หน้าร้อนปีนี้ร้อนนานกว่าปีที่แล้วความรู้สึกผมบอกอย่างนั้น
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ นำสารพัดโรคมาให้ผม ตั้งแต่
ปวดหัว,ท้องผูก,ร้อนใน,เบื่ออาหาร,คลื่นไส้,นอนไม่หลับ สารพัดโรค
ซึ่งโรคพวกนี้ได้ยินมาว่ามันมักจะมาพร้อมกับความเครียด แต่ถ้าจะว่ากันจริงๆ ความเครียดผมน้อยลงแน่ๆ
ปัญหาที่เคยมีก็แก้ไขได้ ทั้งเรื่องงาน เครื่องครอบครัวก็ราบรื่นดี แต่ทำไมเป็นโรคพวกนี้อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ .... เหมือนเส้นผมบังภูเขา
ผมเห็นเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่งวางขวดน้ำขนาด 1.5 ลิตรไว้บนโต๊ะ
ผมจึงเข้าไปทักอย่างคนรู้จักกันว่า “โห วันๆนึงจะดื่มน้ำหมดขวดนี้เลยเหรอ” เพื่อนคนนั้นตอบว่า “ทำไมเหรอ อันนี้แค่ที่ทำงานนะดื่มน้ำน้อยไม่ดีนะพี่” .... แค่นี้ผมก็ฉุกคิดถึงตัวเองขึ้นมาทันที มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาให้หัว “เราดื่มน้ำน้อยไปไหมนะ แล้วจริงๆควรดื่มน้ำวันละกี่แก้วถึงจะพอดี,ดื่มน้ำมากไปจะเป็นไรไหมนะ ฯลฯ”
เก็บความสงสัยไว้ได้ไม่นานก็เข้าไปแสวงหาความรู้ผ่าน Search Engine ที่คุ้นเคย.... โอ ไม่นะ หลายๆ
บทความเกี่ยวกับการดื่มน้ำ ทำให้ผมตาสว่างขึ้นมาทันที “ทุกวันนี้เราดื่มน้ำน้อยเกินไปจริงๆ”
น้อยไปอย่างไรผมจะนำมาแชร์ให้ได้รับทราบทั่วกันครับ พฤติกรรมปกติ เริ่มจากตอนเช้า 6:00 หลังตื่นนอน: ไม่ดื่ม 7:00-7:30 หลังรับประทานอาหารเช้า : ดื่มประมาณ 1 แก้ว ( ขนาดแก้วของผม 200 ซีซีครับ วัดจากการรินน้ำจากขวด 600 ซีซี ได้ 3 ครั้ง)ช่วงสาย 10:30 พักเบรค ดื่มน้ำ 2 แก้ว ช่วงกลางวัน 12:30-1300: หลังอาหารกลางวัน ดื่มอีก 2 แก้ว ช่วงบ่าย 15:00-16:00 ดื่ม 1 แก้ว ช่วงเย็น 18:00-1900 หลังอาหาร 1 แก้ว รวมดื่มน้ำ 7 แก้ว สบม. อยู่แล้วเพราะดืมน้ำอยู่ในช่วง6-8 แก้วตามที่เคยรู้มา นั่นแหละครับหน้าร้อนปีนี้เลยเป็นสารพัดโรคที่กล่าวมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ร่างกายก็แข็งแรงดีอยู่ยกเว้นโรคร้อนในที่เป็นมาตลอด ถึงบางอ้อเลยคราวนี้ สรุปกับตัวเองได้เลยว่า ดื่มน้ำน้อยเกินไป
มีหลายสูตรหลายแนวคิดในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการดื่มน้ำ
ผมจะไม่ขอเอ่ยถึงแต่จะขอทดสอบด้วยตัวเองก่อน น้ำหนักตัว 75 กิโลกรัม เขาให้ดื่ม 2 ลิตรกว่าๆ ผมปัดเอาแค่ 2.1 ลิตรพอ แบ่งเป็นดื่มที่บ้าน 600 ซีซี ที่ทำงาน 1500 ซีซี
เท่าขวดมาตรฐานน้ำดื่มทั่วๆไปพอดี ไม่ต้องกังวลเรื่องกี่แก้วกันแล้วล่ะทีนี้ มาติดตามผลการการเปลี่ยนพฤติกรรมกันดูครับ.....ผมเริ่มทดสอบโดยเริ่มจาก ตื่นนอนก่อนแปรงฟัน ดื่มไปเลยครึ่งขวด 300 ซีซี. สักพักหนึ่งก็ถ่ายท้อง รู้สึกว่าถ่ายง่ายขึ้นครับ จากนั้นเพิ่มความถี่การดื่มน้ำในช่วงบ่ายให้มากขึ้น (ครั้งแรกดื่มรวดเดียวเลย 500 ซีซี. ภายในเวลา 15 นาทีปรากฎว่าสักพักก็ต้องเข้าห้องน้ำปัสสาวะ
จึงคิดว่า ต้องทยอยดื่ม)
และสุดท้ายเพิ่มรอบหลังอาหารเย็น ประมาณ 1 ชั่วโมงและก่อนนอนอีกครั้ง
รอบก่อนนอนไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไปครับ เพราะจำทำให้เราปวดปัสสาวะเร็วเกินไป
ผลปรากฎว่าโรคต่างๆที่กล่าวมา ที่เป็นมาตลอด 2- 3 เดือนหายหมด ที่สำคัญอารมณ์ดีขึ้นด้วย
(ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า) ลองดูนะครับ ลองพิจารณาศึกษาหาความรู้ ทดลอง สังเกต
และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับร่างกายของท่าน ดูแลสุขภาพร่างกายให้มากๆ
นะครับเพราะถึงอย่างไรก็ไม่สามารถชดเชยกับการใช้งานของร่างกายเราที่สึกหรอลงไปทุกวันๆได้
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีครับ
บางช่วงที่ไม่ค่อยร้อน ไม่ค่อยมีเหงื่อออก ก็ใช้วิธีจิบน้ำ ทีละนิดๆ แทนการดื่มก็น่าจะได้ไหมคะ ?
เป็นคนประเภท
- ไม่มีใครชวนทานข้าว หรือไม่เห็น ก็จะไม่หิว ก็จะไม่ทานค่ะ
- น้ำก็เช่นกัน ไม่เห็น ไม่ดื่ม
ดังนั้นหนูเดมหลานสาวเค้ามักจะดูแลคุณป้าเป็นอย่างดี ... ชวนทานข้าว และวางน้ำไว้ให้ทุกๆ ที่ค่ะ
ห้องนอน ในรถ และโต๊ะทำงาน
- แต่วันนี้แย่หน่อยค่ะ ไวน์ขาว 1 แก้วที่บ้านลูกค้า หน้าแดงไปหมดแล้วค่ะ