จริงๆเรื่องของความสุขของคนเรา..แตกต่างกันตามบริบทของแต่ละคนในแต่ละสังคม..จำได้ว่า..ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วชีวิตของฉันเกิดมา..อาภัพนะ..ไร้พ่อ..ขาดผู้นำชีวิต..ต้องมีภาระดูแล..ลูกหลาน..ยาย..และคนอื่นๆ..อีกเท่านั้นไม่พอ..การทำงานก็มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน..ที่สำคัญคือ..เจ้านาย..ฮ่าๆๆ โอ้ยยย..ชีวิต..อะไรจะขนาดนั้น..เจ้านายสองคนรวมหัวกันกลั่นแกล้ง..ข้อหา..เด่นเกินไป..เอิ๊กกกกก..จะเป็นลม..อย่างนี้ก็มี..ทำดีแต่อย่าเด่น จะเป็นภัย..อั๊ยยยะะคำนี้โดนจังๆๆ...ในขณะที่เรามีปัญหา..เชื่อเลยคำกล่าวที่ว่า..เพื่อนแท้..เป็นอย่างไร..? จะมีสักกี่คนที่อยู่กับเราตอนที่เราทุกข์..ฉันค้นพบแล้ว...
แปลกนะ..คนเรา..พอตัวเองไม่เดือดไม่ร้อนไม่ทุกข์ก็ไม่รู้สึกเห็นใจคนอื่น..เคยเชื่อนะว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป..ผู้ยิ่งใหญ่อย่างราชสีห์เมื่อถึงคราวอับจน ยังต้องพึ่งเจ้าหนูน้อย..นั่นคือสัจธรรมของชีวิตกระมัง..
ระหว่างที่เกิดความเครียด..ภาวะเช่นนั้น..เชื่อเหอะทุกคนคงเคยผ่าน..เจ้าตัวความเครียดจากภาวะงานต่างๆที่รุมเร้า..เป็นบ่อเกิดของปัญหาสังคมต่างๆเสมอๆ..ตั้งแต่ระดับเล็กๆไปจนใหญ่ๆ..เฉกเช่นกับฉันที่ประสบมา..
ฉันเครียดกับงาน..มากกกกกกกกกกกก....ในช่วงนั้น..งานไม่ผ่านสักงาน โดนปลดกลางอากาศ โดนเเป๊ก งานทุกอย่างงดมีชื่อเด็ดขาด งานบริการเพื่อสังคมไม่มีชื่อเลย..จากคนของสังคมกลายเป็นคนที่สังคมในองค์กรไม่เอา(เจ้านาย)..อั๊ยยยะะะ...คนที่เคยทำงาน เป็นเด็กทุน มีความรับผิดชอบ..เด็กเรียน มีความสามารถ..แต่โดนชนาดนี้ใครไม่เครียดก็บ้าเเล้ว...ปีกว่าๆทีี่สภาวะกดดันแบบนี้ทำเอาฉันเกือบบ้า..ถึงตอนนี้..ฉันเข้าใจแล้วว่า..โรคเครียด..ของคนที่เป็นบ้าหรือคนที่เขาคิดสั้น..มันเกิดจากอะไร ?เพราะเขาโดนกดดัน ไง เขาไม่มีทางสู้ เขาไม่รู้จะทำยังไง เขาหนีไม่ได้ เขามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ..ไง..เคยเข้าใจไหม..แต่อย่างว่าละนะ..คนที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ หลงอำนาจ วาสนา เขาคงไม่รู้หรอก..ว่า...จริงๆแล้วชีวิตมนุษย์เราที่เขาให้มา...ล้วนแต่มีหัวโขนที่สวมมากันทั้งนั้น..เมื่อถอดหัวโขนออกเมื่อใด..เราก็จะเป็นแค่คนธรรมดาเหมือนกัน..ต่างกันตรงที่ รูปร่างหน้าตา ฐานะความเป็นอยู่ และนิสัยใจคอเท่านั้นเอง.... หากคุณเจอพวกเขาในสภาพเช่นนั้น...ห้ามว่า!!!!!!!..เขาเด็ดขาด..เพราะในภาวะเช่นนั้น..หากเราไม่เจอเอง..เราจะไม่มีวันเข้าใจเด็ดขาด..แต่ฉันก็ผ่านมันมาได้..เพราะอะไรรู้ไหมคะ...
