updated: 29 พ.ค. 2556 เวลา 14:38:31 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% หลังเศรษฐกิจชะลอกว่าที่คาด สอดคล้องกับเศรษฐกิจโลกที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ พร้อมติดตามความเสี่ยงด้านการเงิน เงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. กล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้มีการลดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.75 % เป็น 2.50 % โดยให้มีผลทันที โดยการปรับลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ เนื่องจาก กนง.เห็นว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเศรษฐกิจกลุ่มยูโรก็อ่อนแอ ถึงแม้ความเสี่ยงจะลดลงบ้าง แต่เศรษฐกิจจีนและเอเชียขยายตัวต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้การฟื้นตัวของการส่งออกไทย ล่าช้ากว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มได้รับผลบวกจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้การบริโภคการส่งออกญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ในขณะที่ภาวะตลาดการเงินโลกมีความผันผวนสุง ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาค และมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนให้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจไทยไทยในไตรมาส 1/56 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาด จากอุปสงค์ในประเทศ ซึ่งอาจกระทบต่อแรงส่งต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปได้ โดยเฉพาะหากมีความล่าช้าของโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
ทั้งนี้ แนวโน้มส่งออกก็มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะจากจีนที่ขยายตัวชะลอลง ขณะที่เงินเฟ้อก็ปรับตัวลดลงจากต้นทุน แต่ด้านสินเชื่อ หนี้ครัวเรือน หนี้ประชาชนยังขยายตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะยังขยายตัวตามคาด เนื่องจากเศรษฐกิจยังขยายตัวในเกณฑ์ดี แต่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ที่ต่ำกว่าคาดไปมาก
ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเป้าหมาย ดังนั้น นโยบายการเงินจึงสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศ แต่ภายใต้ความเสี่ยงอุปสงค์ที่ยังดีอยู่ คณะกรรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 2.75% เป็น 2.50% ต่อปี
ฯลฯ