ประสบการณ์จากการทำงานที่ฉันได้รับ


ประสบการณ์จากการทำงานที่ฉันได้รับ


          ในช่วงเวลานี้ นับแต่ที่ผู้เขียนได้มาทำงานให้กับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ รวมเกือบ ๙ ปี เต็มแล้ว ในการเดินทางที่ผ่านมาของชีวิตการรับราชการ ส่วนมากชีวิตของผู้เขียนจะมีความสุขกับการทำงานมากกว่า ๒๕ ปีเต็มแล้วสำหรับชีวิตราชการ ในช่วงแรก ๆ ที่รับราชการ ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องงาน เพื่อนร่วมงานมากนัก แต่จะเป็นเรื่องของการที่ต้องจากครอบครัว เพราะสมัยก่อนการบรรจุเข้ารับราชการแต่ละครั้งนั้น ไกลบ้านเสียเหลือเกิน แต่ผู้เขียนก็ต้อง "อดทน" ๆ เพื่อที่จะต้องทำตนเองมีชีวิตที่มั่นคง ลำบากที่ต้องเดินทางกลับบ้านระหว่างที่ทำงาน - บ้าน ต้องกลับทุกสัปดาห์ เนื่องจากภาระของครอบครัวที่ผู้ได้ชื่อว่า "แม่" ต้องกลับไปดูแล "ลูก" เพราะความรัก + ความคิดถึง + ความห่วงใย ที่ในระหว่างสัปดาห์นั้น ต้องให้ยายเป็นผู้ดูแลให้แทน 

           จะมีใครรู้ ใครทราบสักกี่คนว่า ผู้เขียนเคยลำบาก อดทนกับสภาพที่ต้องได้รับกับการต้องเดินทางไกลไปปฏิบัติหน้าที่ที่เรียกว่า "การรับราชการ" แต่ผู้เขียนก็ต้อง "อดทน" แต่ในความอดทนก็แฝงไปด้วย "ความสุข" ๆ ที่เกิดขึ้นจากการได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่มีจิตใจดี มีน้ำใจ มีความเอื้ออาทรต่อกัน ความสุขนี้แหล่ะ!!! ที่เรียกว่า "ความสุขที่เกิดจากการได้ทำงาน" ต่อให้ผู้เขียนมาทำงานไกลสักเพียงใด แต่ผู้เขียนไม่เคยทุกข์ใจ ต่อการทำงาน มีแต่ทุ่มเทความขยัน ความเอาใจใส่ต่อหน้าที่เพื่อให้เกิดผลดีให้มากที่สุดต่อที่ทำงาน จึงทำให้ผู้เขียนรู้ว่า...ในครั้งที่ยังเป็นเด็ก ๆ ที่รับราชการนี้ ประสบการณ์ต่าง ๆ ความอบอุ่นจากพวกพี่ ๆ ที่มอบให้น้องที่รับราชการคนนี้ ระลึกและนึกถึงอยู่เสมอ...การทำงานจะเป็นในลักษณะเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า...แม้ว่า ไกลบ้าน แต่ที่ทำงานของเรานั้น เป็นที่ทำงานที่เต็มไปด้วยความสุข...

           ยามที่ผู้เขียนโตขึ้น ตำแหน่งต่าง ๆ ก็ตามมา ตามมาเพื่อให้ผู้เขียนได้ทดลอง ทดสอบและได้รับการคัดเลือกเป็นผู้บริหาร แม้จะไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง แต่ก็คือ ผู้บริหารระดับกลาง มีหน้าที่รับนโยบายระดับสูงมาสู่การปฏิบัติ...คนเราถ้านึกถึงสัจธรรม ความเป็นจริง ข้อหนึ่งที่ว่า การทำงานย่อมเกิดการผิดพลาด เมื่อผิดพลาดก็ต้องแก้ไขให้ถูกต้อง...นี่คือ หลักของการทำงานง่าย ๆ ที่เป็นเครื่องมือให้ผู้ปฏิบัติได้ปฏิบัติ...ในโลกยุคก่อน ๆ คงไม่มีปัญหา...แต่ในโลกยุคนี้...ทำให้เห็นว่า...การทำงาน ผิดพลาดไม่ได้ เมื่อผิดพลาดต้องถูกลงโทษทันที...มันคงไม่ใช่กระมัง!!! เพราะถ้าถามว่า สมัยก่อนเคยผิดพลาดหรือไม่ ขอตอบได้เลยว่า "มี" เมื่อมีก็แก้ไขให้มันถูกต้อง...

           แต่สำหรับปัจจุบันนี้ ที่นี่...มันไม่ใช่ เขาเหยียบอย่างเดียว เพราะ "อำนาจ" ที่ต่างคนคิดว่า ต้องใช้ "อำนาจ" ในการประหัดประหารให้อีกฝ่ายหนึ่งที่เมื่อทำหน้าที่ผิดพลาดแล้วต้องรับผิดทันที แก้ไขไม่ได้...ผู้เขียนอยากถามว่า...แล้วมีเรื่องการทำงาน กับการแก้ไขการปฏิบัติงานไว้ทำอะไร...คนเราว่าพูดกันด้วยเหตุด้วยผล น่าจะรู้เรื่อง ยิ่งอยู่ในระดับอุดมศึกษาด้วยแล้วละก็...แต่ส่วนใหญ่ก็จะเอาแต่เรื่องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมาเป็นที่ตั้ง ทำให้ผู้เขียนได้ข้อคิดว่า...จริงหรือ!!! ที่คนเรามีการศึกษาสูงแล้วพูดกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะเหตุใดล่ะ...ไม่มีการเห็นใจกัน มีแต่ประโยชน์ของฉันต้องเป็นอย่างนั้น อย่างนี้...แถมปัจจุบันชอบทำแผ่นปลิว โจมตีต่าง ๆ นา นา...ขอเพียงให้ได้เขียนว่าให้เกิดการเสื่อมเสีย...อธิบายแล้วก็ทำเป็นไม่เข้าใจ...ไม่ใส่ใจ...นี่นะหรือที่เขาเรียกว่า...คนมีการศึกษา เป็นระดับชั้นปัญญาชนของประเทศ...มีบางท่านบอกว่า...ท้อได้ แต่อย่าถอย...การทำงานย่อมมีอุปสรรค ขนาดพระพุทธเจ้าทำดีเพียงใดยังถูกมารผจญ มีรึคนอย่างเราจะไม่โดน...เรียกว่า...มารไม่มี...บารมีก็จะไม่เกิด...แต่บางครั้ง ความตั้งใจ ความมุ่งหวังของเรานั้นคือ "การทำงาน" เป็นที่ตั้ง ทำงานอย่างไรให้ประสบผลสำเร็จมากกว่า ๆ สิ่งอื่น...มากกว่าที่จะต้องมานั่งตอบคำกล่าวหาในแผ่นปลิว เพราะว่า "ตัวเรามิได้เป็นเช่นนั้น" เพราะถ้าคนที่รู้เรื่องจริง ๆ จะรู้ว่า การทำงานไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ย่อมเกิดการผิดพลาด เมื่อผิดพลาดก็ต้องแก้ไข...ไม่ใช่เรื่องการทุจริต คอรัปชั่นสักหน่อยที่ผู้เขียนจะต้องมาถูกลงโทษ...ฉลาดรับใช้แต่ไร้ความสามารถ...เป็นหัวเรื่องที่ว่าเกี่ยวกับตัวผู้เขียน ไม่ได้มองว่าผู้เขียนมีความตั้งใจ ๆ ที่จะทำงาน...ผู้เขียนทำงานอะไรให้พวกเขามา เขาไม่เคยมองเห็นสักนิดเดียว ขอให้ได้ว่า เป็นอันใช้ได้...แต่เขากลับบอกว่า...ผู้เขียนเป็นคนรับใช้ และ "รับใช้อย่างใกล้ชิด"  แสดงว่า คนที่เขียนไม่ได้ใช้สมองที่มีรอยหยัก ๆ คิดสักนิดเลยว่า ผู้บริหารรุ่นเดิมนั้นเขาทำอะไรให้อยู่ คิดแต่จะว่าให้เกิดการเสียหาย นี่นะหรือ "ชั้นปัญญาชน"...

