จากประสบการณ์ในที่ทำงาน ณ ปัจจุบัน โดยเฉพาะคลุกคลีกับเรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคลมานานถึง ๒๕ ปี...ทำให้ผู้เขียนได้พบปะกับปัญหาโดยเฉพาะ เรื่อง คน หรือ HR บ่อยมาก ณ ปัจจุบัน จากในแวดวงการของคน HR ชอบพูดกันบ่อยเรื่องเกี่ยวกับในที่ทำงานซึ่งจะแบ่งออกเป็น ๓ กลุ่ม หรือ ๓ Generation ซึ่งได้แก่ Baby Boomer, Generation X, Generation Y เนื่องจากคน ๓ กลุ่ม หรือ ๓ วัยนี้ เป็นวัยที่มีความแตกต่างกัน โดยต่างกันทั้งความคิด ความเชื่อ ความรู้ ความสามารถ ค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน สำหรับการทำงานหรือการบริหารจัดการกับคนทั้ง ๓ วัยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละวัยมีรูปแบบการทำงานและชีวิตการทำงาน (Life Style) ที่แตกต่างกัน
การแบ่งกลุ่มคนทำงานทั้ง ๓ กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีคุณลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน ได้แก่
กลุ่มที่ ๑ Baby Boomer คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๙ - ๒๕๐๗ จะเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อการทำงาน เคารพกฎเกณฑ์ กติกา อดทน ให้ความสำคัญกับผลงาน แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำงานหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว มีความทุ่มเทกับการทำงานและองค์กรมาก คนกลุ่มนี้จะไม่เปลี่ยนงานบ่อย เนื่องจากมีความจงรักภักดีกับองค์กรอย่างมาก
กลุ่มที่ ๒ Generation X คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๘ - ๒๕๒๒ มีลักษณะพฤติกรรมชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการให้ความสำคัญกับเรื่องความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว (Work - Life Balance) มีแนวคิดและการทำงานในลักษณะรู้ทุกอย่างทำทุกอย่างได้เพียงลำพัง ไม่พึ่งพาใคร มีความคิดเปิดกว้าง พร้อมรับฟังข้อติติง เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง
กลุ่มที่ ๓ Generation Y คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๒๓ - ๒๕๔๓ เป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี เป็นวัยที่เพิ่มเริ่ม เข้าสู่วัยทำงาน มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบ และไม่ชอบเงื่อนไข คนกลุ่มนี้ต้องการความชัดเจนในการทำงานว่า สิ่งที่ทำมีผลต่อตนเองและต่อหน่วยงานอย่างไร อีกทั้งยังมีความสามารถในการทำงานที่เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารและยังสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน
บางหน่วยงาน ก็จะมี ๔ Generation คือ กลุ่มลายคราม คำว่า ลายคราม...ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษา หรือเป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ คนกลุ่มนี้จะมีผู้คนนับหน้าถือตามากมาย อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานอันยาวนานของพวกเขานั่นเอง คนกลุ่มนี้จะเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ จะยุติ จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มีทรัพยากรที่จำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน มักมีคุณลักษณะที่มั่นคงเชื่อใจได้ สู้งานหนัก ใช้จ่ายอย่างรู้คิดและภักดีต่อองค์กรสูง
ในเมื่อตัวเราทราบถึงสภาพการณ์ของคนแต่ละช่วงแล้ว และเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ใครมีค่านิยมในชีวิตอย่างไร ก็สามารถสร้างสะพานข้ามช่องว่างเพื่อข้ามไปหากันได้ สำหรับสูตรสร้างสะพานข้ามช่องว่างระหว่างวัย มีอยู่ ๓ ขั้นตอน คือ
๑ เข้าใจถึงความแตกต่าง ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อ หรือทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนคุณ เขาไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป
๒. ชื่นชมจุดดีแทนที่จะต่อต้านให้เราลองมองหาจุดเด่นของคนในแต่ละกลุ่มให้พบ
๓. บริหารความแตกต่าง เปลี่ยนวิธีการสื่อสารให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มที่เราต้องทำงานด้วยให้ได้
ทำงานกับกลุ่มลายคราม :
จงให้เกียรติและให้ความเคารพอย่างสูงต่อพวกเขา เมื่อคุณให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะให้เกียรติคุณ แล้วถ้าบังเอิญคุณมีตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา จงแสดงความชื่นชมต่อเขาในด้านการเป็นเสาหลักขององค์กรและจงรับฟังเมื่อพวกเขาถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีต การต่อสู้ ความพากเพียรในการทำงานจนผ่านพ้นความยากลำบากมาได้ เพราะสิ่งนั้นคือ สิ่งที่คนรุ่นหลังไม่มี และไม่รู้จัก อย่ามองว่า...กลุ่มลายคราม คือ หมาล่าเนื้อไม่มีที่ไป แต่การที่พวกเขาทำงานอยู่จนถึงวัยเกษียณนั้น เป็นเพราะพวกเขา เชื่อในคุณค่าของความมั่นคงและถือความซื่อสัตย์เป็นที่สุด
ทำงานกับกลุ่ม Baby Boom :
จงแสดงความนับถือ รับฟัง และเรียนรู้จากประสบการณ์ของ Baby Boom แล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะเก่งกาจแค่ไหน หรือคุณจะประสบความสำเร็จเพียงใด คุณก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนัก คือ การถูกเอาเปรียบ เพราะ Baby Boom ให้ความสำคัญต่อหลักการทำงาน ยึดถือวัฒนธรรมองค์กร และเห็นคุณค่าต่อการทำงานอย่างทุ่มเท หากต้องทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ซึ่งบริหารงานโดย Baby Boom ควรพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรเสียก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะเสนอความคิดริเริ่มเพื่อการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แก่ Baby Boom
ทำงานกับกลุ่ม Generation X :
ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจนและไม่อ้อมค้อม เพราะ Generation X ชอบความตรงไปตรงมา คุณสามารถใช้ e - mail กับคนกลุ่มนี้ได้ หากคุณสามารถสื่อสารได้ใจความและตรงเป้าหมาย หากเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ควรพูดต่อหน้า เพราะ Generation X ไม่ชอบถูกบงการ ผู้ใหญ่แค่ให้นโยบายกว้าง ๆ เปิดโอกาสให้เขาได้แก้ปัญหาเองจะดีที่สุด ส่วน Baby Boom ควรลดความคาดหวังต่อ Generation X ในการทำงานหนักอย่างเดียวโดยไม่มีวันหยุด หรือก้าวไปอย่างช้า ๆ อย่างรุ่นตน เพราะ Generation X ต้องการชีวิตที่สมดุล ไม่ชอบการอยู่ติดที่
ทำงานกับกลุ่ม Generation Y :
ลองท้าทายพวกเขาด้วยภารกิจใหม่ ๆ คนกลุ่มนี้จะชอบความเป็นคนสำคัญ การเพิ่มความรับผิดชอบ เสมือนการให้คำชม จงเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ ได้แสดงความคิดเห็นของเขา เห็นพวกเขาเป็นสวนหนึ่งในทีม ผู้ใหญ่ที่ยอมรับความคิดเขา ก็จะได้รับการยอมรับจากพวกเขาเช่นกัน คนกลุ่ม Generation Y ชอบให้คุณแสดงออกต่อสิ่งที่พวกเขาทำทุกขณะจิต เพราะความรู้สึกและความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงาน มีผลต่อพวกเขามาก
แค่คนทุกกลุ่มเข้าใจกัน...ก็จะทำให้การทำงานทุกอย่างลงตัว...แล้วผู้อ่านละค่ะ เกิดอยู่ในกลุ่มคนแบบไหน? แล้วทำให้การทำงานทุกอย่างลงตัวแล้วหรือยัง?
ข้อมูลจาก : http://www.lukkidthai.com/News/article09.html
การทำงาน..เหมือนการ..ตั้งค่า..สมการ..(ความสำเร็จ)..คือ..ผลการที่ บรรลุ..สู่เป้าหมาย..ตามแผน..ของแต่ละบุคคล..ที่มีมวลอันเป็นสมการร่วมกัน...
ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะ
เข้าใจคนที่เราทำงานด้วยมากขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
บางคนมีอีโก้สูงมาก ก็จะไม่ค่อยยอมรับสิ่งที่ดีกว่า
ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น + ให้ดอกไม้กำลังใจด้วยค่ะ