พระดีพระดังกับสถานการณ์ที่เป็นไป


นานมาแล้วผู้เขียนเคยอ่านเจอข้อความว่า “ถ้าอยากดัง อย่าหวังความสงบ”
ตอนแรกที่อ่านเจอก็ไม่เข้าใจว่ามันจะไม่สงบยังไง
ต่อเมื่อได้ไปอยู่จำพรรษาวัดดังระดับชาติมาก่อน จึงค่อนข้างจะซาบซึ้งกับถ้อยคำนี้


ตามปกติธรรมดาแม้พระจะไม่ดังแต่ฐานทุนทางวัฒนธรรมมันก็เอื้อต่อการเข้าวัดของญาติโยมในปริมาณที่พอสมควรอยู่แล้ว พอมีพระที่เทศน์เก่ง มีบุคลิกความเป็นผู้นำที่โดดเด่น ก็จะเป็นปัจจัยบวกให้คนเข้าวัดนั้นๆ มากขึ้น


จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน แรกๆ คนที่เข้าวัดก็ไปด้วยจิตศรัทธา ทั้งศรัทธาในพระรัตนตรัยและพระที่เป็นผู้นำ
แต่พอนานๆ ไปหลังจากเข้าไปสนิทสนมแล้ว ก็มักจะเพลินและลืมแก่นแกนแท้ของพุทธศาสนาที่เคยศรัทธาชื่นชม
เหลือเพียงความนิยมในพระที่เป็นเพียงพระสงฆ์เท่านั้น จากนั้นก็หยั่งรากลึกจนกลายเป็นความนิยมส่วนตัวที่ถาวร


หากจะมีญาติโยมเพียงคนเดียวปัญหาก็คงไม่เกิด แต่พระก็เป็นเหมือนดารา คือเป็นบุคคลสาธารณะโดยตำแหน่ง
ย่อมต้องมีโยมคลับเป็นธรรมดา แฟนคลับของดาราก็คือการชื่นชมดาราคนที่ตัวเองโปรดปราน แล้วพากันตั้งกลุ่มขึ้นมา หากดาราในดวงใจโดนจิก กัด ข่วนจากโชเชียลมีเดีย แฟนคลับพวกนั้นก็จะรวมพลังสร้างปฏิกิริยาโต้ตอบกลับทันที ส่วนโยมคลับก็จะยึดมั่นถือมั่นในพระที่ตัวเองศรัทธานิยมอย่างเหนียวแน่น ประมาณว่า พระข้าใครอย่าแตะ ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็ทำหน้าที่เหมือนรากไทรที่โอบอุ้มต้นไม้เดิมที่ตัวเองอาศัยอยู่ให้จมมิดหายไป เห็นเพียงรากไทรย้อยที่แสนวังเวง

 

ไม่รู้นะ แฟนคลับของดาราอาจทะเลาะกันเองภายในกลุ่ม ในการแย่งเป็นเบอร์หนึ่งเบอร์สองของการเป็น
ทส คนสนิทใกล้ชิดกับดารา แต่ที่รู้แน่ๆ คือ โยมคลับมีการช่วงชิงคล้ายๆ กันแน่นอน

นี่แหล่ะจึงกลายเป็นปัญหาสำหรับพระดังที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก พระดังพระดีจึงมีทางออกอย่างที่เราเห็นเป็นข่าวเรื่อยมา เป็นทางออกที่ท่านคิดว่าเป็นกลางเป็นธรรมและซอร์ฟอย่างที่สุด

หากท่านถือข้างใดข้างหนึ่งของโยมคลับ ความเมตตาของท่านก็จะเสียสมดุล ท่านยอมเสียสละชื่อเสียงที่สะสมมานาน ยอมสูญเสียสถานะทางสังคมที่ได้รับการยอมรับ และพร้อมที่จะแลกกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบอย่างมั่นคง ซึ่งจะมีขึ้นอย่างน้อยก็ชั่วระยะหนึ่งของการเป็นข่าว


ใครที่ไม่เป็นพระดังก็จะไม่ซาบซึ้งสถานการณ์ตรงนี้ พระดังหลายรูปต้องบำเพ็ญขันติบารมีกันอย่างมาก
ไม่ใช่บำเพ็ญเพื่อป้องกันกิเลสตัวเอง เพราะพระดังพระดีส่วนใหญ่ท่านหลุดพ้นตรงนี้แล้ว
แต่ท่านถือขันติเผื่อไว้สำหรับโยมคลับทั้งหลายนั่นเอง ที่ยังสร้างสถานการณ์ “ตัวกู ของกู” อย่างต่อเนื่องยาวนาน

 


พุทธศาสนิกชนทั้งหลายคงจะได้ตะลึงงันกับข่าวคราวของพระดีพระดังลาสิกขากันอีกครั้งและอีกครั้งแน่นอน
หากสถานการณ์ของโยมคลับยังเข้มข้นด้วยกิจกรรม “ตัวกู ของกู และพระกู”

 

ด้วยจิตปรารถนาให้พระดีมีกำลังใจอยู่ยั่งยืนนานเตี่ยงแต๊ดีหลี

พระมหาอัมพร ชุตินธโร



 

 

 

หมายเลขบันทึก: 539090เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2013 17:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2013 17:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ขออนุโมทนา

พระอาจารย์มีแฟนคลับกับเขาบ้างหรือเปล่าครับเนี่ย?   555

ได้ส่งพันธุ์ผักแบบ EMS ไปให้แล้วนะครับ...

รอรับนะครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท