เมษายน 2556 เวลา 3.00 น.เสียงนาฬิกาปลุกฉันให้ตื่นจากที่นอนเพื่อที่จะไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไป ศูนย์ศีกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา ฉันถึงที่นั้นเมื่อตอนสายๆและแล้วก็ได้เวลาที่ฉันรถจากรถบัส เมื่อฉันลงจากรถบัส ฉันสัมผัสถึงบรรยากาศสดใส มองวิวทิวทัศน์รอบๆได้สุดลูกหูลูกเลยที่เดียวมันเป็นที่ ที่บรรยายดีมาก บันทึกการเดินทางครั้งนี้ฉันจะพาทุกคนไปท่องเที่ยว ไปเดินทางตามรอยฝ่าพระบาทของพระองค์ท่าน ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านบันทึกการเดินทาง ความทรงจำ และภาพต่างๆ เมื่อเรานับย้อนหลังกลับไปที่ 50 ปีก่อน พื้นที่ของเขาหินซ้อนเป็นพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ที่เขียวขจี แต่ด้วยการทำการเกษตรที่ผิดวิธี การบุกรุกพื้นที่เพื่อใช้เป็นที่ทำมาหากิน เวลาเพียง 20 ปี ก็เปลี่ยนพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ให้เป็นทะเลทราย ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อีก แม้แต่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นพืชที่ทน ไม่ต้องการน้ำมาก ก็ยังไม่สามารถปลูกได้ ในปี พ.ศ. 2520 ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจึงร่วมกันน้อมเกล้าน้อมถวายที่ดินผืนนี้ จำนวน 264 ไร่ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงสร้างพระตำหนัก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีพระราชดำรัสว่า "...ก็เลยถามผู้ที่ให้ที่นั้นนะ ถ้าหากไม่สร้างพระตำหนัก แต่ว่าสร้างเป็นสถานที่ที่จะศึกษาเกี่ยวกับการเกษตรจะเอาไหม เขาก็บอกยินดี ก็เลยเริ่มทำในที่นั้น..." ทำให้จุดเริ่มต้นของการจัดตั้ง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนตามพระราชดำริ จึงเริ่มขึ้น ทำให้ผืนแผ่นดินที่แห้งแล้งแม้แต่ปลูกมันสำปะหลังก็ไม่ขึ้น แต่เดี๋ยวนี้ผืนแผ่นดินแห่งนี้กลับมาชุ่มช่ำสดใด เขียวขจีอีกครัง .....
มีการจัดทำโครงการสวนป่าสมุนไพรซึ่งมีพื้นที่ถึง 15 ไร่ ทีเดียว
<<<อันนี้ใครเห็นแล้วต้อง อยากได้เลยเชียว
งานปศุสัตว์ที่ฉันไปดูงานมามีสัตว์น่ารักๆมากมายเช่น
กวางฟอลโล่ สวยงามป่ะล่ะ? นกกระจอกเทศขอย๊าว ยาว
ส่วนทัศนีย์ภาพน่ะหรอค่ะมันสวยงามมาก
สุดท้ายนี้.... ฉันอยากให้ทุกคนไปเที่ยวศึกษาดูงานที่ ศูนย์ศีกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อคุณไปคุณจะได้ความรู้ใหม่ๆมาเต็มกระเป๋าเลยที่เดียวค่ะ
ไม่มีความเห็น