ทำไมฝรั่งชอบจัดอันดับ


ทำไมฝรั่งชอบจัดอันดับ


เร็วๆนี้มีการจัดอันดับ สตรีที่มีอิทธิพลสูงสุดในโลก  โดยนิตยสารเพื่อการค้า เอาละเรื่องโฆษณาตัวเองเอาไว้ก่อน  แต่ในภาพรวมจะเห็นว่าพวกฝรั่งมันชอบจัดอันดับกันจัง  จากมหาลัย ยันสตรี  ยันการโกงกิน (ซึ่งไทยเราก็ติดอันดับต้นๆ แม้มีสตรีอันดับสูงปกครองประเทศก็ตาม) 

นิสัยชอบจัดอันดับนี้ ผมว่า มันติดมาจากนิสัยการคิดเชิงเส้น (linear thinking) ของฝรั่ง กล่าวคือ พวกฝรั่งมันเป็นพวกซื่อบื้อ คิดอะไรแบบ “เถรตรง”  มองอะไรเป็นเชิงเส้นไปหมด ไม่ค่อยมี “ลูกเล่น” 

การจัดอันดับนี้ก็เป็นการจัดแบบเชิงเส้นนั่นเอง   1 2  3 4 5  .....

การคิดเชิงเส้นทำให้เกิดพระเจ้า สร้างโลก แล้วเกิดอะไรต่อๆ  มาเป็นลำดับแบบเส้นๆ 

ส่วนคนไทยเรามีลูกเล่น “แนวข้าง” มากกว่าฝรั่งมาก  เรามักคิดอะไรแบบคดเคี้ยวยอกย้อน และวกวน ไปมา บ่อยๆ  กลายเป็น เจ้าเล่ห์ไปเลย  แสดงออกเด่นชัดที่สุดในโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ของเรา รวมทั้งอาหารไทยที่มีรสชาติหลากหลายในจานเดียวกัน (ส่วนอาหารฝรั่งมักมีรสเดียว)

ศาสนาพุทธ หลักปฏิจจสมุปบาท ยอกย้อน พันกันไปหมด ไม่มีจุดเริ่มต้นง่ายๆ แบบเชิงเส้น แบบหลักการพระเจ้าของฝรั่ง

การคิดยอกย้อนหลายชั้นนั้นว่าไปแล้วน่าจะดี แสดงว่าฉลาด  แต่หากมากเกินไปมันก็พันกันนัวเนีย หาทางออกไม่เจอเหมือนกัน 

ทุนนิยม ก็เป็นผลพวงจากแนวคิดเชิงเส้น  แต่ พอเพียง  เป็นผลพวงของการคิดแบบวนซ้ำ

ถ้าเราเอาสองอย่างมาผสมกัน คงดีนะ (หรืออาจไม่ดีก็เป็นได้ ถ้าคิดให้ดีๆ  อิๆ)


...คนถางทาง (๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖)

ปล. อยากให้ฝรั่งมันจัดอันดับ ผู้นำสตรีที่เป็นหุ่นเชิดมากที่สุดในโลก สักทีได้ไหม อิอิ  เชื่อว่านางยกเราน่าถูกจัดเป็นอันดับสุดท้าย  ...เพราะมีผู้ได้รับการจัดอันดับเพียงคนเดียว


หมายเลขบันทึก: 537131เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2013 09:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2013 09:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอกระตุกหนวดเสือหน่อยเถอะครับ ผมพูดตรงๆ นะครับ ผมพนันว่าอาจารย์ไม่กล้าว่าคุณอภิสิทธิ์หรือคุณสนธิ (ลิ้มฯ) ด้วยโวหารเดียวกันกับที่อาจารย์ว่าคุณทักษิณหรือคุณยิ่งลักษณ์ครับ

ในฐานะคนที่ "born yesterday" ผมเชื่อว่าความเห็นทางการเมืองนั้นแตกต่างกันได้ แต่การให้เกียรติ์กันในฐานะมนุษย์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันนั้นสำคัญที่สุดครับ

โลกนี้ไม่มีคนดีหรือคนเลว สิ่งที่คิดว่าดีหรือเลวเป็นเพียงเพราะมาตราฐานที่แตกต่างกันของผู้ที่มอง (the observer)

อาจารย์หมอวิจารณ์ก็เป็นคนหนึ่งที่มีความเห็นทางการเมืองไม่ต่างจากอาจารย์ แต่อาจารย์วิจารณ์เรียกคุณทักษิณว่า ดร.ทักษิณ (อาจารย์เรียกแบบไม่ใส่ยศตำรวจ แต่ให้เกียรติ์ทางการศึกษา ซึ่งเข้าใจได้ในจุดยืนของท่าน) ผมคิดว่านั่นเป็นเทคนิคที่ดีที่ทำให้ผู้อื่นอ่านข้อเขียนของอาจารย์เพื่อเข้าถึงเนื้อหา ไม่ใช่เข้าถึงด้วยอารมณ์ครับ

ขอกระตุกหนวดเสือต่อ ผมเชื่อว่าอาจารย์อ่านความเห็นผมอันนี้แล้วอาจารย์อารมณ์เสีย จริงไหมครับ?

ไม่จริงครับ ดร. ธ.  เวลาผมเขียนถึงทักษิณอย่างเป็นทางการ ผมใส่ยศ. ดร. เสมอ (ผมออกแถลงการณ์ยิกทักษิณไปมากในช่วงวิกฤต)  บางทีก็มี พตท. ด้วย   (ตัวผมเองผมยังไม่เคยใส่ยศให้ตัวเองเลยครับ)  


ผมเป็นคนให้เกียรติผู้ที่ควรวให้เกียรติ แม้โดยตำแหน่ง แม้ยิ่งลักษณ์เวลาผม address เธออย่างเป็นทางการ ก็เรียกว่า ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์ ทุกคราว ไม่เชื่อไปค้นบทความในผจก. เก่าๆ ของผมดูสิครับ  

อภิสิทธิ์นั้น ผมก็วิจารณ์เสียหายมาหลายครั้ง ใน forward mail ที่ผมส่งไปยังเครือข่าย (ซึ่งมีอภิสิทธิ์รวมอยู่ในนั้นด้วย)   


สนธิ..ผมก็วิจารณ์แบบอ้อมๆ อยู่หลายครั้ง หวังว่าเขาคงพอรู้สึกได้   ที่ยังไม่วิจารณ์ตรง เพราะเขาเป็นพันธมิตรกับผมอยู่ โทรมาผมสองสามครั้งเพื่อขอปรึกษาหารือเรื่องต่างๆ   (ไม่โม้นะเนี่ย)  ..โธ่ เห็นใจผมบ้าง มิตรภาพมันก็ต้องพอมีกันบ้าง  ....แต่เมื่อสองสัปดาห์มานี้ ผมตัดสนธิออกจากเครือข่าย forward mail ผมแล้ว นะ   ...การเขียนใน ผจก. ของผมก็เลิกเขียนแล้ว    

อย่างไรก็ดี ผมยอมรับว่า ผมเอียงมาทาง ปชป. กับ สนธิ มากกว่า ทางเสื้อแดง ซึ่งเป็นไปตามที่อ.สุลักษณ์พูดไว้ ว่า เราต้องเลือก the lesser of the two evils (ผมไม่ได้ตามท่าน แต่คิดเองมานานแล้วว่ามันเป็นทางเืลือกที่เลวน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้)         แม้บางครั้งบางอาเจ็นด้า ผมจะอยู่ข้างเสื้อแดงก็ตามที   (ผมนี่เองที่เป็นคนสร้างวาทกรรม "เหลื่อมล้ำ"  ขึ้นมา...หลักฐานคือบทความใน ผจก. ถ้ามีนัก cybernatic historian ไปสืบค้นจะเจอ)   


ทักษิณ ผมก็ชมเขาหลายครั้งในบทความอันหลากหลาย  โดยเฉพาะในเรื่องที่เขาช่วยกระตุ้นการสนใจการเมืองไทย  ผมขอบคุณเขาในประเด็นนี้หลายต่อหลายครั้งมาก    ผมบอกด้วยว่าให้เขาโกงอีกกว่านี้สิบเท่า ก็ยังคุ้มถ้ามันทำให้คนไทยหันมาสนใจการเมือง ผมชมเขาว่าประวัิติศาสตร์การเืมืองไทย ไม่มีใครมีคุณูปการมากไปกว่าทักษิณด้วยซ้ำ  (เสียแต่ว่ามันมาแบบอ้อม)  ส่วน ยิ่งลักษณ์ ผมก็ชม   ในบทควาท ผจก. ด้วยซ้ำ (ทีแรกคิดว่าจะโดนเซ็นเซอร์ เพราะที่นั้นนิยมด่ายิ่งลักษณ์กันเป็นนิสัย)   ผมชมจริงๆ ด้วยนะ ไม่ได้ชมแบบเสียดสี 


โห...ว่าไม่โกรธนะเนี่ย แต่ตอบเสียยาวเลย    


แล้ว  บักแม้ว  นังปู    มันจะได้มาอ่านบทความนี้พอได้เข้าใจคนถางทางให้กระจ่างขึ้นบ้างไหมเนี่ย...ว่าคนนี้ ไม่ซ้าย ไม่ขวา และไม่กลางด้วย


บทความของผมเปรียบขนม  ถ้ามันจะอร่อย หรือกร่อย  ขอให้มันเป็นไปตามเนื้อแท้ของมันเถิด ไม่จำเป็นต้องห่อด้วยกระดาษหอมเพื่อหลอกล่อให้น่ากินหรอก...นั้นคืออุดมคติของผมตลอดมา 

ผมเคยวิจารณ์รบ. อภิสิทธิ์ รุนแรงหลายครั้งในบทความ ผจก.   เท่าที่จำได้คือ เรื่อง การสืบทอดนโยบายลงทุนจากต่างชาติ (จำได้ว่าผมด่าตรงๆว่า "โง่" พร้อมเสียดสีว่า เสียดายจบเศรษฐศาสตร์มาจากอ๊อกฟอร์ด)    อีกเรื่องคือ เรื่องยอมเขมรให้ทำร้ายคุณ วีระ ราตรี  ด่ากันแบบไม่เกรงใจ ลองไปหาอ่านดูได้ครับ 

อืมม.... จุดอ่อนที่ผมวิพากษ์ข้อเขียนของอาจารย์คือผมไม่ได้อ่านสิ่งที่อาจารย์เขียนในที่อื่นด้วยแล้วด่วนสรุปครับ ผมไม่อ่านเว็บผู้จัดการเลยเพราะผมไม่ชอบ hate speech ครับ เป็นสาเหตุเดียวกันที่ทำให้ผมไม่ใช้ Facebook และ Twitter เว็บหนังสือพิมพ์ไทยทั้งหมด และเว็บไทยโดยส่วนใหญ่ ที่จริงแล้วผมตกข่าวไทยๆ ไปเยอะมากเพราะความพยายามหลีกเลี่ยง hate speech นี่ละครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท