เมื่อ "อึดอัด" ก็ต้องการ "รูระบาย"


"เพราะมนุษย์มีกลไกในการป้องกันตัวเองจากสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นให้ใครหรือนายพลที่ไหนมาขับไล่ออกจากประเทศ หรือออกจากบ้านของตัวเองแต่อย่างใด"

"อึดอัด" คำนี้ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายเป็นคำจำกัดความว่าอย่างไรดีเพื่อให้มันครอบคลุมถึงความรู้สึกที่ว่านั้น คนที่เกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมา มันน่าจะเป็นความรับรู้จากภายใน แต่อธิบายไม่ได้ ใครก็ตามที่บังเอิญเกิดความรู้สึกแบบนี้คงไม่สบายกาย ไม่สบายใจ และต้องการที่จะปลดปล่อย หรือระบายมันออกไป การปล่อยให้เกิดความรู้สึกนี้เพิ่มพูนสะสมย่อมไม่เป็นผลดีต่อสภาพจิตใจของคนๆนั้นอย่างแน่นอน

ที่จริงเราคงไม่ต้องกังวลให้มากไปหรอกครับ เพราะมนุษย์มีกลไกในการป้องกันตัวเองจากสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นให้ใครหรือนายพลที่ไหนมาขับไล่ออกจากประเทศ หรือออกจากบ้านของตัวเองแต่อย่างใด ซิกมันด์ ฟรอยด์ Sigmund Freud (1856-1939) บิดาแห่งทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ได้อธิบายเรื่องเกี่ยวกับกลไกป้องกันตนเอง (Defence mechanisms)ของมนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของจิตจากผลกระทบต่างๆไว้นานแล้ว และก็คิดว่าทุกคนคงได้ใช้กลไกนี้กับตัวเองมาแล้วแต่จะมากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ที่เขียนมานี่ไม่ได้ต้องการเอาเรื่องจิตวิทยามาบันทึกหรอกนะครับ บังเอิญวันนี้ว่างๆเลยเปิด Youtube ฟังเพลงเพลินๆแล้วไปเจอเอาเพลงหนึ่งของ Jim Croce นักร้องอีกคนที่ชื่นชอบ (ถ้ายังอยู่คงมีเพลงเพราะๆมาให้ฟังอีกเยอะแยะ)เพลงนี้พูดถึงชายที่มีความรู้สึกเหมือนอึดอัดสับสน ต้องการการระบายอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องความรัก ไม่ใช่กับเพื่อนสนิทนะครับ แต่เขากลับไประบายกับพนักงานต่อสายโทรศัพท์ (Switchboard Operator) ซึ่งเธอ(หรือเขา)ก็คงให้ความร่วมมือรับฟังแต่โดยดี สามครั้งที่เขาร้องขอความช่วยเหลือจากพนักงานต่อสายโทรศัพท์ เป็นสามครั้งที่เขาได้ปลดปล่อยทีละน้อยทีละน้อยจากความอัดอั้นเหลือล้นไปสู่ความเป็นปกติและหลังจากนั้นก็ไม่เกิดกิจกรรมอะไรอีกเป็นความว่างเปล่าที่เป็นสุข

ครั้งแรกเขาขอให้ "operator" หาหมายเลขโทรศัพท์ของคนรักเก่า (ที่ตอนนี้อยู่กับอดีตเพื่อนรักของเขา) เพื่อที่จะบอกอะไรบางอย่างกับพวกเขา โดยอ้างว่าเบอร์โทรศัพท์ที่จดไว้ในสมุดของเขามันเก่าและเลอะเลือนไปหมดแล้ว

Operator
Oh, could you help me place this call?
See, the number on the matchbook
Is old and faded

She's livin' in L.A.
With my best old ex-friend Ray
A guy she said she knew well
And sometimes hated

ครั้งที่สองเขาขอเบอร์โทรศัพท์อีกครั้งเพราะอ่านที่ "operator" จดให้ไม่ออก มันมีอะไรอยู่ในตาของเขาก็ไม่รู้บดบังอยู่ (สงสัยจะเป็นน้ำตา)

Operator
Oh. could you help me place this call?
'Cause I can't read the number
That you just gave me

There's something in my eyes
You know it happens every time
I think about the love
That I thought would save me

ครั้งที่สามเขากล่าวขอบคุณ "operator" ที่แสนดีพร้อมกับบอกให้ลืมเรื่องเบอร์โทรที่ว่านั่นเสีย เพราะจริงๆแล้วไม่มีใครที่เขาต้องการจะคุยด้วยหรอก

Operator
Oh, let's forget about this call
There's no one there I really wanted to talk to

Thank you for your time
Oh, you've been so much more than kind
You can keep the dime




เรื่องนี้จบลงได้ด้วยดีผมว่าต้องขอบคุณพนักงานต่อสายโทรศัพท์ (operator) คนนี้นะครับ ขอบคุณสำหรับการเป็น "รูระบาย" อีกหน้าที่พิเศษเพื่อคน "อึดอัด" ครับ

ขอขอบคุณ
วิดีโอเพลง Operator จาก
http://www.youtube.com/watch?v=FPu_G-T28iU
เนื้อเพลง Operator จาก
http://www.lyricsfreak.com/j/jim+croce/operator_10149463.html

หมายเลขบันทึก: 532354เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2013 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2013 00:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นเพลงที่จังหวะฟังเพลินคะ

แม้แต่พนักงานต่อสายโทรศัพท์ก็สามารถ 'เยียวยา' เพื่อนมนุษย์ได้

เนื้อเพลงว่า ขอบคุณที่ 'ฟัง' แต่ไม่ต้องต่อสายหรอก
ทำให้นึกถึง คนมาปรึกษาปัญหาชีวิต เขาก็มักไม่ต้องการคำตอบวิธีแก้ จากเรานัก ขอแค่'ฟัง' ก็ดีขึ้นแล้ว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท