ได้มีโอกาสอ่านบทความจากเว็บประชาไทที่พูดถึงการทำหนังสือพิมพ์ของคนไร้บ้านเพื่อคนไร้บ้านในต่างประเทศและทำให้เกิดความคิดที่จะลองทำโครงการนำร่องเพื่อทดลองทำหนังสือพิมพ์ที่จะนำเสนอเรื่องราวของคนเร่ร่อนคนไร้บ้านในประเทศไทยขึ้นมาบ้าง เพราะจากการทำงานกับคนเร่ร่อน คนไร้บ้านมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรคิดว่าน่าที่จะหาช่องทางหรือกระบอกเสียงให้แก่คนกลุ่มนี้ขึ้นมาบ้าง
จากข้อมูลที่ระบุในเว็บประชาไทเรื่องข้อมูลของคนไร้บ้านคนเร่ร่อนในเมืองไทยที่ว่า “พราะจากผลสำรวจของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เพิ่งจะจัดเสวนาวิชาการเรื่องคนไร้บ้านไปหมาดๆ เมื่อ 3 ตุลาคม 2549 พบว่าสิ่งที่ผลักดันให้คนจำนวนมากออกมาอาศัยอยู่ข้างถนน มีเหตุผลจากการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐ ในด้านที่อยู่อาศัย มีปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินของคนอื่นและที่สาธารณะ และเป็นเหยื่อถูกล่อลวงจากนักต้มตู๋นที่อ้างตัวว่าเป็นนายหน้าขายบ้านราคาถูก หลอกกินเงินมัดจำ (ซึ่งบางคนเก็บหอมรอมริบมาเกือบทั้งชีวิต) และนายหน้าเหล่านั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย” ทำให้เกิดความคิดที่ว่า การมีกระบอกเสียงที่สะท้อนเรื่องราวของคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ไปสู่สังคมภายนอกมีความจำเป็นอย่างยิ่ง และนอกจากจะเป็นกระบอกเสียงแล้ว อาจจะเป็นช่องทางสื่อสารเพื่อเรียนรู้นอกห้องเรียนของลูกหลานคนเร่ร่อน คนไร้บ้านในเมืองไทยได้อีกด้วย
การเริ่มต้นของโครงการนี้แน่นอนที่สุด การระดมการมีส่วนร่วมของบุคคลต่าง ๆ และทุกภาคส่วนในสังคมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการริเริ่มการทำหนังสือพิมพ์คนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ในเมืองไทย ยังถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย ที่สำคัญทุกคนและทุกภาคส่วนต้องยอมรับและมั่นใจ ศรัทธาในศักยภาพของมนุษย์ที่มีเท่าเทียมกัน โดยการให้พื้นที่การแสดงออก ให้โอกาสในการริเริ่ม เพื่อพิสูจน์ตัวเองของคนเร่ร่อน คนไร้บ้านของไทย ซึ่งอาจจะนำไปสู่แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเร่ร่อน คนไร้บ้านที่เป็นรูปธรรมที่ลงมือทำได้จริงในอนาคตได้
วันนี้คุณพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการริเริ่มเพื่อเป็นก้าวแรกของการทำงานด้านสื่อที่สร้างสรรค์เพื่อเป็นกระบอกเสียง และพื้นที่การเรียนรู้ของคนเร่ร่อน คนไร้บ้าน ในเมืองไทยหรือไม่ หากสนใจแล้วล่ะก็ มอบและหยิบยื่น.โอกาสนั้นมาได้เลย สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน(องค์กรสาธารณประโยชน์) ยินดี จะ ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมดีดี นี้ร่วมกับท่าน
เห็นด้วยในสิ่งที่คุณจะต่อยอดความคิดนี้..สิ่งที่คิดเป็นเรื่องนอกกรอบที่สังคมไทยควรให้การสนับสนุน..ในฐานะผู้รับผิดชอบการทำงานด้านคนเร่ร่อน ขอสนับสนุน หวังว่าคงได้ร่วมงานกันนะคะ