คิดคนละอย่าง เพราะ ต่างอยู่คนละมุม



การรับรู้(Preception)เป็นผลเนื่องมาจาการที่เราใช้อวัยวะรับสัมผัส (Sensory motor) ซึ่งเรียกว่า เครื่องรับ (Sensory) ทั้ง 5 ชนิด คือ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังเมื่อรับรู้แล้ว เราก็จะ ประเมินสิ่งที่รับรู้นั้นจาก พื้นความรู้เดิม  ทัศนคติ  ความคิด ความรู้สึกความเชื่อ ความศรัทธา  จากนั้นก็ส่งการแปลความการรับรู้นั้นมาเป็นความรู้สึก  และการแสดงออก  ซึ่งหมายถึงการกระทำที่เกิดจากการที่เรารู้สึก 

  การรับรู้นั้นจะ เป็นความจริงมากที่สุดก็ต่อเมื่อได้สัมผัสสิ่งนั้น ครบสัมผัสมากที่สุด  คือครบทั้งรูป รส กลิ่น เสียง  สัมผัส  สำหรับความแปรปรวนที่เกิดนั้น เกิดจาก การประเมินการรับรู้ ของเราเอง  ซึ่งการประเมินนี่แหล่ะทีมีอิทธิพลมาก ที่จะทำให้เราคิด หรือแสดงออกต่อการรับรู้ในทาง บวกหรือทางลบ  ซึ่ง มีคนเคยวิจัยไว้ว่า  การรับรู้ของคนเกิดจากการเห็น 75% จากการได้ยิน 13% การสัมผัส 6% กลิ่น 3% และรส 3 %  เห็นได้ว่าจะเพียงแค่ตาเราที่มองเห็นนั้น มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเรามากเกินครึ่งไปแล้ว  เมื่อมาบวกกับการประเมิน ผลที่มีความแปรปรวนสูงนั้น จึงมักทำให้เรามักเห็นแต่ความผิดพลาด ข้อบกพร่อง หรือเปลือกนอกที่เห็น  ซึ่งมักเป็นความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น  แต่ตาของเราไม่สามารถมองตัวเราได้ทั่วทั้งตัว  แต่เราได้ยินเสียงตัวเอง  สัมผัส  รู้รสและกลิ่นของตัวเราเองได้ดีกว่า  แต่กระนั้นทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง  นั่นแหล่ะที่ทำให้เราเข้าข้างตัวเองมากกว่า คิดบวกกับตัวเอง กลับลบคนอื่นและสิ่งอื่นที่เห็น

  อีกทั้งในมุมที่เรามอง มักไม่เป็นคนละมุมกับคนอื่น จึงไม่แปลกเลยที่เราจะคิดต่าง  หรือคนอื่นจะคิดได้ขัดแย้งกับเรา  จึงไม่มีความคิดของใครที่ผิด หรือที่ถูก เป๊ะ เสมอไป  แต่จะเป็น คิดหรือเข้าใจได้ตรงกันหรือไม่เท่านั้นเอง  บางครั้งในมุมที่เรามองคนอื่นนั้นเราก็รู้สึกว่าทำไมเขาไม่คิด ไม่เห็น ไม่ทำ แบบเรานะ  และก็พาลตัดสินว่า  ไม่ถูกไม่ต้องไปซะงั้น  ในขณะเดียวกัน  เมื่อเราอยู่ในจุดๆนั้น เรากลับรู้สึกว่า  ทำไมคนอื่นไม่เข้าใจความรู้สึกของเรา นะ ทำไมถึงตัดสินเราจากความรู้สึกของเขา นะ 

  เพราะมาตรวัดความรู้สึกของเราไม่เท่ากัน ซึ่งมาจากการรับรู้ที่แตกต่างกัน  และมุมที่ยืนคนละตำแหน่ง นั่นเอง ดังนั้นเราจึงไม่พึงตัดสินสิ่งที่เราเห็นเพียงการรับรู้อย่างเดียว  แต่ควรเรียนรู้เพิ่ม ให้ครบทุกแง่มุม หรือหากไม่อยากเรียนรู้เพิ่มก็อย่าด่วนสรุปประเมินจากสิ่งที่เรารับรู้เพียงอย่างเดียว ควรวางความรู้สึกให้เป็นกลาง  แล้ว ความรู้สึกขุ่นข้องหมองใจก็จะไม่มีในจิตใจเรา ว่าทำไมใครๆคิดได้ไม่เหมือนเรา

ชลัญธร  


หมายเลขบันทึก: 534833เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 18:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 18:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สิ่งที่เป็นประเด็นต่างๆ คือ ต่างคนต่างมองแต่มุมของตนเอง ไม่เคลื่อนย้ายมามองในมุมตำแหน่งอื่นๆ บ้าง

แต่ละคนมองมุมที่ตนเองเป็นศูนย์กลาง พยายามมองรอบด้านบ้าง ปัญหาต่างๆ คงลดน้อยลง

มองต่างมุม ต่างมิติ ต่างเวลา ต่างสถานการณ์ เลยเป็นความคิดที่แตกต่าง

แต่ก่อนอื่น คิดบวกไว้ก่อนค่ะ

คิดถึงนะจ๊ะ

คิดถึงอยู่เช่นกัน...สบายดีนะครับ

  ขอบคุณนะค่ะที่ให้กำลังใจ  หากเราทำใจให่้เป็นกลาง ปัญหาต่างๆจะลดลงจริงค่ะ 

     ขอบคุณค่ะที่มาให้กำลั้งใจ คิดถึงเช่นกันค่ะ 

  

ขอบคุณทุกท่านนะค่ะที่มาให้กำลังใจในบันทึกนี้ 

อย่าห่างหายไปนานนะครับ คุณชลัญ

เป็นกำลังใจให้ทุกแนวคิดน่ะครับ

ขอบคุณค่ะท่าน   คิดถึงนะค่ะ 

เราก็เป็นคนธรรมดาที่มีความคิดเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแม้ว่าบางครั้งเป็นเรื่องเดิมที่ต่างแค่กาลเวลา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท