...เป็นกำลังใจให้นะ...(2-147)


"ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"


วันนี้ตอนอาหารเที่ยง

           ผู้เขียนสังเกตเห็นหลานสาวตัวน้อย อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นเด็กร่าเริง ช่างพูดช่างคุยไม่หยุด เงียบผิดปกติ เหลือบตามอง เห็นนั่งจ้อง "เฟอร์บี้" ที่กำลังเห่อนิ่งอยู่ จึงไม่ทักถาม ทานอาหารต่อไปได้สักพัก ได้ยินเสียงพี่สาวซึ่งเป็นคุณยายของสาวน้อยว่า

คุณยาย : ทำไมไม่กินล่ะ เดี๋ยวหมี่เย็นหมด

หลานสาว : เงียบ... ไม่ตอบ

คุณยาย :  เป็นอะไร เดี๋ยวปวดท้องนะ ไม่กินอาหารให้ตรงเวลาน่ะ

หลานสาว : ฮือๆๆๆ ไม่ิกิน หนูไม่กิน... เสียงร้องไห้ดังขึ้นๆๆ

คุณยาย : ก็ทำไมล่ะ หนูเคยชอบนี่ เป็นอะไร

หลานสาว : ฮือๆๆๆ หนูกลัวฟันหลุด หนูกลัวเจ็บๆ เสียงบอกพร้อมเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นเรื่อยๆ อ้อ...ฟันน้ำนมของเธอโยกใกล้หลุดและเธอกลัวหมอฟันเป็นชีวิตจิตใจ

คุณยาย  :  ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวม่า(ภาษาจีนแต้จิ๋ว-ยาย) จัดการให้ก็ได้ ดึงทีเดียวหลุด ไม่เจ็บหรอก... เสียงปลอบใจ

หลานสาว : ไม่เอาๆๆๆ ฮือๆๆๆๆๆ คราวนี้ยิ่งร้องไห้เสียงดัง

คุณยาย  : ฟันโยกแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้... เสียงคุณยายปลอบ แต่เสียงร้องไห้ยังคงต่อเนื่อง





           ผู้เขียนในฐานะคุณยายน้อยนั่งฟังอยู่นาน จึงพยักหน้าให้คุณยายถอยออกมาก่อน ปล่อยให้ร้องไห้ระบายความทุกข์ใจไปสักพักก่อนแล้วค่อยคุยจะดีกว่า และดูเหมือนจะได้ผล หลังร้องไห้อยู่ 2-3 นาที เสียงค่อยเบาลงๆ คราวนี้ผู้เขียนจึงเข้าไปปลอบอีกคน อธิบายให้ฟังว่า ฟันน้ำนมหลุดเป็นเรื่องดีนะ ฟันแท้จะได้ขึ้นมาได้ ไม่เกิดฟันคุด ต้องไปผ่าฟันเหมือนอี้โน้ตกู๋นัฐ ที่เจ็บๆ ไง สาวน้อยพยักหน้าเช็ดหน้าเช็ดตาค่อยละเลียดอาหารกลางวันจนเกือบหมด

          สงสารก็สงสารขำก็ขำ หลานสาวตัวน้อยกลัวฟันจะหลุด บวกกับความกังวลใจที่เธอเคยได้ยินว่าน้าสาวน้าชายต้องไปผ่าฟันคุดแก้มโย้ทานอะไรไม่ได้หลายวัน ถึงกับร้องไห้เสียงดัง ทั้งที่เป็๋นคนรื่นเริงอารมณ์ดีมาตลอด อมยิ้มชอบใจประโยคที่คุณยายบอกหลานสาวตัวน้อยว่า  
"ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"

          แค่ประโยคสั้นๆนี้.... แสดงถึงความรักและพร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุข ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงมั่นใจในวิกฤตการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ของสาวน้อยแล้ว...

          สาวน้อยยังเด็กนัก แค่ความเจ็บปวดจากฟันโยกก็ทุกข์ใจมากแล้ว เธอยังไม่รู้ว่าการมีชีวิตในโลกนี้ต้องประสบกับความเจ็บปวดอีกหลายรูปแบบ  แต่ก็ดีใจที่เธอโชคดีที่อยู่ในครอบครัวซึ่งเปี่ยมด้วยความรักต่อเธอ แม้ต่อไปจะต้องประสบกับเรื่องราวใด เชื่อได้ว่าเธอต้องผ่านมันไปได้อย่างดี

          ครอบครัวนี่แหละคือกำลังใจ ที่ช่วยโอบอุ้มเกื้อกูลเราในทุกสภาวะ ไม่ว่าสุข ทุกข์ เศร้า เหงา .... 

         "ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"


หมายเลขบันทึก: 534189เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2013 17:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน 2013 19:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ตอนนี้น้องป่านลูกชายพี่ดาก็กำลังเริ่มพบหมอฟันผ่านไป  2 ครั้งแล้ว จะเกิดสงครามในปากกันทีเดียวทำหลายอย่างมาก  ทำให้คิดถึงพี่แพรตอนเด็กๆกลัวหมอฟันมาก ร้องไห้เสียงดังจนหมอโกรธเลยกับการฉีดยาชา  ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

เรื่องของการปวดฟันนี่ เป็นเรื่องที่ทรมานมากค่ะ

ตอนลูกชายเล็ก ๆ ก็มีปัญหาตอนจะผลัดจากฟันน้ำนมเป็นฟันแท้

ถึงตอนนี้ก็ยังกลัวหมอฟัน  ไม่รู้จะหาวิธีไหน ที่จะให้เขาไปหาหมอฟันได้

เป็นกำลังใจให้หลานสาวตัวน้อย และ ม่า นะคะ

ขอบคุณกำลังใจของพี่ กานดาน้ำมันมะพร้าว ที่ส่งให้น้องโบว์ค่ะ  

คุยกับเพื่อนว่าปัญหาเกี่ยวกับฟันที่พบมากในปัจจุบัน คือเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ต้องผ่าฟันคุด/ดัดฟัน อาจเป็นเพราะฟันน้ำนมไม่หลุด (การดูแลฟันของพ่อแม่ยุคใหม่ดีขึ้นมาก) ทำให้ฟันแท้งอกออกมาไม่ได้จึงคุดอยู่ในเหงือก หรือไม่ก็ฟันเกฟันเหยินเพราะฟันมากกว่าพื้นที่เหงือกจนต้องดัดฟัน เกิดจากโครงสร้างกรามของเด็กเปลี่ยนไป เพราะพ่อแม่นิยมให้ลูกนอนตะแคง หัวจะได้ทุยสวย ส่งผลให้กรามเล็ก ไม่พอให้ฟันแทัขึ้นค่ะ :) 


สวัสดีค่ะคุณครู อิงจันทร์ ณ เรือนปั้นหยา

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ ตอนเด็กๆ แม้จนอายุขนาดนี้แล้ว ก็ยังกลัวๆ หมอฟันค่ะ

ประสบการณ์วัยเด็กนี่ฝังใจจริงค่ะ   ;)


น่ารักจังค่ะ

คุณยายทั้งสองก็อบอุ่นเหลือใจ ....หนูน้อยโชคดีจังเลยค่ะ

ฝันดีนะคะ

 "ไม่ต้องกลัว ม่าอยู่นี่ ม่าเป็นกำลังใจให้"

อ่านแล้ว ชื่นใจคะ

รู้สึกว่า หมอฟัน กับคนไทย (บางส่วน) นี่ เป็นอะไรที่ไม่ค่อยถูกทางกันนะคะ

ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราๆ นี้ยังไม่อยากไปเลย.....


สมัยเด็กๆ ก็เป็นเหมือนกันค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ Bright Lily

น้องคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีค่ะที่เกิดในครอบครัวนี้  ความรัก ความอบอุ่น ความเมตตาอาทรกัน ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นมาโดยตลอด ที่บ้านตั้งแต่รุ่นแม่ยังมีชีวิตอยู่ท่านบอกเสมอว่า... "บ้านเราไม่ตีลูกหลานนะ ดังนั้นเราต้องดูแลสั่งสอนเขาดีๆ รักเขามากๆ เขาจะได้ไม่ดื้อไม่ซนไม่ทำตัวมีปัญหา..." ค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาทักทาย  ฝันดีทุกๆคืนเช่นกันค่ะ   :)

สวัสดีค่ะคุณกระติก~natachoei ที่ ~natadee

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

เราถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กเลยนะคะ เรากลัวหมอ หมอฟัน ตำรวจ... และอื่นๆ ปัจจุบันหมอฟันเก่งๆเพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยมากเลยค่ะ แต่เราก็ยังกลัวอยู่นั่นเองค่ะ  :)


แวะมาชื่นชม...คุณยายน่ารักมากนะคะ...

สวัสดีค่ะคุณ tuknarak

ขอบคุณมากค่ะ น้องโบว์หลานสาวตัวน้อย ยิ้มแป้นเลยค่ะเมื่อเปิดคอมเม้นท์นี้ให้อ่านค่ะ   :)

สวัสดีค่ะท่าน วิชญธรรม

ส่งปริศนาธรรมมาอีกแล้ววววว

ขอบคุณค่ะ

สวัีสดีค่ะอ.ดร. พจนา แย้มนัยนา

ตอนที่ได้ยินประโยคและน้ำเสียงหนักแน่นของคุณยายที่พูดกับหลานสาวแล้ว ยิ้มเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ   :)


เป็นบันทึุกครอบครัวที่น่ารักมากครับ ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณค่ะ Dr. Pop

ดีใจที่มาอ่านและให้กำลังใจไว้ค่ะ  :)

ปล่อยให้เขาร้องไห้...
นั่นคือวิธีการที่ธรรมชาติ มอบมาให้แต่ละคนได้ใช้บำบัดตัวเอง...
ภายใต้การมีพี่เลี้ยงที่ดี...

...ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะอ.แผ่นดิน

น้ำตาคือ...เครื่องมือเยียวยาความทุกข์ท้อ เศร้าเสียใจ กลัว... ค่ะ  

ขอบคุณค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกหลงรักอาม่าไปด้วยค่ะ

ก๊อกๆ อย่าลืมส่งการบ้านวันนี้วันสุดท้ายนะคะ

กำลังใจ เป็นสิ่งสำคัญ ที่ให้ได้ง่าย หากแต่ต้องจริงใจ เช่นบันทึกนี้ นะครับ

..

หลานสาว น่ารัก  ดูแววตา มุ่งมั่นมากเลยนะครับ

ขอบคุณ คุณหยี่งรากฯ ครับ

+ สวัสดีค่ะ...

+ มาชื่นชม..โอบกอด..ความอบอุ่นของคนบ้านนี้ค่ะ...

+ อ่านไปยิ้มไปเลยนิ...เข้าใจ..ลึกซึ้งกะอารมณ์สาวน้อยค่ะ...

+ เพราะสาวน้อยที่บ้านก็เป็นเช่นนี้แล...ซี่แรก ๆนะค่ะ..ซี่หลัง ๆ หล่อนเริ่มชินและเข้าใจชีวิตมากขึ้น..

+ นั่นคือ ประสบการณ์ค่ะ...

+ ด้วยความคิดถึงค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท