วงศ์เครือเชื้อสาย
วงศ์เครือเชื้อสาย
......................
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ มีภาระต้องไปรับลูกชายที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ศรีสะเกษ เป็นทายาทโดยธรรม มีอายุ ๑๗ ปี กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ซึ่งเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในการเรียนระดับอุดมศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ หลวงลุง คือ พระเทพพุทธิมงคล ซึ่งไปจำพรรษาที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ บอกว่า นักเรียนประเทศนี้ เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จะมีข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับนักเรียนชัดเจนว่า จะเรียนต่อ ระดับอุดมศึกษา หรือไปเรียนสายอาชีพ กล่าวคือ นักเรียนที่มีคะแนน(เกรด)สูง ๆ ก็จะได้เข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา นักเรียนที่ได้คะแนน(เกรด)ต่ำ ๆ ก็จะให้เลือกเรียนสายอาชีพ การพัฒนาคนของบ้านเขาจึงเป็นไปตามศักยภาพ สมรรถนะ และเพื่อพัฒนาประเทศโดยตรง หลวงลุงบอกว่า สวัสดิการที่ให้กับประชาชนดีมาก น่าจะมากที่สุดในโลกก็อาจเป็นได้
หลวงลุง เป็นวงศ์เครือเชื้อสายที่แท้จริงของผม เพราะท่านเป็นพี่ชายแท้ๆ พี่ชายคนโตคนเดียวของแม่ผม เมืื่่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดโรงเรียนบ้านกอกหวาน ก็อยู่ทำนาเลี้ยงวัวช่วยพ่อแม่ที่บ้านกอกหวาน บ้านเลขที่ ๘๓ หมู่ ๑ ตำบลสมอ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ (ปัจจุบัน ตำบลโพธิ์ศรี อำเภอปรางค์กู่) จนอายุได้ ๑๗ ปี ท่านจึงเป็นวงศ์เครือเชื้อสายของผม ในฐานะเป็นญาติทางสายเลือด สายรก
หลวงลุงบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านกอกหวาน โดยมีสหธรรมิก คือ หลวงพ่อบุญมา พุทธวังโส หรือพระครูสารกิจวิมล หลังจากนั้นก้เดินทางไปเรียนศึกษาที่กรุงเทพฯ พำนักที่วัดสระเกศวรมหาวิหาร แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ส่วนหลวงพ่อบุญมา พุทธวังโส ยังพำนักที่วัดระหาร ศึกษาพระธรรมวินัยตามแนวทางของท่าน จนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดระหาร เจ้าคณะตำบลกิตติมศักดิ์ นั้นเอง ท่านหลวงพ่อบุญมา พุทธวังโส เป็นญาติที่คุ้นเคยและอุปการะกันตลอดมา จึงเป็นวงศ์เครือเชื้อสายของผม เช่นเดียวกัน
วงศ์เครือเชื้อสายของผมเป็นชาวบ้านชาวนา หามีความสำคัญมากมายอะไรนัก แต่เป็นวงศ์เครือเชื้อสายที่ผมและตระกูลภาคภูมิใจยิ่ง จากการเล่าสืบต่อกันมา จับความได้ว่า สืบข้อมูลได้ลึกประมาณตั้งแต่ปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ เป็นต้นมา โดยคำนวณช่วงอายุของบรรพชนคนบ้านกอกหวาน เริ่มตั้งแต่ ครอบครัวตาปวนยายแก้ว ซึ่งท่านมีลูกหญิงลูกชายลูกเขยลูกสะใภ้ ถึง ๗ คู่
๑. ยายมี กับตาสาม
๒. ยายแอนกับตาเจ็น
๓. ยายอิ่มกับตาตัน
๔.ยายมากกับตารัตนะ
๕. ยายจันกับตา ....
๖. ยายออมกับตา...(บ้านสะอาก)
๗. ตาเจียมกับยายแก้ว(บ้านตูม)
ในช่วงอายุดังกล่าวยังมีครอบครัวพ่อแม่ของ ตาเจ็น ตาพระ ตาเซ็ม ตามสาม และตานอม ซึ่งก็เกี่ยวดองเป็นดองเป็นญาติกับครอบครัวตาปวนยายแก้วถึง ๒ คู่ คือ ตาสามกับยายมี และตารัตนะกับยายมาก นั่นเอง
ตาปวนยายแก้ว และพ่อแม่ของตาเจ็น ตาพระ ตาเซ็ม ตามสาม และตานอม เมื่อคำนวณช่วงอายุและระยะเวลาแล้ว น่าจะมีชีวิตอยู่ระหว่าปลายรัชสมัยรัชกาลที่ ๒ ถึงรัชสมัยรัชการที่ ๓ เพราะทั้งสองพระองค์อยู่ในราชสมบัติ ประมาณ ๔๒ ปี (พ.ศ. ๒๓๕๒ - พ.ศ. ๒๓๙๔)
และต่อไปนี้จะเล่าและเสนอข้อมูลในส่วนที่ชัดเจนก่อน คือในส่วนของยายแอนกับ ตาเจ็น ซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ทางทิศเหนือหนองน้ำใหญ่(ตระเปียงทม) ซึ่งเป็นทำเลที่น่าจะเหมาะสม เป็นที่ราบปนเนินดินหรือที่ดอนที่ค่อนข้างสูงที่สุด น่าจะเป็นใจกลางของหมู่บ้านกอกหวานแต่เริ่มแรก (ปัจจุบันคือบริเวณบ้านลูกหลานของยายปิดตาเฮือง ยายแปงกับตาจัน ตาเสียงยายดา ยายด้วงตารมย์ ตาสายยายเทือย) ตาเจ็น เป็นปราชญ์ของหมู่บ้าน ผ่านการบวชเรียนมาก่อน ส่วนยายแอนเป็นลูกสาวตาปวนยายแก้วที่มีอยู่มีกินและมีปัญญา ครอบครัวนี้ มีลูกหญิงลูกชายลูกเขยลูกสะใภ้หลายคู่ ดังมีชื่อต่อไปนี้
๑. ตาด้วง กับยายเตย
๒. ยายปอ กับ ตา.....
๓. ตาเจษ กับยาย ....
๔. ตาตรด กับ ยาย ...
๕. ตาจู กับยาย....
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น