คู่มือผู้กำกับลูกเสือ 2


  

                        

     พี่น้องผู้บังคับบัญชาลูกเสือ  ยุวกาชาดที่เคารพรักทุกท่านครับ  ขอเชิญติดตามศึกษา  “ คู่มือผู้กำกับลูกเสือ ”  ซึ่งเขียนโดย  ท่านลอร์ด  เบเดน  โพเอลล์  และสำนักงานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติเป็นผู้แปล  ความรู้ในหนังสือนี้มีประโยชน์อย่างสูงยิ่งสำหรับผู้บังคับบัญชาลูกเสือ  ในฉบับนี้ขอเสนอ  ตอนที่ 1  วิธีฝึกอบรมเด็ก  ครับผม

                                                                      ผู้กำกับลูกเสือ

    ก่อนอื่น  เพื่อเป็นการปลอบใจผู้กำกับลูกเสือที่มีเจตนาดี  ข้าพเจ้า  ( “ข้าพเจ้า”  ในเล่มนี้  คือ  Lord  Baden-Powell  of  Gilwell )  ใคร่ขอแย้งความเข้าใจผิดซึ่งมีอยู่เสมอข้อหนึ่งที่ว่าการที่จะเป็นผู้กำกับลูกเสือที่ดีจะต้องเป็นผู้รอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น  ว่าไม่เป็นความจริงผู้กำกับลูกเสือที่ดีเป็นเพียงผู้ใหญ่ที่มีจิตใจเป็นเด็กเท่านั้น  กล่าวคือ

    1.  ต้องมีจิตใจเด็กอยู่ในตัว  สามารถวางตนให้อยู่ในระดับที่ถูก  คู่เคียงไปกับเด็กได้เป็นประการแรก

    2.  ต้องรู้จักความต้องการ  ทัศนคติ  และความปรารถนา  ของเด็กวัยต่างๆว่ามีอะไรบ้าง

    3.  ต้องปฏิบัติกับลูกเสือเป็นรายตัว  ยิ่งกว่าปฏิบัติเป็นรายหมู่ใหญ่

    4.  ต้องส่งเสริมจิตใจลูกเสือแต่ละคนให้ร่วมเป็นส่วนรวม  เพื่อให้ได้รับผลดียิ่ง 

    สำหรับประการที่หนึ่งนั้น  ผู้กำกับลูกเสือต้องไม่เป็นเช่น  ครู  ผู้บังคับกองร้อยทหาร  อนุศาสนาจารย์  หรือผู้มีหน้าที่แนะนำสั่งสอนสิ่งที่ทำ  เป็นแต่เพียงว่า  ผู้กำกับลูกเสือต้องมีนิสัยชอบกลางแจ้ง  ซาบซึ้งในความทะเยอทะยานของเด็ก  และแสวงหาผู้อื่นที่มีความรู้มาช่วยแนะนำเด็กให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง  ไม่ว่าจะเป็นในวิชาสัญญาณ  วิชาวาดเขียน  ธรรมชาติศึกษา  หรือวิชาบุกเบิก  (Pioneering)  ก็ดี

    ผู้กำกับลูกเสือจะต้องทำตนเสมือนพี่ชายใหญ่  กล่าวคือ  ต้องมองทุกสิ่งทุกอย่างจากแง่ความคิดเห็นของเด็ก  ต้องนำต้องชี้ทาง  คอยให้กำลังใจในทางที่ถูก  ทั้งต้องทำหน้าที่เช่นพี่ชายใหญ่อันแท้จริง  กล่าวคือต้องรู้ถึงขนบธรรมเนียมประเพณีทางครอบครัวอันเคยปฏิบัติสืบเนื่องกันมา  และจงพิทักษ์รักษาขนบธรรมเนียมนั้นๆเอาไว้  แม้ว่าจะต้องใช้ความเข้มงวดสักปานใดก็ตามเท่านี้แหละ  กระบวนการลูกเสือ  (Scouts  Movement)  เป็นกระบวนการฉันพี่น้องมีความร่าเริงสนุกสนาน  ความรู้สึกเช่นนี้จะทวีขึ้นเป็นลำดับ  เพราะว่าในวิธีการของลูกเสือนั้น  ผู้กำกับกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น  ต่อสู้กับความเป็นผู้เห็นแก่ตัวของตนเอง

      สำหรับประการที่สองนั้น  หนังสือคู่มืออื่นๆได้กล่าวถึงตอนต่างๆ  ของชีวิตของเด็กวัยรุ่นอยู่แล้ว

      ประการที่สาม  ธุรกิจของผู้กำกับลูกเสือที่น่าสนใจมากคือการพยายามเรียนรู้ถึงอุปนิสัยใจคอของลูกเสือแต่ละคน  เพื่อจะได้ทราบว่าลูกเสือคนนั้นมีอะไรดีบ้าง  ครั้นแล้วเอาความดีเป็นจุดหลักอบรมเด็กต่อไป  เพื่อกำจัดสิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป  แม้ในนิสัยอันเลวทรามสักเพียงไรก็ตาม  ก็อาจมีความดีงามในนั้นบ้างอย่างน้อยก็ราว 5 เปอร์เซ็นต์  การเล่นกีฬาเป็นเครื่องชี้ให้พบจุดอ่อนนี้  และด้วยการเล่นกีฬาเราอาจอบรมนิสัยเด็กให้ดีถึงขั้น  80 – 90 เปอร์เซ็นต์  เราจะต้องพยายามช่วยเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่ในตัวเขาเพียง  5 เปอร์เซ็นต์นั้น  นี่คือวิธีการให้การศึกษาอบรมฝึกฝนผู้ที่จิตใจยังอ่อน 

    ประการที่สี่  ในวิธีการของลูกเสือ  การฝึกตามระบบหมู่  (Patrol  System)  เป็นเครื่องช่วยให้เด็กได้มีโอกาสแสดงออกเป็นส่วนรวมในทางปฏิบัติของการอบรมรายตัวที่เด็กได้รับมา

    การฝึกตามระบบหมู่ถ้าได้ใช้ให้ถูกต้องแล้ว  จะเป็นเครื่องช่วยอบรมนิสัยใจคอเด็กได้เป็นอย่างดี  ทั้งจะเป็นการนำให้เด็กรู้จักความรับผิดชอบที่จะทำความดีเพื่อหมู่ของตน  นอกจาก นั้นยังทำให้แต่ละหมู่ต้องรู้จักรับผิดชอบในอันที่จะทำความดีงามเพื่อกองลูกเสือของตนด้วย  โดยอาศัยการฝึกตามระบบหมู่นี้  ผู้กำกับลูกเสือไม่เฉพาะแต่เพียงจะให้คำแนะนำสั่งสอนเท่านั้น  แต่ยังสามารถให้ความคิดเห็นในแง่ศีลธรรมอันดีงามแก่ลูกเสือของตนได้ด้วยและโดยอาศัยการฝึกระบบหมู่นี้  ลูกเสือทั้งหลายจะเห็นว่าตนเองก็อาจแสดงความคิดเห็นอะไรในหมู่ของตนได้มากเหมือนกัน

     ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าการฝึกตามระบบหมู่ทำให้กองลูกเสือดี  แต่โดยทั่วไปแล้ว  การลูกเสือคือการพยายามร่วมมือซึ่งกันและกัน

                                                             หน้าที่ของผู้กำกับลูกเสือ

    ความสำเร็จในการอบรมลูกเสือนั้น  ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความประพฤติของผู้กำกับลูกเสืออันเป็นตัวอย่างแก่เด็กเป็นสำคัญ  ไม่เป็นการยากที่จะวางตนเสมือนพี่ชายใหญ่และผู้เก่งกล้าของเด็ก  แต่เมื่อเรามีอายุมากขึ้น  เรามักจะลืมไปว่าเด็กนั้นมีความรู้สึกเคารพบูชาต่อวีรชนเพียงใด

