึ่งวิจารณ์ว่า “ผู้เขียนคงจะเจ้าชู้น่าดู” ผมเอ่ยถามลูกสาวว่าอ่านหรือยัง มีใครซื้อมาอ่านบ้าง เพราะที่บ้านผมและบ้านลูกสาวชอบอ่านนวนิยาย ลูกสาวบอกว่า ป้าอี๊ดกำลังอ่านอยู่ เมื่อป้าอี๊ดอ่านจบ ผมจึงได้อ่านต่อ
นานๆ ผมจึงจะอ่านหนังสือนวนิยายจบเล่ม เพราะอ่านไม่เป็น ไม่ชอบ แต่ สิเนหามนตาแห่งลานนา นี้ ไม่เหมือนนวนิยายทั่วๆ ไป เพราะมีเรื่องที่ให้ความรู้มากหลายด้าน ผู้เขียนแทรกไว้อย่างแนบเนียน ตรงกับบทวิจารณ์ในหนังสือพิมพ์ที่ลิ้งค์ไว้
วิธีเขียนกลับไปกลับมาระหว่างเหตุการณ์ ๒ ยุค ทำให้อ่านง่ายสำหรับผม เพราะแต่ละตอนไม่ยาวเกินไป ผมอ่านนวนิยายรวดเดียวจบไม่ได้ เพราะมีเรื่องอื่นให้ทำ ต้องเขียน บล็อก และต้องเตรียมงาน
ผมนึกในใจว่า คนที่จะเขียนนวนิยายแบบนี้ได้จะต้องเชื่อเรื่องภพชาติแบบตายแล้วเกิดใหม่ คนที่เชื่อเรื่องภพชาติ แบบการเกิดดับของกิเลสในชาตินี้อย่างผมคงจะเขียนไม่ได้ หรือเขียนได้ก็จะต้องจินตนาการหลุดจากความเชื่อของตน เมื่ออ่านหนังสือจบ ค้นคำวิจารณ์ใน นสพ. จึงรู้ว่าผมทายถูก ท่านผู้เขียนไม่เพียงเชื่อเรื่องภพชาติแบบตายแล้วเกิดใหม่เท่านั้น ยังโยงเข้าหาชีวิตของตนเองด้วย ผมเดาว่า ความเชื่อเช่นนี้ทำให้มีพลังเร้นลับ หนังสือเล่มนี้แฝงพลังเร้นลับนั้นอยู่
ระหว่างอ่านหนังสือ ก็ค่อยๆ รู้สึกว่า เขียนแบบโป๊เอาการ ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งโป๊หนักขึ้น ใช้คำตรงๆ แถมยังมีภาพท่าสังวาสอยู่ด้วย และให้ช้างกับม้าช่วยพูดคำโป๊ด้วย เมื่ออ่านคำวิจารณ์ใน นสพ. ว่าเป็นหนังสือ โรแมนติกแถมอีโรติก จึงเข้าใจ
ผมตั้งใจไว้ว่า หากพบหน้าคุณบัณทูร จะบอกท่านว่า ผมชอบตอนที่วิจารณ์การเมือง เพื่อช่วยกันเป็นกระจกส่อง ว่าพฤติกรรมแบบใดที่คนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับไม่ได้ คนที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องช่วยกันเตือนสติ ผู้ใช้อำนาจบริหารบ้านเมือง ผมเห็นด้วยกับคำวิจารณ์การเมืองในหนังสือเล่มนี้ทั้งหมด
วิจารณ์ พานิช
๒๘ ก.ค. ๕๖
ไม่มีความเห็น