ความไม่รู้จริงของชีวิต...ของผู้เขียน?


ถ้าสิ่งนี้มี ....สิ่งนั้นก็มี ... ถ้าสิ่งนี้ดับ ...สิ่งนั้นก็ดับ


   

   

                     




       พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบ  กฎธรรมชาติ....พระองค์จึงได้ชื่อว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า... กฏปฏิจจสมุปบาท  คือ กฎแห่งความเป็นเหตุ....เป็นผลของกันและกัน  การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยซึ่งกันและกันเกิดขึ้น….กฎปฏิจจสมุปบาท คือ กฎแห่งเหตุผลที่ว่า.... ถ้าสิ่งนี้มี ....สิ่งนั้นก็มี ... ถ้าสิ่งนี้ดับ ...สิ่งนั้นก็ดับ….. 

ปฏิจจสมุปบาท .... มีองค์ประกอบ 12 ประการ คือ


    1) อวิชชา คือ ความไม่รู้จริงของชีวิต ... ไม่รู้แจ้งในอริยสัจ 4 ... ไม่รู้เท่าทันตามสภาพที่เป็นจริง


   2) 
สังขาร คือ ความคิดปรุงแต่ง หรือ เจตนา .... ทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล


   3) วิญญาณ คือ ความรับรู้ต่ออารมณ์ต่างๆ เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รู้รส รู้สัมผัส 


   4) นามรูป คือ ความมีอยู่ในรูปธรรม...และนามธรรม ได้แก่ กาย กับจิต  


   5) สฬายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ 


   6) ผัสสะคือ การถูกต้องสัมผัส ....หรือ การกระทบ 

 

   7) เวทนาคือ ความรู้สึกว่าเป็น ...สุข ...ทุกข์ หรือ...อุเบกขา  


   8) ตัณหา คือ ความทะเยอทะยานอยาก ....หรือความต้องการในสิ่งที่อำนวยความสุขเวทนา และความดิ้นรนหลีกหนีในสิ่งที่ก่อทุกขเวทนา 

 

   9) อุปาทาน คือ ความยึดมั่น ...ถือมั่นในตัวตน  


   10) ภพคือ พฤติกรรมที่แสดงออก ...เพื่อสนองอุปาทานนั้นๆ เพื่อให้ได้มาและให้เป็นไปตามความยึดมั่นถือมั่น 

 

  11) ชาติ คือ ความเกิด... ความตระหนักในตัวตน ....ตระหนักในพฤติกรรมของตน


   12) ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาสะ คือ  ความแก่ ...ความตาย... ความโศกเศร้า ....ความคร่ำครวญ ... ความไม่สบายกาย ...ความไม่สบายใจ และ ความคับแค้นใจ...หรือความกลัดกลุ่มใจ



              



   วันก่อนผู้เขียน...ได้ไปงานศพพี่ ที่สนิดชอบพอกัน ..... พี่เขาอายุ 63 ปี ..... จากไปอย่างสงบ....ผู้เขียนได้รับฟังธรรมะ .....ทำให้ผู้เขียนต้องกลับมาค้นหนังสือ ... และได้อ่าน .... กฎธรรมชาติ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ... กฏปฏิจจสมุปบาท  คือ กฎแห่งความเป็นเหตุ....เป็นผลของกันและกัน .... ที่ว่า.... ถ้าสิ่งนี้มี ....สิ่งนั้นก็มี ... ถ้าสิ่งนี้ดับ ...สิ่งนั้นก็ดับ .... ทำให้เริ่ม... เข้าใจและตระหนักของกฎธรรมชาติ....เราเกิดมา .... เราชรา ... แล้วเราก็จะ จาก...ร่างกายนี้ไป .... เป็นกฏธรรมชาติ  12 ข้อ กฏของ ปฏิจจสมุปบาท นะคะ .... "เราจะทำอะไร...ให้ปรากฎความดีงาม....แด่ชนรุ่นหลัง" .... ???


              

              

                


               

       

หมายเลขบันทึก: 537772เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2013 10:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 มิถุนายน 2013 10:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

โห....พี่เปิ้นทำมาตั้งมากมายแล้วนะคะ

เรามาเตรียมเป็นคนชราอย่างมีความสุข....มรณาก็จะสงบสุข นะคะ....หวังว่า

ขอบคุณธรรมคติเตือนใจไม่ประมาทเช่นนี้ค่ะ

              สาธุ    มารับธรรมะค่ะ

นางฟ้า เบื่อสวรรค์

อีกหลายสิ่งอย่างที่ยังไม่รู้ ซื่งนี่คือหนึ่งในนั้น ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆที่ ดร.แบ่งปันค่ะ

เห็นทุกข์จึงเห็นธรรมนะครับผม

อย่างไรเสีย ก็เป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ที่เคยกล่าวคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จำเป็นต้องปรับโดยไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ขอรับ อาริโย อาริโย อาริโย

ยิ่งศึกษาหาความรู้  ก็ยิ่งรู้มากขึ้นว่าสิ่งที่ยังไม่รู้ยังมีเยอะ  ผู้ที่ไม่ศึกษาหาความรู้จะเข้าใจตัวเองว่าเขาเป็นคนรู้มาก

ฉนั้นต้องศึกษาหาความรู้ต่อไปเรื่อยๆ และกระทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น

ขอบคุณที่ให้ความรู้มาสนับสนุนให้แน่นขึ้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท