เห็นคนอื่นเห็นตนเอง
จากเสี้ยวเล็ก ๆ ของเรื่องราวที่ได้เข้าไปสัมผัส
หนูได้เรียนรู้อะไร
เหมือนมีใครคนหนึ่งมาเป็นกระจกบานใหญ่ สะท้อนใจชั่ว ๆ ของหนู เดินซ้ำรอยจิตชั่วที่หนูเคยทำแล้ว
หรือบางคราก็ยังทำอยู่ ได้แต่กดแต่เหยียบตัวจิตชั่วไว้
ครั้งนี้น้องทำออกมาให้เห็น จิตข้างในหนูหวาดกลัวมากที่จะเป็นอย่างน้อง เพราะใจรู้ รู้แบบรู้สึกเลยว่า
"ทำทางไปนรก"
ทำกรรมหนักเสียแล้ว
ครูหยิบยื่นโอกาสให้ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการช่วยเหลือ
ทำเสร็จรู้เลยว่าพลาด เพราะประมาท ไม่ตั้งใจ เมตตาไม่พอ
ไม่ใช่เลยหนูไม่มีความเมตตา
แทนที่จะลุยหน้าช่วย โดนตัวชั่วเขาแสกหน้าแหกมา
ข้างในคิด "ฮ่วย มันน่าช่วยไหมนี่"
มัวแต่เงอะ ๆ งะ ๆ ทำให้ครูทำงานยากขึ้น
พอได้ภารกิจใหม่ ไปเป็นกระบอกเสียกระจายตีแผ่ความจริง
การหยุดความชั่ว คือ ตีแผ่ความชั่วของเขาเพื่อให้เขารู้สึกตัว
จี้เข้าไปที่ keyman ที่น่าจะเกี่ยวข้อง
วิธีนี้ทำให้หนูได้เรียนรู้ว่า
ค่อย ๆ จี้ เคาะ ๆ แงะ ทำให้ เข้าใจอะไร เห็น อะไรได้ชัดขึ้น
สุดท้ายสถานการณ์ค่อย ๆ งวดขึ้นเรื่อย ๆ
ครูบาอาจารย์ทำงานเป็นทีม แบบทำให้ดู เรื่องการให้ข้อมูล
ให้กำลังใจ ใส่ใจ นุ่มนวล หนักแน่นเฉียบขาด
บางจังหวะมีบางอย่างมาแทรกแซง
การตัดสินใจเชื่อแนวทางที่ครูบาอาจารย์ชี้แนะ
อย่างแน่วแน่ ทำให้การทำงานมั่นคงหนักแน่นไม่จำกัดวิธี
ใจเราจะพร้อมใช้ทุกศักยภาพที่มีเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
ใจหนูระลึกถึงน้องก็รู้สึก สงสาร
หนูเข้าใจแล้วที่ครูพูด ให้สติหนูตอนหนูเพี้ยน ๆว่า
น่าเวทนา มันคิดว่ามันเก่ง มันคิดว่ามันแน่
มันน่าเวทนาอย่างนี้จริง ๆ เจ้าค่ะ
พึ่งเข้าใจ
และลงใจกับทุกคำสอน ทุก ๆ ครั้งที่ครูสะกิดให้สติ
คือความเมตตาช่วยเหลืออย่างเต็มที่สุดกำลัง
สาธุเจ้าค่ะ
ไม่มีความเห็น