           และนี่ก็เป็นอีกช่วงหนึ่งที่ผู้เขียนเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก หลังจากที่เคยโดนถูกดองมาแล้วเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วสำหรับชีวิตราชการ...แต่ความตั้งใจจริง เป็นคนทำงาน มุ่งงานเป็นที่ตั้ง ใครจะกล่าวหา จะว่าอย่างไร ผู้เขียนไม่ใส่ใจ เพราะจิตตั้งใจตั้งแต่แรกว่า "ตัวเราเป็นข้าราชการ มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด" เราก็ขอทำหน้าที่ที่ดีที่สุดสำหรับส่วนราชการ...ในชีวิตการทำงาน เคยคิดว่า "ไม่รอด" แต่เมื่อกาลเวลาพ้นผ่าน เหตุการณ์ต่าง ๆ มันก็จะคลี่คลายไปเอง เหตุการณ์ตอนนี้ คล้าย ๆ กับเหตุการณ์เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วเลย หรือมันครบรอบที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะอายุเรามันครบ ๕๐ เสียด้วย ตามคำทำนายเป๊ะ ว่า "ดวงไม่ค่อยดี"...แต่บัดนี้ คงต้องใช้เวลาให้เป็นตัวผสานความเข้มข้นให้มันเจือจางลงนั่นเอง...นี่คือ "ประสบการณ์ตรง...ที่ผู้เขียนได้รับ อาจไม่เหมือนใคร...บางคนเห็นว่า...ตำแหน่งสูงแล้วจะ Perfect แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่คิด...กว่าจะได้ตำแหน่งนี้มา "หนักหนา สาหัสเชียวแหล่ะ" บางคนบอกว่า "ยิ่งสูง ยิ่งหนาว" เห็นทีถ้าจะจริง...แต่ในที่สูง ความหนาวเย็นเป็นเรื่องธรรมดา ขึ้นอยู่กับที่ว่า "ตัวเราคิดดี + ประพฤติดีและก็ปฏิบัติดีเท่านี้ เราก็อยู่ได้แล้วจนเกษียณอายุฯ กับอาชีพที่เรียกว่า...ข้าราชการ..."

           สำหรับผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย จะได้มาจากการคัดสรรจากบุคลากรในมหาวิทยาลัยและคณะกรรมการในสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้ออกเสียง ยิ่งตอนนี้ มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องศาลปกครองต้องเข้ามาพิจารณาตัดสิน ทำให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติ...เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะทำให้เกิดการพัฒนาได้อย่างไร...เราคนทำงานก็ทำไป ทำตามหน้าที่ แต่ก็มีพวกที่คอยใส่ไข่ โจมตีให้มหาวิทยาลัยเสียหาย แจกแผ่นปลิว ใบโพยต่าง ๆ โจมตีฝ่ายผู้บริหารเดิม (สำหรับคุณงามความดีของผู้บริหารชุดเดิมเขาก็ทำไว้มาก แต่พวกฝ่ายตรงข้ามกลับมองไม่เห็น)... ผู้เขียนมีความคิดเห็นว่า...ทำแบบนี้ไม่ดีเลย น่าจะให้เห็นและสรุปก็ต่อเมื่อคำสั่งของศาลปกครองเป็นที่สิ้นสุดกันมากกว่า...มิควรทำให้เกิดการแตกแยก ลักษณะก็คือ ใครล้มไม่ได้...จ้องจะเหยียบทันที...ระวัง!!! เรื่องกฎแห่งกรรมไว้บ้าง จะต้องได้รับเต็ม ๆ...ถ้าหากต่างก็ยังหลงระเริงกับเรื่องของ "อำนาจ"...ที่ใคร ๆ ก็อยากได้มาครอบครองเสียเหลือเกิน...

           "ขอมอบให้กับคนทำงานทุกคนที่เกิดปัญหาต่อการทำงานในหน้าที่"...ขออย่าได้ท้อถอย ต่อหน้าที่ที่เราได้ปฏิบัติ...เราไม่ได้ทุจริตต่อหน้าที่เสียอย่าง...คำนินทา เป็นเรื่องปกติของ...การทำงานรับราชการ...เหมือนกับคำกล่าวที่เคยพูดว่า...ทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย...ผู้เขียนคิดว่า...ผู้เขียนได้ทำดีที่สุดแล้ว...



หมายเลขบันทึก: 533846เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2013 14:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2013 15:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณค่ะ พี่ครูทิพย์ 

มารไม่มี...บารมีมันก็คงไม่เกิดกระมังค่ะ ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยค่ะ

ใช่ค่ะ ผู้บริหารระดับกลางเหนื่อยสุดๆ ค่ะ

         "ตัวเราเป็นข้าราชการ มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด" เราก็ขอทำหน้าที่ที่ดีที่สุดสำหรับส่วนราชการ...ในชีวิตการทำงาน"

       ประทับใจค่ะ  การมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ให้สมเกียรติข้าราชการ  เป็นความมุ่งมั่น  ศรัทธาในความมุ่งมั่นที่เป็นทิศทางเดียวกัน

       การทำงานก็ต้องเจอปัญหา  เคยท้อบ้าง แต่ต้องฮึดสู้ค่ะ  คิดว่าใครไม่รู้ก็ช่าง แต่คนที่ภูมิใจคือตัวเราเอง

ขอบคุณค่ะ คุณ  ค่ะ ผู้บริหารระดับกลาง โดนทั้งบนทั้งล่างค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณชาญณรงค์ 

ขอบคุณค่ะ ครูเล็ก 

ขอทำหน้าที่ "ข้าราชการที่ดี" เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการรับราชการแล้วละค่ะ 

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจนะคะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท