พลังในกาย

วันก่อน ได้มีโอกาสไปเปิดงานประชุมหนึ่ง

เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องเป็นผู้เปิดการอบรม จึงต้องเตรียมตัวอย่างดี ร่างไว้เป็นโครงแล้วพูดตามนั้น (พูดตามนั้นคือ พูดตามที่เขียนเป็นโครง ไม่ได้อ่านตามตัวอักษร) กลับมาอ่าดูแล้วรู้สึกดี จึงเอามาเก็บไว้ในนี้

___________________________________________________________

ปกติจะเป็นวิทยากร แต่วันนี้ต้องมาเป็นผู้เปิดงาน เป็นคนที่ต้องพูดคนแรกในการประชุม

เรียนคณะผู้จัดงาน และผู้ร่วมประชุม หรือร่วมรับการอบรม หรือผู้ร่วมพัฒนาศักยภาพของตน

ที่เรียกว่าพัฒนาศักยภาพ ก็เพราะว่า ทุกๆคน ล้วนมีพลังพิเศษอยู่ภายใน พลังแห่งความดี พลังที่พร้อมจะส่งออกไปเพื่อผู้อื่น พลังที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ 

การแพทย์ การพยาบาลในยุคปัจจุบัน มีการพัฒนาไปมากกว่าสมัยก่อน เทคโนโลยีต่างๆทำให้การวินิจฉัยรวดเร็วและแม่นยำขึ้น การักษาและารพยาบาลก็พัฒนาไปอย่างมากและรวดเร็ว บางครั้งมันเร็วมากเสียจนกระทั่งเราวิ่งจนหอบเหนื่อยแล้วยังตามเกือบไม่ทัน

และหากลองสังเกตดูสักนิด จะพบว่า เทคโนโลยีที่กระโดดไปนั้น มันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงทางกายภาพทั้งสิ้น เทคโนโลยีไม่เคยที่จะเข้าไปสัมผัสถึงจิตใจคนได้เลย ไม่แม้จะรู้สึกแทนกันได้หรือตัดสินใจให้กันได้ด้วยซ้ำ

และหลายๆครั้ง เทคโนโลยีกลับทำให้คนเราห่างไกลกันออกไปอีกแม้ว่าอยู่ใกล้กันเพียงแค่ยื่นมือถึง

เคยไหม ที่ครั้งหนึ่งเราเจ็บป่วย เพียวแค่มือแม่ที่คอยเช็ดตัวให้ นวดให้ มันกลับทำให้ร่างกายเราลดความเจ็บป่วยและผ่อนคลายได้ดีไปกว่ายาพาราเซตามอลเสียอีก ทั้งๆที่แม่ไม่ได้เป็นหมอ แต่แม่กลับทำให้เราสบายกายสบายใจได้มากว่าหมอ แม่ไม่ได้รักษาโรคของเราด้วยความรู้ทางการแพทย์ แต่แม่ใช้พลังที่อยู่ภายในของแม่ มาช่วยประคับประคองเราให้เราสามารถผ่านพ้นวิกฤติจากความเจ็บป่วยได้ หรือจะเรียกพลังนั้นว่า พลังของความรักก็คงไม่เชยจนเกินไป

นี่กระมังที่เขาบอกว่า แม่ใช้หัวใจดูแลเรา 

วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่สุด ที่มีการจัดการอบรมเรื่อง การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจแห่งมนุษย์

ผมเชื่อว่าการอบรมนี้ จะช่วยทำให้ทุกท่านฝึกใช้ศาสตร์ทางด้านจิตใจ ลดความเร็วของจังหวะชีวิตลงอีกสักเล็กน้อยเพื่อที่จะได้ชื่นชมกับคำว่าชีวิต ชื่นชมกับชีวิตของคนแต่ละคน เพื่อนมนุษย์ที่ล้วนมีที่มาที่แตกต่างหลากหลาย ให้หัวใจของเราได้สัมผัสถึงหัวใจของคนอื่น รับรู้ความทุกข์ความสุข ความเจ็บป่วยหรือความสบายผ่อนคลาย ร่วมกันประคับประคองผู้ป่วยเพื่อให้เขาได้ผ่านพ้นวิกฤติทางสุขภาพโดยใช้พลังพิเศษที่มีอยู่ในคนทุกคน 

แล้วทุกท่านจะพบว่า การให้บริการที่ใช้มิติทางจิตใจมาผสมผสานกันนั้นเราเองก็จะรู้สึกปิติได้อย่างมากเช่นเดียวกัน

บัดนี้ได้เวลาแล้ว ผมขอถือโอกาสนี้เปิดการอบรมครับ

___________________________________

เป็นไงครับ คลื่นไส้ดีไหม

[ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์]

ดีมากๆ เลยนะ เห็นภาพค่ะ

[ธนพันธ์ ชูบุญ]

คลื่นไส้ไหมจัน

[โอ๋-อโณ]

เห็นด้วยว่าควรเอามาเก็บไว้ค่ะ เป็นการเตือนสติที่ดีมากและพี่โอ๋ว่าเป็นสิ่งที่ควรพูดกันบ่อยๆ ทุกวันนี้ชีวิตรอบๆตัวมันชวนให้คนลืมเรื่องดีๆแบบนี้ไปค่ะ ลืมคิดไปว่าอะไรที่สำคัญจริงๆกับชีวิตตัวเองและคนรอบๆตัว