ภาพที่ ๑ ซุ้มประตูทางเข้างานที่ริมบึงแก่นนคร "ประเพณี..ออกพรรษา ใต้ประทีมโคมไฟ และวิถีอีสานประจำปี ๒๕๔๙"
ภาพที่ ๒ แสงเทียนส่องใจ ลอยกระทงไป แต่ใจ ไม่ล่องลอย
ภาพที่ ๓ ชาวเมืองขอนแก่น สืบทอดประเพณี อันดีงาม พาลูกหลานมา ลอยกระทง ที่บึงแก่นนคร
การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือ ลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททา
ภาพที่ ๔ ประทีบโคมไฟลอยในน้ำ บึงแก่นนคร
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน
1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร
3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา
4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ
5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า
6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก
7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล
ภาพที่ ๕ ประทีบโคมไฟ กำลังลอยอยู่บริเวณบึงแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น
สรุป ประเพณีลอยกระทง ดังนี้ครับ (คลิก รายละเอียดและฟังเพลง)
1. เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทและบูชาเทพเจ้า ตามคติความเชื่อ
2. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้ มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา
3. เพื่อรู้ถึงคุณค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
JJ
เทศกาลลอยกระทงที่อิสานเริ่มแล้วเหรอค่ะ :))
ขอบคุณค่ะอาจารย์ JJ เป็นความรู้ใหม่ค่ะ