      ผู้กำกับลูกเสือคนใด  ที่เด็กนับถือว่าเป็นผู้กล้า  นับว่ามีกุญแจสำคัญที่จะอบรมเด็กนั้นได้เป็นอย่างดี  แต่ในขณะเดียวกันผู้กำกับลูกเสือย่อมเพิ่มภาระความรับผิดชอบมากขึ้น  เด็กจะสังเกตอากัปกิริยาทั้งหลายแม้แต่สิ่งเล็กน้อยของผู้กำกับนั้น  ไม่ว่าจะเป็นความดีหรือความชั่ว  มารยาททั้งหลายของผู้กำกับจะมาเป็นของเด็ก  เช่น  การคารวะที่ผู้กำกับแสดงออก  ความหงุดหงิด  ความเบิกบาน  ความใจร้อน  การยับยั้งใจตนเอง  หรือความผิดพลาดทางจรรยาเป็นบางครั้ง  สิ่งต่างๆเหล่านี้  ไม่แต่เพียงที่เด็กจะสังเกตเห็นเท่านั้น  แต่เด็กจะเอาอย่างด้วย

      ฉะนั้นการที่จะให้ลูกเสือปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ  ผู้กำกับลูกเสือต้องปฏิบัติตนตามกฎนี้ทุกๆกรณีอย่างเคร่งครัด  ในชีวิตของเขาถ้าทำได้เช่นนั้น  แม้จะไม่ปริปากสอนแม้แต่  คำเดียว  ลูกเสือทุกคนจะปฏิบัติตามไปเอง

      หน้าที่ของผู้กำกับลูกเสือนั้นเปรียบเสมือนการเล่นกอล์ฟหรือการใช้เคียวตัดหญ้า หรือการตกปลาโดยใช้ตัวแมลงเป็นเหยื่อ  ถ้าเรารีบร้อนรุกเร้าเกินไป  เราก็จะไม่ประสบจุดประสงค์   อย่างเช่นที่เราปล่อยให้แขนของเราแกว่งไปตามสบายง่ายๆ  ไม่ต้องใช้ความพยายามอย่างใดจนเกินไปในการเล่นกอล์ฟ  แต่เราก็ต้องแกว่งแขนเรื่อยไป  เพราะการที่จะยืนเฉยๆ  นั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด  มันจะต้องเป็นไปอย่างใดอย่างหนึ่ง คือเราจะไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยดี กล่าวคือจะก้าวไปข้างหน้าหรือจะถอยหลัง  เราจงมาพากันก้าวไปข้างหน้าด้วยการยิ้มแย้มแจ่มใสเถิด

                                                          ความภักดีต่อกระบวนการลูกเสือ

    ขอให้ผู้กำกับลูกเสือทุกคนจงจำไว้ว่า  นอกจากหน้าที่จะต้องปฏิบัติกับเด็กดังกล่าวแล้ว  เขายังจะต้องมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติแก่กระบวนการลูกเสืออีกด้วย  ความมุ่งหมายของเราในการที่จะอบรมเด็กให้เป็นพลเมืองดีนั้น  ส่วนหนึ่งก็เพื่อผลดีแก่ประเทศชาติ  เพื่อว่าประเทศชาติจะได้มีพลเมืองที่ดีมีความซื่อสัตย์เชื่อถือได้  มีความสามัคคี  มีความยุติธรรม  จะช่วยให้มีความเป็นปึกแผ่นภายในชาติ  และมีสันติภาพกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งไกลและใกล้

      เนื่องจากผู้กำกับต้องรับภาระในการสอนให้เด็กงดเว้นความชั่ว  เป็นผู้มีวินัย  โดยการปฏิบัติตัวเองเป็นตัวอย่างจึงจำเป็นที่จะต้องข่มความรู้สึกส่วนตัวแม้เล็กน้อยนั้นเสีย  กับต้องมีใจกว้างขวางที่จะสละความคิดเห็นส่วนตัวให้แก่นโยบายส่วนรวม  หน้าที่ของผู้กำกับลูกเสือก็คือการสอนเด็กให้รู้จักความยุติธรรม  ทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนเช่นเดียวกับอิฐที่เรียงอยู่ที่กำแพง  ทั้งตัวผู้กำกับเองก็ต้องทำเช่นนั้นด้วย  ทุกคนได้รับแบ่งงานอันมีขอบเขต  ผู้กำกับทุกคนฝังใจทำงานนั้นมากเท่าไร  เด็กก็ยิ่งตอบสนองต่อการฝึกอบรมของเขามากขึ้นเท่านั้น  เพียงมองดูอุดมคติที่สูงของกระบวนการ  หรือเพียงมองดูผลการปฏิบัติในระยะ 10 ปีข้างหน้า  เราจึงจะเห็นรายการละเอียดของปัจจุบันในสภาพที่ถูกต้อง 

    เมื่อผู้กำกับลูกเสือรู้สึกตะขิดตะขวงใจไม่อาจปฏิบัติงานตามแนวทางที่กำหนดไว้ได้แล้ว  ทางที่เป็นลูกผู้ชายของเขาก็คือ  ตรงไปยังผู้ตรวจการลูกเสือหรือกองอำนวยการเพื่อเจรจากัน ถ้ายังเข้าใจกันไม่ได้ก็ควรลาออกจากการลูกเสือไป  เพราะเมื่อเข้าทำงานเป็นผู้กำกับลูกเสือในตอนแรกก็เข้าไปด้วยความเข้าใจดี  มันไม่ค่อยยุติธรรม  ถ้าต่อมาผู้กำกับนั้นเห็นว่ารายละเอียดต่างๆ ไม่เหมาะสมกับตัวเขา  ถึงกับต้องกล่าวหาเป็นความผิดของคณะบริหาร  ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วก็ควรแยกกัน     แต่เคราะห์ดีที่วงการลูกเสือของเราได้อาศัยวิธีการกระจายอำนาจและให้เสรีภาพแก่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในการจัดการบริหาร  เราจึงหลีกเลี่ยงการเคร่งครัดต่อระเบียบ  ซึ่งเป็นสาเหตุแห่งความกวนโทโส  และการกล่าวหากันอย่างในองค์การอื่นหลายแห่ง  เราโชคดีที่มีคณะผู้กำกับลูกเสือที่มีทัศนคติกว้างขวาง  และมีความภักดีต่อกระบวนการเป็นส่วนรวม

                                                       รางวัลอย่างหนึ่งของผู้กำกับลูกเสือ

      มีชายคนหนึ่งกล้าบอกกับข้าพเจ้าว่า  เขาเป็นชายที่มีความสุขที่สุดในโลก  ข้าพเจ้าจึงต้องบอกกับเขาว่า  มีอีกคนหนึ่งที่มีความสุขมากกว่า  คือ  ข้าพเจ้า

      ท่านไม่จำเป็นต้องนึกคิดว่า  ใครในสองคนนี้ได้บรรลุถึงความสุขอันนี้  โดยไม่เคยผจญกับอุปสรรคและความยุ่งยากทั้งหลายมาก่อน  แต่ตรงกันข้าม  ความพอใจที่ได้เผชิญกับความยากลำบากโดยมีผลสำเร็จ  และอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งหลาย  ทำให้เกิดความหฤหรรษ์อย่างสมบูรณ์ที่ได้ประสบชนะความยากลำบาก

      อย่าคาดว่าชีวิตของท่านจะเป็นสุขอย่างที่นอนอยู่บนเตียงนอน  ที่มีดอกกุหลาบโรยอยู่  มันจะไม่มีความสนุกอะไรเลย  ถ้าหากว่าชีวิตเป็นอย่างที่ว่านี้จริงพินาศลงเพราะขาดความอดทน  มากกว่าที่พินาศลงเพราะการดื่มน้ำเมาหรือความชั่วอื่นๆ  ท่านต้องทนต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ที่กวนโมโห  และความโยกโย้เนื่องจากระเบียบแบบแผน  จนถึงขีดขีดหนึ่งครั้นแล้วรางวัลของท่านก็จะมาถึงท่าน    ฉะนั้น  ในการที่จะอบรมลูกเสือนั้น  ท่านจะต้องพบกับความผิดหวังและสิ่งที่ ขัดขวางต่อความก้าวหน้าอยู่มาก  จงมีความอดทน  คนจำนวนไม่น้อยที่ทำให้งานหรืออาชีพของตน

      ความพึงพอใจซึ่งได้มาจากการพยายามทำหน้าที่ของตนถึงกับละเว้นการทำชั่ว  ความพอใจที่ได้มาจากการอบรมบ่มนิสัยในตัวเด็ก  ซึ่งทำให้เด็กเหล่านี้มีชีวิตอนาคตสดใสขึ้น  เป็นรางวัลซึ่งมิอาจบรรยายเป็นลายลักษณ์อักษรได้  ความจริงการที่ได้ทำงานมาเพื่อป้องกันไม่ให้ความชั่วต่างๆเกิดมีขึ้นมาอีก  และความชั่วเหล่านี้ถ้าปล่อยให้มีต่อไป  ในไม่ช้าจะทำให้เด็กหนุ่มของเราสลายลงนั้น  จะทำให้คนเรามีความสุขในทางใจที่มั่นคง  เพราะได้ทำอะไรให้ประเทศที่รักของเราบ้างแล้ว  ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อยเพียงไรก็ดี นี่คือเจตนารมณ์  ซึ่งผู้กำกับลูกเสือและผู้ตรวจการลูกเสือ  กรรมการ  ครู  ผู้ดำเนินงาน  ผู้ฝึกและเลขานุการ  คำว่าผู้บังคับบัญชาลูกเสือ  (Scouter)  หมายถึงบุคคลที่กล่าวมาแล้วนี้ทั้งหมดที่ทำงานอยู่ในกระบวนการลูกเสือ

      เกียรติในการจัดรูปงานและการเผยแพร่งานของกระบวนการลูกเสือนั้น  อยู่ที่กองทัพของผู้ที่ทำงานอาสาสมัครเหล่านี้  จากบุคคลเหล่านี้เราได้ประจักษ์พยานที่วิเศษ  แม้ว่าจะเป็นประจักษ์พยานของการรักชาติซึ่งอยู่ใต้พื้นผิวของชาติทั้งหลาย  คนเหล่านี้อุทิศเวลา  กำลังงาน  และในบางคราวอุทิศเงินเพื่อจัดการฝึกอบรมเด็กโดยไม่หวังรางวัลหรือการชมเชย  ในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่แต่ประการใด  ที่เขาทำไปอย่างนี้ก็เพราะเขารักชาติและรักพวกเขานั่นเอง.



หมายเลขบันทึก: 541984เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2013 10:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กรกฎาคม 2013 12:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

..... ต้องมีนิสัยชอบกลางแจ้ง ซาบซึ้งในความทะเยอทะยานของเด็ก และแสวงหาผู้อื่นที่มีความรู้มาช่วยแนะนำ ..... ดีนะคะ

หวัดดีท่านต้น...อยากย้อนเวลากลับไปสัก 3 - 4 ปี คุณมะเดื่อคงสร้างสรรค์งานลูกเสือได้อีกเยอะ...เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท