๖ เมษายน ๒๕๕๖
เรียน เพื่อนครู ผู้บริหาร และผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน
วันจันทร์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ แสงแดดยังแผดเผาตั้งแต่เช้า ขึ้นไปนั่งทำงานเอกสารความดีความชอบทั้งหลาย เพื่อความถูกต้องเรียบร้อย สาย ๆ กระแสไฟฟ้าดับเพราะสายไฟระเบิดที่เกิดจากการช๊อตจนสายไหม้ จึงต้องเดินเกร่ไปมายังกลุ่มงานต่าง ๆ เที่ยงไปทานข้าวที่ร้านกุ้งเต้น อึ้งจั้วกี่ เจ้าเก่า ที่ว่าเจ้าเก่าเพราะเปิดมานาน ลูกค้าก็เป็นคนเดิม ๆ หน้าเก่าทั้งสิ้น โดยเฉพาะข้าราชการบำนาญ จะเรียกว่าเป็นสโมสรของคนกลุ่มนี้ก็ว่าได้ มีผู้อำนวยการโรงเรียนบางโพธิ์เหนือคนใหม่ นายศักรินทร์ ยะลา ร่วมโต๊ะด้วย บ่ายกลับสำนักงานไฟฟ้าซ่อมเสร็จจึงทำงานต่อได้
วันอังคารที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๖ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพในวันนี้ ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงพระเจริญ โรคภัยไข้เจ็บอย่าได้เบียดเบียน มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง อยู่เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป เช้าแวะทานข้าวแกงไป ๑ จาน ร้านเปิดใหม่ตรงข้ามธนาคารกรุงไทย สาขาใหญ่ป ุมธานี ซื้อเหมาข้าวต้มมัดไปกินต่อที่สำนักงาน เที่ยง ผอ.รร.บ้านคลองเจ้าเมือง ซื้อแกงส้มพุงปลาช่อนจากร้านนายหัวชาติ ริมถนน ๓๔๕ มาฝาก บ่ายประชุมจัดสรรอัตราครูเกษียณก่อนกำหนด โรงเรียนเดิมถ้าครูไม่เกินเกณฑ์จัดสรรคืนให้หมด ที่เพิ่มเติมเข้ามา สพฐ. เพิ่มอัตราจากเขตพื้นี่อื่นมาให้อีกประมาณ ๓๐ อัตรา แต่ก็ต้องกันไว้คัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีมีเหตุพิเศษ ๒๔ อัตรา รองรับการสอบแข่งขันที่กำลังจะเปิดสอบอีกประมาณ ๑๐ อัตราเพื่อเพิ้มวิชาเอกที่เปิดสอบได้มากขึ้น
วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๖ เช้าเดินทางไปสำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อประชุมคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหาคณะกรรมการเลือกตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ของเทศบาลตำบลบางหลวง มีผู้รับสมัคร ๑๑ ราย กรรมการคณะนี้ต้องเลือกให้เหลือ ๘ ราย ส่งรายชื่อไปให้ กกต.จังหวัดคัดเลือกให้เหลือ ๔ ราย เพื่อทำหน้าที่กรรมการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล เทศบาลตำบลบางหลวงที่กำลังจะหมดวาระลง กลับสำนักงานเขตเป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาเว็บไซด์ของกลุ่มงาน เป็นการฝึกใช้โปรแกรมสำเร็จรูปจุมลา บ่ายทำงานแฟ้มเอกสารที่ห้องจนเย็น
วันพฤหัสบดีที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๖ เช้าเป็นประธานเปิดอบรมเทคนิคการสอนคณิตศาสตร์สำหาับครูในโรงเรียนขยายโอกาส ที่ห้องประชุมโรงเรียนคลองบ้านพร้าว ได้วิทยากรระดับชาติมาให้ความรู้ คือ ดร.ปราโมทย์ ขจรภัย และทีมงานที่ม่ประสบการณ์ในการจัดแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับนานาชาติมาแล้วอย่างช่ำชอง เปิดเสร็จเดินทางไป อบจ.ปทุมธานี ประชุมกรรมการคัดเลือกปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นักบริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด ๙) เพื่อแต่งตั้งในตำแหน่งที่ว่างมานาน วันนี้ประชุมกำหนดเกณฑ์การคัดเลือก กำหนดกรรมการคัดเลือก เที่ยงก็เลิกประชุม มาทานข้าวที่ร้านรัชชานนท์ถนนเลี่ยงเมือง บ่ายทำงานแฟ้มเอกสารตามปกติ
วันศุกร์ที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๖ เช้านัดประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อปรึกษาหารือกรณีมีผู้บริหารต้องการจะย้ายออกจากโรงเรียนเดิมด้วยปัญหาที่รุมเร้า แต่เมื่อดูขนาดโรงเรียนแล้วไม่เหมาะสมที่จะดำเนินการให้ราบรื่นทั้งเรื่องกระบวนการย้ายและปัญหาในอนาคต จึงเห็นพ้องต้องกันว่าชะลอกันไว้ก่อน มอบหมายให้รองผ้อำนวยการสำนักงานเขตฯ ที่ดูแลพื้นที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาไปก่อน คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการคัดเลือกครูผู้ช่วยออกเก็บข้อมูลเพื่อปฏิบัติการตามมติ ก.ค.ศ. ข้อมูลเบื้องต้นคงจะสามารถรายงาน อ.ก.ค.ศ. เขต ในการประชุมนัดที่จะถึงนี้
การสอบเป็นขุนนางจีนในอดีต กับกลเม็ดกลโกง
ไม้กระดานสองแผ่นที่ผู้เข้าสอบสามารถเปลี่ยนเป็นที่วางเขียนหรือใช้ปูนอน
จากเรื่องสนามสอบแข่งขันเฟ้นหาผู้มีความรู้ความสามารถเข้ารับราชการเป็นขุนนางจีนในอดีตที่มีขึ้นอย่างเป็นทางการในสมัย?ราชวงศ์สุย(ค.ศ.๕๘๑- ๖๑๘) มาพูดต่อในเรื่องของข้อสอบกันบ้าง ซึ่งข้อสอบในสมัยก่อนก็เป็นการสอบแบบทดสอบความจำ ที่ห้ามนำตำราใดๆ ติดตัวเข้าสอบ โดยจะมีทหารคอยจับตาอย่างเข้มงวดตลอดการสอบ ซึ่งการสอบระดับท้องถิ่นในอดีตต้องสอบด้วยกันสามวิชา หนึ่งวิชากินเวลาร่วมสามวันสามคืน รวมแล้วใช้เวลาสอบกัน ๙ วัน ๗ คืนได้ ดังนั้นผู้เข้าสอบจะอาศัยห้องสอบเป็นที่หลับนอนด้วย
โดยในยุคแรกนั้นวิชาที่ทดสอบยังไม่มีความหลากหลายนัก เป็นเพียงข้อทดสอบเกี่ยวกับหลักการและนโยบายด้านการเมืองการปกครองของประเทศ พอถึงสมัย ราชวงศ์ถัง (ค.ศ.๖๑๘- ๙๐๗) ลักษณะของข้อสอบจึงค่อยมีความหลากหลายรอบด้านมากขึ้นและคล้ายกับในปัจจุบัน คือ นอกจากทดสอบความรู้ในเนื้อหา "อู่จิง" หรือคัมภีร์ทั้งห้าแห่งหลักปรัชญาลัทธิขงจื๊อเป็นสำคัญแล้ว ยังมีคำถามทดสอบความรู้ความสามารถในเรื่องของพระราชกฤษฎีกา การอธิบายความหมายของคำที่กำหนด ความเข้าใจในเรื่องของตัวเลขการคำนวณ เป็นต้น และยังมีลักษณะของคำถามแบบให้เติมคำในช่องว่าง โดยดึงเนื้อหาจากคัมภีร์ทั้งห้าออกมาตั้งเป็นคำถามที่มีการปิดทับข้อความบางส่วนไว้ เพื่อทดสอบความแม่นยำในเนื้อหาของคัมภีร์ของผู้เข้าสอบนั่นเอง
ตำราคัดลอกขนาดจิ๋วเพื่อแอบพกติดตัวเข้าห้องสอบ
โดยในสมัยราชวงศ์ซ่งได้ใช้วิธีการ "พรางตัวตน" และ "คัดลอกใหม่" คือ ปิดทับไม่ให้รู้ถึงข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อแซ่ ภูมิลำเนาของผู้เข้าสอบที่เขียนระบุไว้บนกระดาษคำตอบ เปลี่ยนเป็นใส่หมายเลขกำกับไว้แทน และจัดให้มีผู้ทำการคัดลอกคำตอบทั้งหมดใหม่ เพื่อป้องกันผู้ตรวจข้อสอบที่อาจเห็นชื่อแซ่แล้วรู้จักคุ้นเคยหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ และแม้จะปิดบังชื่อแซ่แล้วแต่ก็อาจจำลายมือผู้เข้าสอบได้ ทำให้เกิดมีใจเอนเอียงในระหว่างการตรวจอ่านเพื่อให้คะแนนสอบนั่นเอง ซึ่งต่อมาในสมัยราชวงศ์หยวน หมิงและชิง ก็ได้ยึดถือวิธีการทั้งสองอย่างนี้มาใช้ตามเป็นแนวทางในการตรวจให้คะแนน
แต่ไม่ว่าจะเข้มงวดอย่างไรก็ยังคงมีผู้ที่ไม่นึกหวั่นเกรงเหมือนต้องการจะลองของ สรรหาวิธีโกงการสอบสารพัดรูปแบบมีมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยกลโกงในอดีตก็มีทั้งแบบพึ่งตนเองที่แอบจดโพยใส่กระดาษยัดไว้ใต้รองเท้าหรือเขียนบนเสื้อผ้าสวมติดตัวเข้าห้องสอบ หรือพึ่งคนอื่นโดยการให้ผู้อื่นไปสอบแทน รวมถึงพึ่งสัตว์เลี้ยงอย่างนกพิราบ
มีเรื่องเล่าเป็นตัวอย่างขำๆ ว่า มีผู้สอบรายหนึ่งได้เลี้ยงและฝึกให้นกพิราบบินไปหาตนในห้องสอบตอนกลางคืน ซึ่งผู้สอบก็จะแอบจดคำถามใส่กระดาษเล็กๆ ผูกติดไว้ที่ขานกเพื่อให้บินนำกลับไปให้ทางบ้าน ซึ่งทางบ้านก็ได้จ้างผู้รู้มาเขียนคำตอบและให้นกนำส่งกลับมาให้อีกที แต่ด้วยความที่ทางบ้านเกรงว่าผู้สอบจะลอกไม่ครบ จึงเขียนเตือนไว้เล็กๆ ที่ตอนท้ายของหน้าแรกว่า "มีต่อด้านหลัง" คาดไม่ถึงว่าผู้สอบจะลอกข้อความนี้ไปด้วย ผลคือถูกจับได้ในท้ายที่สุด
ที่มาข้อมูล unigang.com
กำจัด คงหนู
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต ๑
ไม่มีความเห็น