โครตเครียดดดดดดดดดดด...ขอบอก..
ไว้ติดตามตอนต่อไปค่ะ..ตอนนี้หมดเวลาพัก..ต้องเข้าสวนก่อน..อิอิ...
ตอนที่ 2 ต่อจากตอนที่แล้ว
หลังจากที่ไม่อยากทำงาน ไปอยากให้ถึงวันทำงาน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากสู้กับอะไร ในตอนนั้นสิ่งที่ฉันคิดมีอยู่อย่างเดียวคือ รอเวรกรรมตามสนอง และ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หน้าที่ของฉันคือการทำงานตามบทบาทให้ดีที่สุด..อย่าทำให้ปนิธานของเราตั้งแต่แรกต้องมาจบสิ้นเพราะคนแค่ไม่กี่คน หากเรามัวท้อและเครียดกับเรื่องไร้สาระ ชีวิตเราก็จะเสมือนคนไร้ความคิด คิดไรไม่เป็น ใครอยากดีอยากเด่นช่างเขา ภาษีของประชาชนที่จ้างเรามา คือการทำงานเพื่ออนาคตที่ดีของชาติ งานอื่นไม่ได้ทำช่างมัน ถึงฉันจะไม่ได้ทำงานอื่นเลย..แต่เงินเดือนฉันก็ได้รับเท่าเดิม..(คิดบวกอีกละ 555) .ฉันพร่ำบอกตัวเองอย่างนี้..เสมอๆ. ดีนะที่ฉันได้กำลังใจดี..จากหลายๆคนที่เค้าเฝ้าห่วงห่างๆอยู่หลายคน ทั้งคนใกล้และคนไกล...ทั้งห่วงแบบพิเศษ และห่วงเเบบธรรมดา...ฮ่าๆๆ...(ยิ้มในหน้า..แก้มปริ..ตาเป็นประกาย)
ทุกๆวันที่ฉันมาทำงาน..ฉันมาทำงานแบบซังกะตายไม่อยากเจอหน้าเจ้านายที่มีอัตตาธิปไตยสูง..ฝากถึงคนที่เป็นเจ้านายทุกคนด้วยนะคะ..องค์กรของท่าน หากคนในองค์กรไม่มีความสุขในการทำงาน ความศรัทธาในงาน ในตัวท่านไม่เกิด งานจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร อย่าคิดว่าน๊อตเล็กในรถยนต์คันหนึ่งไม่มีความสำคัญนะคะ..เพราะหากขาดมันไป รถก็วิ่งไม่ได้หรอกค่ะ..ช่วงนั้นองค์กรของฉันแย่มาก..ไม่เคยประสบความสำเร็จในการแข่งขันใดเลย..นี่ละนะเขาว่า..กำลังใจไม่มี..จะอยากทำไปทำไม..ในภาวะเช่นนั้นทุกคนไม่อยากทำอะไร ทำตามคำสั่ง ทำเเค่เสร็จๆ..ส่วนจะเป็นอย่างไรช่างมัน บางทีการคิดเช่นนั้นก็ขัดความรู้สึกมากนะ..แต่..ทำได้แค่นั้นจริงๆนิ...คนที่น่าสงสารคือผลผลิตของกระบวนการทั้งหมดนั่นแหล่ะ..โทษใครไม่ได้..ตั้งโทษเบื้องบนที่ส่งคนมาผิด..บางทีเบื้องบนต้องคิดให้มากนะคะ..การจะส่งผู้นำคนให้มาบริหารจัดการองค์กร..ต้องดูให้ดีด้วย..บางทีมันใช้ไม่ได้จริงๆนะ..โดยเฉพาะคนทีมีอัตตาสูง..ไม่ฟังใครเลย..เอาแต่ใจตัวเอง..ไม่ดูบริบทของสังคม..เข้ากับใครไม่ได้..แบบนี้..
ในช่วงที่มีปัญหา ไม่เฉพาะฉัน..ทุกคนในองค์กรเบื่อหน่ายบรรยากาศแบบนั้น จนกระทั่งมีคนบนบานสานกล่าวสิ่งเหนือธรรมชาติมากมายหลายอย่างไม่เว้นแต่...และแล้ว..ปาฎิหาร์ก็มีจริง..กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมตามสนอง คนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ..คนเราสร้างความกดดันไว้เท่าไหร่ ความสุขใจก็ไม่มีมากเท่านั้น คนที่คิดจ้องแต่จะทำร้ายผู้อื่น..ตัวเองก็หามีความสุขไม่..เขาเองก็คงเครียดไม่ต่างไปจากคนที่ถูกกระทำ ทุกๆวันต้องกินยาคลายเครียดเสมอๆ..โดยมีสมุนคู่ใจงานไม่ทำวันๆจ้องมองแต่คนที่จับผิดคนอื่นเวลาคนกลุ่มกัน บางครั้งเดินไปถามว่านินทาอะไรกัน..โว๊ะะะ...คนเค้าคุยกัน..ก็หาว่านินทากัน..ปรกติ.เมื่อก่อนเวลาว่างที่ไม่ได้ทำงาน พวกเราก็คุยกันเป็นปกติอยู่แล้ว..แปลกไหมล่ะคะ
ในช่วงเวลาอย่างนั้นสิ่งที่ฉันทำได้ดีทีสุดคือ การไม่เครียด ทำงานตามหน้าที่ หลีกเลี่ยงการปะทะกันซึ่งหน้า ไม่พูดในสิ่งที่จะส่งผลกระทบ ตัดขาดจากวงสังคม เย็นกลับบ้านทำงานบ้านดูแลครอบครัว ไปเล่นกีฬา กับลูกหลาน ...วันหยุดเข้าสวนปลูกผัก..สวดมนต์ก่อนนอนภาวนาให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยเถิด..ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งชาติปางก่อน..และชาติปัจจุบัน..
คงเป็นแรงความดีและการภาวนาสวดมนต์อ้อนวอนขอของคนส่วนใหญ๋ขององค์กร..ในทีสุด..สิ่งเลวร้ายนั้นก็อยู่ไม่ได้..มีคำสั่งให้ย้ายไปอยู่อีกที่หนึ่งอย่างรวดเร็วจากเหตุการณ์หนึ่งๆที่เลวร้ายและทำลายชื่อเสียงพอสมควร..จากคนในองค์กรนั่นแหล่ะ..ลูกสมุนพอหัวไปก็อยู่ลำบาก..ไม่มีคนพูดด้วย..ไม่ร่วมงาน..ไม่เข้าสังคม..ในที่สุด.ก็อยู่ไม่ได้เช่นเดียวกัน..
ความสงบสุขเริ่มกลับมาดังเดิม..ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ..อยากมาทำงาน..ทักทายปราศรัยกันกินข้าวด้วยกัน ..แบ่งปัน..ช่วยเหลือกัน..มิตรภาพเริ่มกลับคืนมา..เหมือนต้นไม้ที่มันสลัดใบ..แล้วเจอฝน..ผลิยอดอ่อน แตกใบ แผ่กิ่งก้านสาขา..บรรยากาศสวยงาม..จริงๆ...
อย่างไรก็ตาม..ความปีนเกลียว..ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร..ก็ยังคงเหลืออยู่..แต่น้อยลง..เมื่อขาดหัวไป...คงเสมือนเมือ่เกิดเหตุไฟไหม้แหล่ะ..ถึงแม้จะดับไฟได้..แต่ความเสียหาย..และร่องรอยมันก็ยังคงอยู่...
สำหรับฉันไม่ได้ว่าใครหรือโทษใครทั้งนั้นทั้งหมดทั้งสิ้น..ฉันโทษตัวเอง คงเป็นกรรมเก่า ของฉัน.เอง...ชาติที่แล้วฉันคงทำกรรมอะไรไว้..ชาตินี้ฉันจึงต้องรับกรรม..ทุกคนมีกรรมเป็นตัวกำหนด..สิ่งที่ฉันทำได้ในตอนนี้คือ..บอกตัวเองเสมอๆ..ใครคิดไม่ดีกับเราช่างเขา..หากเขานินทาเราแสดงว่าเราเป็นคนที่น่าสนใจ..ยิ่งเขารังแกแรามากเท่าไหร่..แสดงว่าเรามีดีให้เขาอิจฉามากขึ้นเท่านั้น..อย่าไปสนใจ..เดินห่างออกมา..แรงศรัทธาก็จะตามมาเอง..ยิ่งฉันโดนมาก..พลังของฉันยิ่งเยอะ..ผู้คนออกมาปกป้อง..ฉันมากมาย..จากตอนที่เคยคิดว่าทำไมผู้ชายตัวโตอกสามศอกอายุมากมาย ระดับผู้นำองค์กร ต้องรังแกผู้หญิงตัวเล็กๆ..ได้..ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะ..ในทีสุด..ธรรมะย่อมชนะอธรรม...เสมอ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ..ถึงมันจะช้าไปนิด.แต่ผลของมันหอมหวานเสมอ...
ดูละครย้อนดูตัว.ในที่สุด..ฉันก็เขียนพอร์ตเรื่อง..ได้สำเร็จ.. 55555 เย้ๆๆ......
ขอบคุณที่มาของข้อมูล..จากการดูละคร..อ่านหนังสือ..และนวนิยาย..ตลอดจนเรื่องราวของพ่อแม่พี่น้องทุกคน..ที่ทำให้ข้าพเจ้านำเอามาเขียนได้เป็นอย่างดี...ที่สำคัญ..ขอขอบคุณ..คนไกลทางใต้..ที่ส่งแรงใจและให้คำแนะนำดีๆ..ตลอดมา..
ขอบคุณยายธี กับคุณมะเดื่อนะคะ..มาให้กำลังใจตลอดเลย
หน้าตาเด็กในรูป ให้อารมณ์มากค่ะ
ทุกคนมีบทบาทหน้าทีต่างกันเเต่ล้วนมีกรรมของตัวเองมากำหนดเหมือนกันทั้งสิ้น เรายังมีลมหายใจเรายังต้องอยู่กับกรรมนั้น
ทุกอย่างที่ผิดพลาดเราก็ย่อมได้เรียนรู้เสมอ ยังไงการมองโลกในเเง่บวกย่อมดีเสมอ สู้ๆๆๆน่ะครับครู
จ้าาา คุน กุลรพี 5555 (ไม่รุถูกปล่าวนะคะ) ภาวะนั้นเครียดจริงๆค่ะ
ทำได้แค่นั้นจริงๆค่ะ คุณสมพงษ์ ปล่อยให้มันผ่านไป.เพราะเรามีกรรมทำมา..ยอมรับความจริง..และก็ตั้งใจทำดี..มองโลกบวก..
ตามเข้ามาเพราะรูปค่ะ น่ารัก ... ชอบเนื้อหาด้วยค่ะ
รูปตัวเล็ก ถึงเครียดก็น่ารักนะ...
ขอบคุณค่ะคุณแมววิเชียรมาศ ชื่อคุณก็น่ารักมากค่ะ..
555 ขอบคุณนะคะคุณ พ. มองบวกคิดบวกค่ะ