วันนี้ตอนอาหารเที่ยง
ผู้เขียนสังเกตเห็นหลานสาวตัวน้อย อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นเด็กร่าเริง ช่างพูดช่างคุยไม่หยุด เงียบผิดปกติ เหลือบตามอง เห็นนั่งจ้อง "เฟอร์บี้" ที่กำลังเห่อนิ่งอยู่ จึงไม่ทักถาม ทานอาหารต่อไปได้สักพัก ได้ยินเสียงพี่สาวซึ่งเป็นคุณยายของสาวน้อยว่า
คุณยาย : ทำไมไม่กินล่ะ เดี๋ยวหมี่เย็นหมด
หลานสาว : เงียบ... ไม่ตอบ
คุณยาย : เป็นอะไร เดี๋ยวปวดท้องนะ ไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน่ะ
หลานสาว : ฮือๆๆๆ ไม่ิกิน หนูไม่กิน... เสียงร้องไห้ดังขึ้นๆๆ
คุณยาย : ก็ทำไมล่ะ หนูเคยชอบนี่ เป็นอะไร
หลานสาว : ฮือๆๆๆ หนูกลัวฟันหลุด หนูกลัวเจ็บๆ เสียงบอกพร้อมเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเรื่อยๆ อ้อ...ฟันน้ำนมของเธอโยกใกล้หลุดและเธอกลัวหมอฟันเป็นชีวิตจิตใจ
คุณยาย : ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวม่า(ภาษาจีนแต้จิ๋ว-ยาย) จัดการให้ก็ได้ ดึงทีเดียวหลุด ไม่เจ็บหรอก... เสียงปลอบใจ
หลานสาว : ไม่เอาๆๆๆ ฮือๆๆๆๆๆ คราวนี้ยิ่งร้องไห้เสียงดัง
คุณยาย : ฟันโยกแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้... เสียงคุณยายปลอบ แต่เสียงร้องไห้ยังคงต่อเนื่อง
ผู้เขียนในฐานะคุณยายน้อยนั่งฟังอยู่นาน จึงพยักหน้าให้คุณยายถอยออกมาก่อน ปล่อยให้ร้องไห้ระบายความทุกข์ใจไปสักพักก่อนแล้วค่อยคุยจะดีกว่า และดูเหมือนจะได้ผล หลังร้องไห้อยู่ 2-3 นาที เสียงค่อยเบาลงๆ คราวนี้ผู้เขียนจึงเข้าไปปลอบอีกคน อธิบายให้ฟังว่า ฟันน้ำนมหลุดเป็นเรื่องดีนะ ฟันแท้จะได้ขึ้นมาได้ ไม่เกิดฟันคุด ต้องไปผ่าฟันเหมือนอี้โน้ตกู๋นัฐ ที่เจ็บๆ ไง สาวน้อยพยักหน้าเช็ดหน้าเช็ดตาค่อยละเลียดอาหารกลางวันจนเกือบหมด
สงสารก็สงสารขำก็ขำ หลานสาวตัวน้อยกลัวฟันจะหลุด บวกกับความกังวลใจที่เธอเคยได้ยินว่าน้าสาวน้าชายต้องไปผ่าฟันคุดแก้มโย้ทานอะไรไม่ได้หลายวัน ถึงกับร้องไห้เสียงดัง ทั้งที่เป็๋นคนรื่นเริงอารมณ์ดีมาตลอด อมยิ้มชอบใจประโยคที่คุณยายบอกหลานสาวตัวน้อยว่า "ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"
แค่ประโยคสั้นๆนี้.... แสดงถึงความรักและพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงมั่นใจในวิกฤตการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ของสาวน้อยแล้ว...
สาวน้อยยังเด็กนัก แค่ความเจ็บปวดจากฟันโยกก็ทุกข์ใจมากแล้ว เธอยังไม่รู้ว่าการมีชีวิตในโลกนี้ต้องประสบกับความเจ็บปวดอีกหลายรูปแบบ แต่ก็ดีใจที่เธอโชคดีที่อยู่ในครอบครัวซึ่งเปี่ยมด้วยความรักต่อเธอ แม้ต่อไปจะต้องประสบกับเรื่องราวใด เชื่อได้ว่าเธอต้องผ่านมันไปได้อย่างดี
ครอบครัวนี่แหละคือกำลังใจ ที่ช่วยโอบอุ้มเกื้อกูลเราในทุกสภาวะ ไม่ว่าสุข ทุกข์ เศร้า เหงา ....
"ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"
ตอนนี้น้องป่านลูกชายพี่ดาก็กำลังเริ่มพบหมอฟันผ่านไป 2 ครั้งแล้ว จะเกิดสงครามในปากกันทีเดียวทำหลายอย่างมาก ทำให้คิดถึงพี่แพรตอนเด็กๆกลัวหมอฟันมาก ร้องไห้เสียงดังจนหมอโกรธเลยกับการฉีดยาชา ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
เรื่องของการปวดฟันนี่ เป็นเรื่องที่ทรมานมากค่ะ
ตอนลูกชายเล็ก ๆ ก็มีปัญหาตอนจะผลัดจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้
ถึงตอนนี้ก็ยังกลัวหมอฟัน ไม่รู้จะหาวิธีไหน ที่จะให้เขาไปหาหมอฟันได้
เป็นกำลังใจให้หลานสาวตัวน้อย และ ม่า นะคะ
ขอบคุณกำลังใจของพี่ กานดาน้ำมันมะพร้าว ที่ส่งให้น้องโบว์ค่ะ
คุยกับเพื่อนว่าปัญหาเกี่ยวกับฟันที่พบมากในปัจจุบัน คือเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ต้องผ่าฟันคุด/ดัดฟัน อาจเป็นเพราะฟันน้ำนมไม่หลุด (การดูแลฟันของพ่อแม่ยุคใหม่ดีขึ้นมาก) ทำให้ฟันแท้งอกออกมาไม่ได้จึงคุดอยู่ในเหงือก หรือไม่ก็ฟันเกฟันเหยินเพราะฟันมากกว่าพื้นที่เหงือกจนต้องดัดฟัน เกิดจากโครงสร้างกรามของเด็กเปลี่ยนไป เพราะพ่อแม่นิยมให้ลูกนอนตะแคง หัวจะได้ทุยสวย ส่งผลให้กรามเล็ก ไม่พอให้ฟันแทัขึ้นค่ะ :)
สวัสดีค่ะคุณครู อิงจันทร์ ณ เรือนปั้นหยา
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ตอนเด็กๆ แม้จนอายุขนาดนี้แล้ว ก็ยังกลัวๆ หมอฟันค่ะ
ประสบการณ์วัยเด็กนี่ฝังใจจริงค่ะ ;)
อ่านแล้ว อบอุ่น ครับ...
น่ารักจังค่ะ
คุณยายทั้งสองก็อบอุ่นเหลือใจ ....หนูน้อยโชคดีจังเลยค่ะ
ฝันดีนะคะ
"ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"
อ่านแล้ว ชื่นใจคะ
รู้สึกว่า หมอฟัน กับคนไทย (บางส่วน) นี่ เป็นอะไรที่ไม่ค่อยถูกทางกันนะคะ
ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราๆ นี้ยังไม่อยากไปเลย.....
สมัยเด็กๆ ก็เป็นเหมือนกันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ พ.แจ่มจำรัส
ขอบคุณมากค่ะ :)
สวัสดีค่ะพี่ Bright Lily
น้องคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีค่ะที่เกิดในครอบครัวนี้ ความรัก ความอบอุ่น ความเมตตาอาทรกัน ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาโดยตลอด ที่บ้านตั้งแต่รุ่นแม่ยังมีชีวิตอยู่ท่านบอกเสมอว่า... "บ้านเราไม่ตีลูกหลานนะ ดังนั้นเราต้องดูแลสั่งสอนเขาดีๆ รักเขามากๆ เขาจะได้ไม่ดื้อไม่ซนไม่ทำตัวมีปัญหา..." ค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาทักทาย ฝันดีทุกๆคืนเช่นกันค่ะ :)
สวัสดีค่ะคุณกระติก~natachoei ที่ ~natadee
ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
เราถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กเลยนะคะ เรากลัวหมอ หมอฟัน ตำรวจ... และอื่นๆ ปัจจุบันหมอฟันเก่งๆเพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยมากเลยค่ะ แต่เราก็ยังกลัวอยู่นั่นเองค่ะ :)
ครอบ........ครัว
แวะมาชื่นชม...คุณยายน่ารักมากนะคะ...
สวัสดีค่ะคุณ tuknarak
ขอบคุณมากค่ะ น้องโบว์หลานสาวตัวน้อย ยิ้มแป้นเลยค่ะเมื่อเปิดคอมเม้นท์นี้ให้อ่านค่ะ :)
สวัีสดีค่ะอ.ดร. พจนา แย้มนัยนา
ตอนที่ได้ยินประโยคและน้ำเสียงหนักแน่นของคุณยายที่พูดกับหลานสาวแล้ว ยิ้มเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ :)
เป็นบันทึุกครอบครัวที่น่ารักมากครับ ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณค่ะ Dr. Pop
ดีใจที่มาอ่านและให้กำลังใจไว้ค่ะ :)
ปล่อยให้เขาร้องไห้...
นั่นคือวิธีการที่ธรรมชาติ มอบมาให้แต่ละคนได้ใช้บำบัดตัวเอง...
ภายใต้การมีพี่เลี้ยงที่ดี...
...ขอบคุณครับ
อ่านแล้วรู้สึกหลงรักอาม่าไปด้วยค่ะ
ก๊อกๆ อย่าลืมส่งการบ้านวันนี้วันสุดท้ายนะคะ
กำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ให้ได้ง่าย หากแต่ต้องจริงใจ เช่นบันทึกนี้ นะครับ
..
หลานสาว น่ารัก ดูแววตา มุ่งมั่นมากเลยนะครับ
ขอบคุณ คุณหยี่งรากฯ ครับ
+ สวัสดีค่ะ...
+ มาชื่นชม..โอบกอด..ความอบอุ่นของคนบ้านนี้ค่ะ...
+ อ่านไปยิ้มไปเลยนิ...เข้าใจ..ลึกซึ้งกะอารมณ์สาวน้อยค่ะ...
+ เพราะสาวน้อยที่บ้านก็เป็นเช่นนี้แล...ซี่แรก ๆนะค่ะ..ซี่หลัง ๆ หล่อนเริ่มชินและเข้าใจชีวิตมากขึ้น..
+ นั่นคือ ประสบการณ์ค่ะ...
+ ด้วยความคิดถึงค่ะ